รีวิวฉบับที่ 2005 … สำหรับใครที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศย่านลาดพร้าว วันนี้เราจึงจะพามาชมโครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 ซึ่งอยู่ในซอยลาดพร้าว 41 แยก 16 ห่างจากปากซอยประมาณ 1.2 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วย MRT ลาดพร้าวมาต่อวินมอเตอร์ไซค์ได้ จุดเด่นภายในบ้านดีไซน์ให้มีช่องแสงและต้นไม้ตรงกลาง แบ่งพื้นที่การใช้งานได้ดี สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ และมีที่จอดรถแบบ Hydraulic สามารถจอดรถได้ถึง 4-6 คันค่ะ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9.29 ล้านบาท เราไปชมกันค่ะ

Fact @ 28 November 2019

  • Neo Space @ Work (นีโอสเปซ แอท เวิร์ค ลาดพร้าว 41)
  • บริษัท นีโอ 3241 ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • UPPER-HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนน ลาดพร้าว เขต จตุจักร
  • เนื้อที่โครงการ 1-1-00 ไร่ จำนวน 15 ยูนิต
  • โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.3 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 4-6 ที่จอดรถ
    ** ที่จอดรถสามารถเลือกได้หลาย Option
    – ช่องจอดปกติไม่เอาที่จอดรถ Hydraulic สามารถจอดได้ 4 คัน
    – ช่องจอดปกติ + 1 ที่จอดรถ Hydraulic สามารถจอดได้ 5 คัน
    – ช่องจอดปกติ + 2 ที่จอดรถ Hydraulic สามารถจอดได้ 6 คัน ( หากเพิ่มที่จอดรถ Hydraulic ทางโครงการมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
  • ราคาเริ่มต้น 9.29 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.80 เมตร / ชั้น 2 – 2.40 เมตร/ ชั้น 3 – 4.00 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 140,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี Q1 2562
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ Q3 2563
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 097 946 7995

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.810763, 100.586470
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 41 บริเวณลาดพร้าว 41 แยก 16 ซึ่งซอยนี้สามารถเชื่อมต่อกับซอยรัชดาภิเษก 32 เพื่อไปออกถนนรัชดาภิเษก หรือซอยลาดพร้าววังหินได้ ซึ่งทำเลนี้เป็นทำเลที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้นะคะ โครงการจะอยู่ใกล้กับสถานี MRT ลาดพร้าว ห่างจากสถานีประมาณ 2.4 กิโลเมตร สามารถต่อวินมอเตอร์ไซค์ได้ อีกทั้งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีภาวนา อยู่บริเวณด้านหน้าซอยลาดพร้าว 41 (ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร)ด้วย จะทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถสะดวกขึ้นอีกค่ะ

โครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 อยู่ในซอยลาดพร้าว 41 แยก 16 ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถเข้าออกได้ 3 ทางเลย ซึ่งจะมีเส้นทางดังนี้

ถนนรัชดาภิเษก : ถ้าวิ่งมาจากถนนรัชดาภิเษก สามารถเลี้ยวเข้าถนนลาดพร้าวแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาดพร้าว 41 ได้เลย ซึ่งซอยนี้จะไปเชื่อมต่อกับซอยรัชดาภิเษก 32 ทำให้วิ่งไปยังแยกรัชโยธินเพื่อเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินได้ หรือจะเข้าเมืองไปทางฝั่งพระราม 9 ต่อไปยังอโศก สุขุมวิท ก็สะดวกค่ะ

ถนนประเสริฐมนูกิจ : ใครที่มาจากนวมินทร์ก็สามารถเข้าโครงการจากถนนประเสริฐมนูกิจ เข้ามาทางถนนลาดปลาเค้า เชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าววังหิน แล้วมาเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 ต่อกับลาดพร้าว 41 ได้ ส่วนทางออก สำหรับคนที่ใช้ถนนประเสริฐมนูกิจจะไปเชื่อมต่อกับแยกเกษตร หรือออกไปทางรามอินทราได้ค่ะ

ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : สำหรับใครที่ใช้เส้นเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา ก็สามารถใช้ทางเข้าออกผ่านถนนสังคมสงเคราะห์ได้ และเส้นนี้ยังเชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัช ให้เป็นตัวเลือกในการเดินทางด้วยทางด่วนด้วยค่ะ

สำหรับทางด่วนในทำเลนี้ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ค่ะ ซึ่งจุดขึ้น-ลงทางด่วนจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5-6 กิโลเมตร

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆกับโครงการในระยะเดิน มีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารตามสั่งอยู่เยื้องๆกับที่ตั้งโครงการเลย นอกจากนั้นยังมีร้าน CP Fresh Mart และ 7-Eleven อยู่ด้านข้างห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 40 เมตรเท่านั้นเองค่ะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะอยู่บนถนนลาดพร้าววังหิน ที่มี Community Mall , Hyper Market, ร้านค้า, ร้านอาหารอยู่ตลอดทั้งเส้น หรือเพียงเชื่อมมายังซอยรัชดาภิเษก 32  ก็จะมีร้านอาหารอย่างบุฟเฟ่ต์, คาเฟ่, ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ฯลฯ ให้ได้เลือกแวะก่อนกลับบ้านได้อีกจุดหนึ่งค่ะ

ไกลออกมาอีกหน่อย ก็จะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์เป็นจุดใหญ่ๆคือ ที่ห้าแยกลาดพร้าว มีศูนย์การค้าอย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ หรือที่แยกรัชโยธินเองก็จะมีทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าอย่างเมเจอร์ รัชโยธิน และมหาวิทยาลัยเกษตร และสุดท้ายฝั่งถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา นั้นก็มีห้างอย่าง Central East Ville, CDC, Crystal Park, The Walk และตลาดนัดเลียบด่วน ที่สามารถมาเที่ยวเล่นกันได้เช่นกันค่ะ โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงเลย

สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะพาทุกคนเริ่มจากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเป็นถนนที่มีการจราจรหนาแน่นน้อยกว่าถนนลาดพร้าว สำหรับใช้เลี่ยงรถติดได้ค่ะ ซึ่งการเดินทางจะเข้าไปยังถนนสังคมสงเคราะห์ ตรงไปยังถนนโชคชัย 4 และถนนลาดพร้าววังหิน แล้วไปทะลุออกซอยลาดพร้าว 41 ตรงไปเรื่อยๆจะเห็นโครงการทางขวามือที่ซอยลาดพร้าว 41 แยก 16 ค่ะ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร

การเดินทาง

Image 1/12
เริ่มจากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตรงไปช่วงก่อนถึงถนนลาดพร้าวจะมีทางขึ้นสะพาน ให้ตรงไปตามป้ายบอกทางรามอินทราค่ะ

เริ่มจากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตรงไปช่วงก่อนถึงถนนลาดพร้าวจะมีทางขึ้นสะพาน ให้ตรงไปตามป้ายบอกทางรามอินทราค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 มีลักษณะเป็นชุมชนพักอาศัย มีรถสัญจรไปมาในซอยลาดพร้าว 41 อยู่ตลอดทั้งวัน แต่ไม่หนาแน่นมากนัก ส่วนใหญ่รอบๆที่ตั้งโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออย่าง CP Fresh Mart และ 7-Eleven สำหรับเดินออกมาซื้อของได้ง่าย ในซอยาดพร้าว 41 แยก 16 เองก็เป็นซอยบ้านพักอาศัย ไม่ค่อยมีรถสัญจรเท่าไหร่ค่ะ ค่อนข้างสงบทีเดียว ซึ่งโดยรวมก็เป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยนั่นเอง

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารแถวสูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 3 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ซอยลาดพร้าว 41 แยก 16 ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยลาดพร้าว 41 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

บรรยากาศด้านหน้าที่ตั้งโครงการซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่สำนักงานขายค่ะ แต่เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีบ้านในโครงการ 3 ยูนิตที่หันหน้าติดกับซอยลาดพร้าว 41 เลย

ทางทิศตะวันตก ติดกับซอยลาดพร้าว 41 และฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

มองไปทางทิศเหนือก็จะเจอกับ CP Fresh Mart และ 7-Eleven อยู่หน้าซอยลาดพร้าว 41 แยก 18 ค่ะ

อีกฝั่งก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยว ให้พนักงานที่อยู่ในโครงการเดินออกมาซื้อตอนกลางวันได้สบายๆ

บรรยากาศในซอยลาดพร้าว 41 แยก 16 ค่อนข้างเงียบสงบไม่มีรถสัญจรมากเท่าไหร่

ตรงข้ามกับพื้นที่โครงการทางทิศใต้จะเป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น เป็นส่วนใหญ่ค่ะ

ด้านในซอยลาดพร้าว 41 แยก 16 เป็นซอยตัน ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้นค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Plaza Lagoon ~ 2 กิโลเมตร
  • วัดลาดพร้าว ~ 2 กิโลเมตร
  • Green Plaza ~ 2.5 กิโลเมตร
  • The JAS ~ 2.5 กิโลเมตร
  • รพ.เปาโล โชคชัย 4 ~ 2.5 กิโลเมตร
  • ตลาดโชคชัย 4 ~ 2.9 กิโลเมตร
  • ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~ 3.4 กิโลเมตร
  • ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 3.7 กิโลเมตร
  • ศาลอาญา ~ 3.9 กิโลเมตร
  • Big C Extra ลาดพร้าว ~ 4.1 กิโลเมตร
  • Major Cineplex รัชโยธิน ~ 5.6 กิโลเมตร
  • Union Mall ~ 5.6 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 6 กิโลเมตร
  • ม.เกษตรศาสตร์ ~ 7.1 กิโลเมตร
  • Esplanade รัชดา ~ 7.9 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ บนที่ดิน 500 ตารางวา มีทั้งหมด 15 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการที่ไม่จัดสรร ทำให้ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางนะคะ ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างเฟสแรก 6 ยูนิตแล้ว มีกำหนดการแล้วเสร็จทั้งหมด ประมาณเดือนกันยายน ปี 2563 ค่ะ แบบบ้านภายในโครงการจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด คือ โฮมออฟฟิศสูง 3 ชั้นซึ่งจะมีผังเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

ผังของโครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 มีทั้งหมด 15 ยูนิต แบ่งขายออกเป็น 2 เฟส คือ ด้านในสุด (เฟส1) มี 6 ยูนิต แปลงมาตรฐาน (ที่ดิน 27-28 ตารางวา) 4 หลังและแปลงมุม (ที่ดิน 38-43 ตารางวา) 2 หลัง, เฟส 2 ก็จะมีอีก 1 ชุดที่เป็นแปลงมาตรฐาน 4 หลังและแปลงมุม 2 หลังค่ะ ทั้ง 2 ช่วงนี้จะมีด้านหลังทางทิศเหนือติดกับบ้านพักอาศัยที่เป็นอาคารแถวสูง 2 ชั้น และด้านหน้าบ้านทางทิศใต้ ติดกับซอยลาดพร้าว 41 แยก 16 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นค่ะ ส่วนด้านนอกสุดจะมี 3 ยูนิตที่หันหน้าเข้ากับซอบลาดพร้าว 41 เลย ซึ่งจะมีแปลงมาตรฐาน 1 หลังและแปลงมุม 2 หลังค่ะ ซึ่งแต่ะเฟสนั้นไม่ได้จัดสรรที่ดินค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ระบบประตูเปิด-ปิดหน้าบ้านแบบอัตโนมัติ พร้อมรีโมททุกหลัง
  • ลิฟต์จอดรถอัตโนมัติ


Product Walkthrough

แบบบ้านในโครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 มีแบบเดียว คือ ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.30 เมตร มีพื้นที่ใช้สอย 230 ตารางเมตร (ถ้าเป็นหลังมุมจะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 300 ตารางเมตรค่ะ) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำพื้นที่ทำงานภายในบ้าน มีพนักงานไม่เยอะมาก ประมาณ 3-10 คน ภายในบ้านเนื่องจากไม่ได้เป็นโครงการจัดสรรทำให้ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางและรปภ. ซึ่งถ้าใครต้องการความปลอดภัยมากขึ้นอาจจะเลือกติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมได้นะคะ

ชั้น 1 ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถหลาย Option ซึ่งเราสามารถเลือกได้ดังนี้

  • ช่องจอดปกติไม่เอาที่จอดรถ Hydraulic สามารถจอดได้ 4 คัน
  • ช่องจอดปกติ + 1 ที่จอดรถ Hydraulic สามารถจอดได้ 5 คัน
  • ช่องจอดปกติ + 2 ที่จอดรถ Hydraulic สามารถจอดได้ 6 คัน ( หากเพิ่มที่จอดรถ Hydraulic ทางโครงการมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)

ซึ่งบริเวณที่จอดรถจะมีต้นไม้ใหญ่สูง 3 ชั้น ด้านบนเป็นช่อง Sky Light ส่องลงมาถึงด้านล่าง ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับบ้านได้ ส่วนด้านในเมื่อเข้าบ้านมาแล้วจะเจอกับพื้นที่รับแขก หรือนั่งเล่น และยกระดับขึ้นมาอีกส่วน สามารถทำเป็นพื้นที่ครัว หรือที่ทำงานได้ค่ะ ชั้นนี้จะมีห้องน้ำ 1 ห้องเป็น Powder Room สำหรับแขกหรือพนักงานในออฟฟิศ

ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่โล่งเชื่อมต่อกัน สามารถกั้นแบ่งเป็นพื้นที่การใช้งานด้านหน้าบ้าน และด้านหลังบ้านได้ โดยมีต้นไม้ใหญ่ตรงกลางเป็นจุดพักสายตา เพิ่มวิวสีเขียวให้กับตัวบ้าน ห้องด้านหน้าบ้านจะเป็นห้อง Double Volume สูงประมาณ 5.70 เมตร มีช่องแสงสูงทำให้ห้องนี้ดูค่อนข้างโปร่งที่เดียวค่ะ ส่วนห้องด้านหลังจะมีระเบียงและห้องน้ำส่วนตัวและพื้นที่อาบน้ำมาให้ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นห้องนอนได้

ชั้น 3 หากเป็นบ้านมาตรฐานจะมีผนังกั้นมาให้เป็นห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำใช้ร่วมกันด้านนอก สำหรับคนที่ไม่ใช้เป็นห้องนอนสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องประชุม ห้องพักผ่อน หรือพื้นที่อเนกประสงค์ได้ เนื่องจากผนังเป็นผนังก่ออิฐ ทำให้สามารถทุบต่อเติมได้ค่ะ ซึ่งฝ้าเพดานชั้นนี้จะอยู่ที่ประมาณ 4.00 เมตร ซึ่งสามารถทำเป็นชั้น Loft เพิ่มเติมแบบห้องตัวอย่าง ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้มากขึ้นด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในบ้านจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

ด้านหน้าบ้านจะมีซุ้มประตูรั้วและรั้วแบบเปิดขึ้นด้านบนมาให้นะคะ ข้อดีคือสามารถต่อเติมหลังคาที่จอดรถเพิ่มเติมได้ หรือใครอยากตกแต่งด้านหน้าบ้านให้สวยงามก็เพิ่มการตกแต่งที่ซุ้มได้ บริเวณด้านหน้าบ้านมีไฟติดตั้งมาให้ 2 จุด แต่เนื่องจากเราเข้ามาเก็บภาพก่อนจึงยังมีบางส่วนที่ยังทาสีไม่เรียบร้อยนะคะ

บริเวณลานจอดรถมีความกว้างประมาณ 5.30 เมตร สูง 4.00 เมตร ในบ้านตัวอย่างหลังนี้จะเป็น Option ที่สามารถจอดรถได้ 4 คัน ซึ่งจะเป็นแบบจอดบนพื้น 3 คัน (ถ้าเอากระถางต้นไม้ออก) และบนที่ยกรถได้อีก 1 คัน พื้นที่จอดรถจะเป็นพื้นคอนกรีตขัดหยาบ

ทางโครงการจะให้ที่จอดรถแบบ Hydraulic แบบนี้มาให้หลังละ 1 เครื่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่จอดรถ เหมาะสำหรับรถเจ้าของบ้าน หรือรถที่ไม่มีการใช้งานบ่อยมากนัก แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม สามารถเพิ่มได้อีก 1 ซึ่งทางโครงการจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

บริเวณที่จอดรถจะมีต้นไม้ปลูกมาให้ทุกยูนิตแบบเดียวกับในภาพเลยค่ะ โดยจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลาง ตกแต่งด้วยต้นเฟิร์นและกรวดหิน ซึ่งเป็นการเพิ่มทัศนียภาพให้กับบ้านได้ค่อนข้างดีค่ะ

ต้นไม้ใหญ่ตรงกลางจะมีความสูงอยู่ที่ 2-3 ชั้น ทะลุไปจนถึงด้านบน ซึ่งทางโครงการออกแบบบ้านให้มีช่องแสงส่องลงมาถึงด้านล่างได้ ทำให้วิวจากชั้นอื่นๆดูโปร่งสบาย ไม่อึดอัด

ประตูทางเข้าด้านหน้าบ้านของบ้านมาตรฐานจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวใส 6 มิลลิเมตร 2 ตอน และบาน Fixed 1 บาน โดยรวมคือมีช่องแสงเกือบเต็มผนังทำให้คนในบ้านมองเห็นวิวด้านหน้าบ้านได้ และเป็นช่องแสงให้ในบ้านไม่มืดอีกด้วยค่ะ

เข้ามาภายในบ้านแล้วจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยการเล่นระดับ ปูพื้นด้วยกระเบื้องยางลายไม้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.80 เมตร มีไฟ Down light ติดตั้งมาให้ พื้นที่ด้านล่างมีขนาดประมาณ 3.70 x 2.80 เมตร สามารถทำเป็นพื้นที่ต้อนรับ หรือนั่งเล่นได้เหมือนในบ้านตัวอย่างค่ะ ส่วนพื้นที่ด้านบนเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถทำเป็นพื้นที่ทำงาน 2-4 ที่นั่งได้เลย หรือจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและครัว เชื่อมต่อกับลานด้านหลังบ้านก็ได้เช่นกันค่ะ

ในบ้านตัวอย่างเป็นแปลงมุมจะได้ช่องแสงทั้ง 2 ด้าน ทำให้บ้านสว่างและดูโปร่งสบาย นอกจากนั้นก็จะมีพื้นที่ตกแต่งสวนภายนอกมาให้ด้วย

บรรยากาศเมื่อมองไปยังด้านหน้าบ้าน ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานจะมองเห็นต้นไม้ใหญ่บริเวณที่จอดรถค่ะ

บริเวณด้านหลังจะเล่นระดับสูงขึ้นประมาณ 50 เซนติเมตร สามารถกั้นผนังสูงขึ้นไปเพื่อแยกความเป็นส่วนตัวให้ชัดเจน

พื้นที่ด้านหลังบ้านมีขนาดประมาณ 3.60 x 3.45 เมตร สามารถวางโต๊ะทำงานได้ ประมาณ 2-4 ที่นั่ง หรือใครทำเป็นพื้นที่รับประทานอาหารของพนักงานก็จะสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ประมาณ 6 ที่นั่งค่ะ

ถ้าเป็นบ้านหลังมุมจะมีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง ด้านข้างสามารถทำระเบียงเพิ่มเติม เป็นพื้นที่พักผ่อนมองวิวได้ค่ะ

เมื่อมองจากระเบียง จะเห็นบรรยากาศสวนด้านข้างบ้าน(เฉพาะแปลงมุม)ค่ะ

ส่วนประตูด้านหลังจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวใส 6 มิลลิเมตร กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ เลื่อนเปิดตรงกลาง 2 ฝั่งค่ะ

ด้านหลังบ้านจะมีพื้นที่ลานซักล้างเพิ่มเติมมาให้ ความสูงเท่ากันกับพื้นภายในบ้านที่ยกสูงค่ะ สามารถเดินออกไปใช้ได้สะดวก ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ ทำความสะอาดได้ง่าย ตรงนี้ใครอยากทำเพิ่มเติมเป็นครัวเล็กๆก็สามารถทำได้ค่ะ

มาดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ที่ชั้น 1 จะมีห้องน้ำมาให้ 1 ห้องด้านหลังบ้านติดกับโถงบันได

ห้องน้ำชั้น 1 จะเป็นห้อง Powder Room ภายในมีแค่อ่างล้างหน้ากับโถสุขภัณฑ์ ซึ่งจะได้สุขภัณฑ์จาก American Standard หรือเทียบเท่า มีช่องเปิดระบายอากาศด้านหลังบ้านได้ ห้องนี้เหมาะสำหรับแขกหรือพนักงานมาใช้ค่ะ

ถัดมาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนปูด้วยไม้ยางพาราประสาน ความกว้างบันไดอยู่ที่ ประมาณ 0.90 เมตร สามารถเดินได้ไม่อึดอัดมากนัก ความสูงลูกตั้งอยู่ที่ 18 เซนติเมตร ลูกนอน 28 เซนติเมตร เป็นระยะที่พอดี เดินใช้งานบ่อยๆได้ไม่เมื่อยค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นทางเชื่อมระหว่างห้องอเนกประสงค์โถงสูงด้านหน้า และห้องทำงาน(หรือห้องนอน)ด้านหลัง มีช่องแสงตรงกลาง พื้นปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.40 เมตรค่ะ

มาดูพื้นที่ด้านหลังบ้านกันก่อนนะคะ ด้านหลังจะมีพื้นที่ทำงานและบันได ซึ่งบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ประตูกั้นมาให้ สามารถกั้นพื้นที่ได้เองค่ะ

ภายในห้องทำงานด้านหลังบ้าน จะได้ช่องแสง 2 จุด (ถ้าเป็นแปลงมุมจะได้ 3 จุดมีด้านข้างเพิ่มเติมด้วย) มีการดรอปฝ้าเพดานมาให้ ดูสวยงาม ห้องนี้มีขนาดประมาณ 7.10 x 3.00 เมตร นั่งทำงานได้ 4-8 ที่นั่ง หรือใครที่ไม่ต้องการพื้นที่ทำงานเยอะก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้อง Master Bedroom ได้นะคะ

บรรยากาศเมื่อมองไปยังช่องแสงต้นไม้กลางบ้าน บ้านมาตรฐาน(ภาพล่าง) จะมองเห็นต้นไม้เป็นวิวสำหรับพักสายตา แต่ถ้าใครชอบพื้นที่ Outdoor สังสรรค์ หรือต้องการพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นก็สามารถทำเหมือนบ้านตัวอย่างเป็นพื้นที่ระเบียงได้

ภายในห้องด้านหลังบ้านนี้จะได้ระเบียง และห้องน้ำส่วนตัว มาให้ด้วยค่ะ โดยประตูระเบียงก็จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวใส กรอบบานอลูมิเนียมแบบนี้เลย

ภายในห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้โทนสีน้ำตาลลายไม้ มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยสำหรับคนที่ทำงานดึกๆหรือสำหรับห้องนอน โดยจะมีช่องระบายอากาศทางด้านหลังบ้านค่ะ

กระจก (ภาพบนซ้าย) จะได้เป็นกระจกบาน ขนาด 1.00×0.80 เมตร ด้านล่างมีผนังยื่นออกมาสำหรับวางของได้ค่ะ

ส่วนอ่างล้างหน้า (ภาพขวา) เป็นอ่างเซรามิคสีขาว Built-in บนเคาน์เตอร์มีช่องเก็บของด้านล่างสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ มาให้จาก American Standard

โถสุขภัณฑ์ (ภาพล่างซ้าย) จะติดตั้งมาให้พร้อมอุปกรณ์ประกอบอย่าง สายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระจาก American Standard เช่นกันค่ะ

พื้นที่อาบน้ำจะยกขอบมาให้แต่ไม่ได้ฉากกั้นกระจกบานเลื่อนมาให้นะคะ แนะนำให้ติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอก

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 0.95 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ มีช่องเก็บของในผนังมาให้ 2 ชั้นไม่ต้องติตตั้งเพิ่มเองค่ะ พร้อมฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard หรือเทียบเท่า และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ

ส่วนระเบียงด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับ Condensing Unit หรือออกมาสูบบุหรี่ได้ พื้นจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30 x 30,30 x 60 เซนติเมตรมาให้ ทำความสะอาดได้ง่าย ราวกันตกเป็นผนังคอนกรีตธรรมดาค่ะ

พื้นที่ด้านหน้าบ้านจะยกระดับขึ้นมาประมาณ 60 เซนติเมตร เพิ่มความเป็นส่วนตัวแยกกับด้านหลังบ้าน ซึ่งระหว่างทางเดินก็จะมองเห็นวิวต้นไม้ด้านข้างด้วยค่ะ

วิวภายในบ้านที่ชั้น 2 ภาพบนเป็นบ้านตัวอย่างที่ทำเป็นระเบียงนั่งเล่น ส่วนบ้านมาตรฐานจะเป็นวิวต้นไม้แบบภาพล่างค่ะ จะเห็นว่ามี Sky Light ลงมาจากชั้น 3 ด้วยทำให้ภายในบ้านสว่างมากขึ้น

พื้นที่ห้องนี้กว้างประมาณ 5.10 x 3.80 เมตร สามารถทำเป็นพื้นที่ทำงานได้ประมาณ 4-6 คน หรือถ้ามีพนักงานไม่เยอะก็สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน หรือห้องของเจ้าของได้ค่ะ โดยห้องนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นห้อง Double Volume สูง 5.70 เมตรเลย

เนื่องจากห้องนี้เป็นโถงสูง Double Volume จึงสามารถทำเป็นชั้นลอยแบบในบ้านตัวอย่างเป็นการเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้นะคะ

ตัวอย่างการทำชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานค่ะ

นอกจากโถงสูงแล้วห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงสูง Double Volume ด้วยเช่นกันค่ะ โดยชั้นบนจะมีแผงบังแดดมาให้ เพื่อไม่ให้ห้องร้อนจนเกินไปและยังได้แสงจากธรรมชาติเข้ามาทั่วถึง และมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวด้านหน้าบ้านด้วย

ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจกเขียวใส กรอบบานอลูมิเนียมเปิดตรงกลาง มองเห็นวิวด้านหน้าบ้าน

ซึ่งระเบียงด้านหน้าจะมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการปลูกต้นไม้ใหญ่มาให้ 1 ต้น มีราวกันตกเป็นระแนงเหล็กสีดำล้อไปกับระแนงแผงกันแดดไม้ด้านบน

ส่วนบันไดทางขึ้นชั้น 3 บ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นประตูมาให้นะคะ ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเช่นกันกับชั้น 1 ทำให้มีความแข็งแรงเดินแล้วไม่มีเสียงดัง ปูด้วยไม้ยางพาราประสานเช่นกันค่ะ

ชั้น 3 เป็นพื้นที่โซนด้านหลังบ้านทั้งหมด เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่พักอาศัยเนื่องจากมีความเป็นส่วนตัว โดยบ้านมาตรฐานที่ได้จะมีผนังกั้นห้องนอนมาให้ 2 ห้อง(ภาพล่าง) แต่ก็สามารถทุบผนังปรับเปลี่ยนเป็นห้องใหญ่ต่อเนื่องกันได้แบบบ้านตัวอย่างค่ะ (ภาพบน) โดยชั้นนี้จะปูพื้นด้วยกระเบื้องยางลายไม้เช่นกันค่ะ และมีความสูงฝ้าเพดานถึง 4.00 เมตร สามารถปรับแต่งเพิ่มชั้นลอยได้ค่ะ

ห้องแรกเป็นห้องที่อยู่ติดกับช่องต้นไม้ตรงกลางบ้าน ข้อดีคือเมื่อต้นไม้สูงขึ้นจะเพิ่มวิวให้กับห้องนอนห้องนี้ได้ค่ะ โดยห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 3.50 x 3.00 เมตร สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้

ส่วนห้องด้านหลังบ้านจะแบ่งเป็นห้องนอนอีก 1 ห้องและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันในชั้นนี้ค่ะ

ห้องนอนห้องที่ 2 แม้ไม่มีวิวต้นไม้ แต่ห้องนี้ก็มีข้อดีคือ ได้พื้นที่เว้าเข้าไปขนาดประมาณ 1.60 x 1.30 เมตร สามารถทำเป็นมุม Walk-in Closet หรือวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ นอกจากนั้นจะได้ระเบียงส่วนตัว สำหรับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ระเบียงค่ะ

ห้องนอนห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.40 x 3.00 เมตร สามารถวางเตียงขนาดใหญ่และตู้เสื้อผ้า ได้สบายๆค่ะ

ส่วนห้องน้ำ เรามาดูห้องน้ำในบ้านตัวอย่างกันนะคะ

ภายในห้องน้ำมีการจัดพื้นที่เหมือนกันกับชั้น 2 แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน

กระจกเงาจะได้เป็นกระจกบาน 1.00 x 0.80 เมตร สามารถวางของบนพื้นที่ใต้กระจกได้ อ่างล้างหน้าจะได้เป็นอ่างเซรามิคสีขาว Built-in บนเคาน์เตอร์มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้ค่ะ และโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ประกอบทั้งหมดจาก American Standard หรือเทียบเท่า

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 0.95 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆเลย แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอกเวลาอาบน้ำค่ะ

ผนังมีช่องเก็บของมาให้ 2 ชั้น พร้อมฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard หรือเทียบเท่า และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เช่นกันค่ะ

เราลองมาดูบ้านตัวอย่างเป็นไอเดียการตกแต่งบริเวณชั้น 3 กันค่ะ โดยบ้านตัวอย่างจะทุบผนังกั้นห้องนอนทั้งหมดออกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เป็นห้องขนาดใหญ่ โดยสามารถทำเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวของเจ้าของบ้านได้

ส่วนด้านหลังก็จะเป็นมุม Pantry และพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับระเบียงและห้องน้ำเหมือนเป็น Penthouse เลยค่ะ

ส่วนห้องนอนจะใช้ข้อดีของการได้ฝ้าเพดานสูง 4 เมตร มาทำเป็นชั้นลอย สำหรับแยกห้องนอนมาไว้ด้านบน ใครที่ไม่ต้องการพื้นที่ห้องนอนเยอะๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความชอบเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 November 2019

  • โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.3 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 4-6 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 9.29 ล้านบาท
  • โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น หน้ากว้าง 7.3-8.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 38-43 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 4-6 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 100,000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 6 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 140,000 บาท
  • ไม่มีค่าส่วนกลาง (เนื่องจากโครงการไม่ได้เข้าจัดสรร)
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 41 บริเวณลาดพร้าว 41 แยก 16 เชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนรัชดาภิเษก เข้าซอยรัชดาภิเษก 32 หรือทางถนนลาดพร้าว, ถนนประเสริฐมนูกิจ เข้ามาทางถนนลาดปลาเค้า เชื่อมต่อมายังถนนลาดพร้าววังหิน และ สำหรับใครที่ใช้เส้นเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา ก็สามารถใช้ทางเข้าออกผ่านทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม เข้าซอยสังคมสงเคราะห์ได้ นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ โดยโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานี MRT ลาดพร้าว ห่างจากสถานีประมาณ 2.4 กิโลเมตร พนักงานที่มาทำงานในโครงการสามารถต่อวินมอเตอร์ไซค์ได้ค่ะ อีกทั้งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีภาวนา อยู่บริเวณด้านหน้าซอยลาดพร้าว 41 ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร เพิ่มความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ สามารถหาของกินได้ในระยะเดิน สะดวกกับพนักงานที่ต้องการหาข้าวกลางวันที่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก หรือถ้าอยากออกมาอีกหน่อยใช้เวลาไม่นานก็สามารถไปกินข้าวที่ถนนลาดพร้าววังหินได้ ซึ่งจะมีทั้งร้านอาหารและ Community Mall หลายแห่ง

ความปลอดภัยในตัวบ้าน :

เนื่องจากเป็นโครงการไม่จัดสรรทำให้ไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนะคะ ซึ่งถ้าใครกังวลเรื่องความปลอดภัยเพิ่มเติมก็สามารถติดตั้ง CCTV หรืออื่นๆเพิ่มเติมได้

การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบบ้านเหมาะกับการเป็นโฮมออฟฟิศ พนักงานประมาณ 3-10 คนอาจจะมากกว่าได้จากการจัดพื้นที่ด้านในค่ะ สามารถจอดรถได้เยอะมีที่จอดรถมาให้ 4-6 คัน มีที่จอดรถแบบ  Hydraulic สามารถเพิ่มจำนวนที่จอดรถได้ พื้นที่การใช้งานด้านในแบ่งเป็นสัดส่วน มีห้องน้ำมาให้ทุกชั้น จุดเด่นคือบริเวณที่จอดรถมีมุมต้นไม้สูงเป็นช่อง Sky Light สูง 3 ชั้น ทำให้แม้จะโฮมออฟฟิศแต่ทุกๆชั้นก็สามารถมองเห็นวิวได้ และยังเป็นจุดที่เพิ่มแสงธรรมชาติให้เข้าตัวบ้านมากขึ้น และจุดเด่นอีกจุดคือชั้น 2 ด้านหน้าบ้านเป็นห้องโถงสูง Double Volume 5.70 เมตร และได้ช่องแสงสูง ทำให้ห้องดูโปร่งและสามารถทำชั้นลอยเพิ่มเติมได้ ส่วนห้องนอนจะอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งทางโครงการกั้นห้องมาให้เรียบร้อยแล้ว

วัสดุ :

วัสดุถือว่าได้มาตามาตรฐานทั่วไป มีการตกแต่งพื้นผิวมาให้ทั้งพื้นและผนัง พื้นจะปูด้วยกระเบื้องยาง ส่วนระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60, 60×30, 30×30 เซนติเมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานยิปซัมบอร์ด ดรอปฝ้ามาให้บางส่วน ภายในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก American Standard หรือเทียบเท่า และมีระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ ส่วนประตู-หน้าต่าง จะได้กรอบบานอลูมิเนียมกระจกเขียวใส หนา 6 มิลลิเมตร และประตูโครงไม้จริงกรุไม้อัดทาสีขาว

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

เนื่องจากไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลาง ภายในตัวบ้านถ้าเป็นแปลงมุมจะได้พื้นที่สีเขียวเป็นสวนด้านข้างบ้าน และนอกจากนั้นทุกยูนิตจะมีต้นไม้ใหญ่และสวนเล็กๆมาให้บริเวณที่จอดรถ สามารถมองเห็นได้ทุกชั้น และมีต้นไม้บริเวณด้านหน้าบ้านที่ระเบียงชั้น 2 มาให้ค่ะ ถือว่าค่อนข้างดีเลยสำหรับบ้านทาวน์โฮมที่อาจจะหาพื้นที่สีเขียวได้ยากสักหน่อยค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10% และพื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 28 November 2019

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – อยู่ในซอย สามารถออกถนนได้ 3 เส้นทาง หาของกินง่าย นั่งรถไฟฟ้ามาต่อวินมอเตอร์ไซค์ได้
  • ความปลอดภัย 7/10 – ประตูเปิดปิดด้านหน้าและรีโมท
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – การใช้งานเป็นสัดส่วน โปร่งโล่ง มีวิวกลางบ้าน
  • วัสดุ 7.75/10 – เป็นก่ออิฐสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ Fully Fitted มีปูพื้นและผนังให้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีต้นไม้มาให้ภายในบ้านมาตรฐาน 2 ต้น 
  • 7.79 / 10.00

BOTTOM LINE

Neo Space @Work ลาดพร้าว 41 เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศ หรือบ้านที่มีพื้นที่ทำงานได้ ย่านลาดพร้าวทำเลหาของกินได้สะดวก และสามารถเดินทางต่อจากรถไฟฟ้าได้ ในราคาประมาณ 10 ล้านบาท ไม่สนใจพื้นที่ส่วนกลาง ชอบพื้นที่ภายในบ้านมองเห็นต้นไม้ได้ แบ่งสัดส่วนระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัวได้ลงตัวสำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 9.3-12 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 65,000 – 84,000 บาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving