รีวิวฉบับที่ 2105 … วันนี้เรามาชมโครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ที่ตั้งอยู่ทางกรุงเทพฯตอนบนอย่าง DAYS รามอินทรา-วัชรพล จาก Arbor property ตั้งอยู่ในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 10 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมทั้งถนนวัชรพลและถนนสุขาภิบาล 5 แถมยังใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ภายในโครงการเน้นพื้นที่ใช้สอยพร้อมที่จอด 6 คัน และ Facilities ที่เปิดให้ใช้งาน 24 ชั่วโมง ในราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท ไปชมรายละเอียดกันเลยครับ

ข้อมูลโครงการ

4 August 2020

  • DAYS Ramintra-Watcharapol (เดย์ส รามอินทรา – วัชรพล)
  • บริษัท อาร์เบอร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บาย คิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 10 ถนนสุขาภิบาล 5 เขตบางเขน
  • เนื้อที่โครงการ 9-1-8.3 ไร่ จำนวน 76 ยูนิต
  • แบบ B ที่ดิน 26.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม.
  • แบบ C ที่ดิน 24.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 282 ตร.ม.
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.90 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.50 เมตร, ชั้น 3 สูง 2.50 เมตร, ชั้น 4 สูง 2.60 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 125,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี พ.ศ.2563
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปี พ.ศ.2565
  • เว็ปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • สำนักงานขาย 061 616 2000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.862918, 100.643465
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

โครงการ Days รามอินทรา-วัชรพล ตั้งอยู่ในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 10 ซึ่งเป็นช่วงต้นของถนนสุขาภิบาล 5 ใกล้กับถนนรามอินทรา ซอยนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นทางเชื่อมลัดเลาะระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 และถนนวัชรพล ทำให้เรามีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย สำหรับทำเลโซนรามอินทรา-วัชรพล จัดว่าเป็นทำเลที่ออกมาจากตัวเมืองพอสมควร แต่ก็เดินทางเข้าเมืองได้ไม่ยาก เพราะใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่วิ่งไปย่านลาดพร้าว, พระราม 9, เอกมัยได้

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับโครงการนี้ คือเป็นโครงการแนวราบที่เดินทางไปรถไฟฟ้าได้ง่าย เนื่องจากตัวโครงการห่างถนนรามอินทราประมาณ 1.8 กม. ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างรถไฟฟ้าสีชมพู (แคราย-แจ้งวัฒนะ-มีนบุรี) โดยจะใกล้กับสถานีวัชรพล แต่ปัจจุบันยังไม่มีระยะทางที่ชัดเจนนะครับ ส่วนรถสาธารณะภายในซอยมีรถสองแถวขับผ่าน และด้วยการที่เป็นซอยลัดเลาะเชื่อมระหว่างถนนสองเส้น จึงทำให้มีพี่วินและแท็กซี่ผ่านไปมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ หรือจะใช้ Application เรียกรถแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์ก็สามารถบอกทางได้ง่าย ไม่สับสนครับ

ย่านนี้เป็นแหล่งรวมที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นจำนวนมากหลากหลายแบบ และมีความอุดมสมบูรณ์หลัก ๆ หลายอย่างมารองรับทั้งตลาดสด ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่มีสถานศึกษาหลายแห่ง โดยอีกความพิเศษของซอยนี้คืออยู่ในจุดความเจริญของย่านนี้ มีตลาดตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งหัวซอยท้ายซอยเลย โดยบนถนนสุขาภิบาล 5 จะเป็นตลาดนัดเลียบด่วนห้าแยกวัชรพล เป็นตลาดลักษณะเดินเล่นไลฟ์สไตล์ หาของกิน เสื้อผ้า ห่างประมาณ 300 ม. ส่วนอีกฝั่งปากซอยทางถนนวัชรพลจะมีตลาดใหญ่ประจำย่านอย่างตลาดถนอมมิตร และเพลินนารี่มอลล์ ซึ่งคนในย่านนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน โดยห่างจากโครงการเพียง 500-550 ม. ครับ

และถ้าพูดถึงความอุดมสมบูรณ์วงกว้างออกมาหน่อย ส่วนใหญ่ก็จะอิงบนถนนรามอินทรา ที่ไล่มาตั้งแต่เซ็นทรัลรามอินทรา, Food Land, Big C, Tesco Lotus ยาวไปจนถึง Fashion Island และ The Promenade เลย จะกลับบ้านจากทางไหนก็ซื้อของเข้าบ้านได้ไม่ยาก หรือเลิกงานแล้วพนักงานก็ไปเดินห้างฯ ทานข้าว พักผ่อนกันได้หลากหลายเช่นกัน

สำหรับเส้นทางการเดินทางไปโครงการกันในวันนี้ เรามาจากตัวเมือง (พระราม 9, ลาดพร้าว) วิ่งบนเส้นทางด่วนฉลองรัช (หรือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) ให้ลงตามป้ายถนนรามอินทรา พอลงแล้วไปแล้ว ให้ขับขึ้นสะพานวนตามทางเข้าถนนวัชรพล หลังจากนั้นขับตามทางไป บริเวณตลาดถนอมมิตรมีแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 10 ขับมาเรื่อยๆโครงการอยู่ขวามือ โดยมีระยะทางประมาณ 2.8 กม.

Image 1/7
เริ่มจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ฝั่งขาออก)

เริ่มจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ฝั่งขาออก)

และด้วยความที่เป็นซอยที่เข้าออกได้หลายทาง จึงมีทางเลือกในการหลีกเลี่ยงรถติดเพื่อเข้าสู่โครงการได้อีก เช่น

  • เลยไปลงทางด่วนที่ด่านสุขาภิบาล 5 เลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่ห้าแยกวัชรพล ตรงไปเข้าซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 10 (ซ.วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต) ประมาณ 200 เมตร
  • หรืออีกเส้นทางในอนาคตสำหรับการเดินทางสาธารณะ คือห่างจากรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สถานีวัชรพล ประมาณ 2 กม. (ถนนรามอินทรา) (คาดว่าแล้วเสร็จปี 2564)

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

พื้นที่โครงการขนาดประมาณ 9 ไร่กว่า ๆ มีสภาพแวดล้อมรอบ ๆ เป็นชุมชนพักอาศัย ส่วนใหญ่เป็นโครงการทาวน์โฮมเรียงติดกันในละแวกนี้ ด้วยความที่ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 10 ถูกใช้เป็นซอยเชื่อมระหว่าง 2 ถนน ทำให้จะมีรถวิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด ถนนในซอยเป็น 2 เลน ค่อนข้างแคบและไม่มีทางเดินเท้ายกระดับด้านข้างให้ (จะเดินต้องระวังรถนิดนึง) รวมถึงไม่มีแนวต้นไม้และหลังคาให้เดิน ทำให้ถ้าเดินกลางวันหรือฝนตกจะลำบากหน่อย ส่วนบรรยากาศจะค่อนข้างคึกคักช่วงใกล้วัด มีแนวทาวน์โฮมที่เปิดเป็นร้านค้าต่าง ๆ แต่ถ้าออกจากโซนนี้ก็จะมีพื้นที่ว่างเปล่าในช่วงก่อนถึงหัวซอยและท้ายซอยทั้งสองฝั่งอยู่ช่วงนึง ทำให้มีบรรยากาศที่ไม่น่าเดินนักในช่วงเย็น-กลางคืนอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่มีรถผ่านไปมาตลอดก็ช่วยให้ไม่รู้สึกเปลี่ยวมากนัก

ตัวบ้านของโครงการนี้จะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ เป็นหลัก ซึ่งเป็นทิศที่รับแดดและรับลมได้ดี ไม่โดนแดดส่องเข้าหน้าบ้านหนักๆในช่วงบ่าย แต่รับลมประจำปีทั้งลมประจำฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยพื้นที่รอบ ๆโครงการในแต่ละทิศจะมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้ครับ

ทิศเหนือ – จะติดกับโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ยาวตลอดแนวพื้นที่โครงการ เลยไปก็เป็นพื้นที่พักอาศัยแนวราบ 1-2 ชั้นครับ จะมีพวกร้านอาหาร และร้านค้าของชุมชนกระจายอยู่

ทิศตะวันออก – เป็นถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 10 ซึ่งเป็นทางเข้าออกโครงการ ปัจจุบันไม่มีบ้านหันไปทางนี้ (ในอนาคตอาจจะมี) มีรถผ่านไปมาตลอด ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น

ทิศใต้ – จะติดกับร้านอาหารสวนสิริน เป็นร้านอาหารสไตล์สวนอาหารให้ออกมาฝากท้องกันได้ง่ายๆในระยะเดิน เลยไปหน่อยจะมีวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ซึ่งเป็นวัดขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการมากนัก เพราะเป็นวัดที่สวดมนต์กันภายใน และเมรุเผาศพก็ใช้เป็นเมรุไฟฟ้า ซึ่งจะไม่มีควัน อาจจะมีคนมาทำบุญเยอะหน่อยช่วงวันพระใหญ่ รวมถึงเลยไปหน่อยก็มีโรงเรียนของวัดนี้ ทำให้ช่วงเวลาเข้าเรียนและเลิกเรียน อาจจะสัญจรยากขึ้นหน่อยครับ

ทิศตะวันตก – จะติดกับคลองบัว ซึ่งเป็นคลองขนาดเล็กประมาณ 5-6 เมตร ข้ามไปจะเป็นหมู่บ้านชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นโครงการบ้านพักอาศัยแนวราบขนาดใหญ่ กินพื้นที่ทั้งแนวทางฝั่งทิศตะวันตกนี้เลย

เดินไปดูฝั่งมุ่งหน้าไปทางถนนวัชรพลกันก่อนนะครับ ทางนี้จะเป็นเส้นทางหลักถ้ามาจากในเมืองครับ

อย่างที่บอกไปว่าถนนหน้าโครงการแอบแคบไปหน่อย ไม่มีแนวทางเดินด้านข้างให้สำหรับฝั่งเดียวกับโครงการนะครับ ถ้าเดินแนะนำให้ไปเดินฝั่งตรงข้าม

ติดกับโครงการเลยจะมีร้านอาหารสวนสิริ เป็นร้านอาหารสไตล์สวนอาหาร บรรยากาศดี มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ

เดินถัดมาจะเริ่มเจอโซนที่คึกคักที่สุดของซอยนี้ ซึ่งจะเป็นโซนศิริพงษ์ธรรมนิมิต มีแนวอาคารตึกแถว มีโรงเรียน จึงเป็นจุดที่หาซื้อของกินของใช้ได้ง่ายที่สุดในระยะเดิน

แนวอาคารตึกแถวสภาพใหม่ ที่เปิดเป็นร้านค้าต่างๆ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เป็นวัดที่มีขนาดพื้นที่ขนาดใหญ่ สภาพสวยงามเหมือนกันนะครับ

ฝั่งตรงข้ามมีร้านค้าต่างๆ ที่ขายของทั่วไปและของที่ใช้ภายในวัด เช่น ดอกไม้และสังฆทาน

ถ้าเดินตรงมาเรื่อยๆอีกหน่อยจะเจอตลาดถนอมมิตร ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ในย่านนี้ มีทั้งของสด และของกิน รวมถึงเสื้อผ้าก็มีขาย มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร

ย้อนกลับมาที่ฝั่งหน้าโครงการ ซึ่งถ้าเรามาจากทางถนนวัชรพลจะเห็นป้ายโครงการได้ชัดเจนกว่า เห็นได้ชัดว่าทางโครงการตั้งใจเปิดหน้ารับฝั่งนี้มากกว่านะครับ ซึ่งก็เป็นทางหลักจากฝั่งเข้าเมือง แต่ก็มีอีกฝั่งทางฝั่งถนนสุขาภิบาล 5 ไว้เป็นตัวเลือกที่อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำในบางช่วงเวลา

ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นครับ

เลยต้องไปดูทางฝั่งถนนสุขาภิบาลกันบ้าง จะมีพื้นที่โครงการด้านหน้าเล็กน้อย

ปัจจุบันเป็นห้องพักสำหรับพนักงานโครงการ ซึ่งภายในอนาคตจะมีแบบบ้าน A ที่บริเวณนี้ด้วย

ด้านข้างโครงการติดกับโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ยาวตลอดแนวเท่ากับโครงการเราเลย

ซึ่งจะมีทางเข้าออกโครงการบนถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 10 เช่นกันกับโครงการเรา

ฝั่งตรงข้ามก็มีพื้นที่กำลังก่อสร้างของโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นที่อยู่ตรงข้ามโครงการของเรา

เลยต่อไปก็จะไปทะลุออกถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งมีระยะไม่ไกล สามารถเดินออกไปทางนี้ประมาณ 300 เมตร จากโครงการ ก็จะเจอตลาดเลียบด่วนห้าแยกวัชรพล แต่ทางเดินริมถนนแอบอันตรายเหมือนกัน ถ้าต้องเดินจริงๆก็ต้องระวังรถกันนิดนึงนะครับ ผมเป็นห่วง

ลองขึ้นมาที่บนอาคารแบบบ้าน Type B ของเราในปัจจุบันกันบ้าง อย่างที่บอกไปว่าวิวส่วนใหญ่ที่จะเห็นจะเป็นทิศเหนือ-ใต้ ข้อดีคือรับลม และได้แสงแดดอย่างเพียงพอ แต่ไม่โดดแดดส่องเข้าตัวบ้านในช่วงบ่าย

ส่วนฝั่งหน้าโครงการจะหันเข้าสู่แบบบ้าน Type C ที่จะก่อสร้างในอนาคตครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า

  • ตลาดถนอมมิตร 500 เมตร
  • เพลินนารี่มอลล์ 750 เมตร
  • เทสโก้ โลตัส วัชรพล 1.1 กม.
  • บิ๊กซี สุขาภิบาล 5 3.2 กม.
  • ฟู้ดแลนด์ รามอินทรา 3.4 กม.
  • อีส พาร์ค รามอินทรา 3.4 กม.
  • เดอะวอล์ค เกษตร-นวมินทร์ 5 กม.
  • เดอะ พรอมานาด 6.1 กม.
  • แฟชั่นไอส์แลนด์ 6.5 กม.
  • เซ็นทรัล รามอินทรา 6.8 กม.
  • เทสโก้ โลตัส หลักสี่ 7.3 กม.
  • คริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์ 7.5 กม.
  • เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์ 8 กม.
  • เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา 9 กม.
  • โฮมโปร เลียบทางด่วน 11 กม.
  • เทสโก้ โลตัส เลียบทางด่วน 11.3 กม.

ตลาด

  • ตลาดถนอมมิตร 500 เมตร
  • ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา 2.3 กม.
  • ตลาดนัดหัวมุม 6.3 กม.
  • ตลาดยิ่งเจริญ 7.7 กม.

สถานที่ราชการ – โรงเรียน

  • สำนักงานเขตสายไหม 4.2 กม.
  • สำนักงานเขตบางเขน 8 กม.
  • สถานีตำรวจบางเขน 8 กม.
  • โรงเรียนรัตนโกสินสมโภชน์ 1.1 กม.
  • โรงเรียนสายอักษร 2.6 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ 3.8 กม.
  • โรงเรียนปราโมชวิทยา รามอินทรา 6.3 กม.
  • โรงเรียนเลิศหล้า ถนนเกษตร นวมินทร์ 7.2 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 12.6 กม.
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม 10.4 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกริก 8.5 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.สินแพทย์ 5 กม.
  • รพ.พญาไท นวมินทร์ 5.6 กม.
  • รพ. ซีจีเอช 8.3 กม.
  • รพ. สายไหม 8.9 กม.

อื่นๆ

  • รถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สถานีวัชรพล 2 กม.
  • ด่านเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษ ด่านรามอินทรา 2 (ทางพิเศษฉลองรัช) 3 กม.
  • ด่านเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษ ด่านสุขาภิบาล 5 (ทางพิเศษฉลองรัช) 3.3 กม.

รายละเอียดโครงการ

มาดูผังโครงการกันครับ พื้นที่โครงการ 9 ไร่กว่าๆ ที่มีทั้งหมด 76 ยูนิต มีทางเข้าออกทางเดียวทางฝั่งถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 10 เข้าออกด้วยระบบ Keycard แบบ Easy Pass ซึ่งแต่ละหลังจะได้ Keycard 6 ใบ เข้ามาถนนหลักจะกว้าง 12 เมตร มีแนวบ้านประกบ 2 ฝั่งซ้ายขวา จะเป็นแบบบ้าน B ทางฝั่งทิศใต้ และแบบบ้าน C ทางทิศเหนือ เข้ามาถนนจะเล็กลงเหลือ 11 เมตรในช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการในอนาคต จากนั้นด้านในจะเป็นถนนกว้าง 9 เมตร วางแนวถนนให้สามารถขับรถวนรอบได้ ไม่ต้องกลับรถ

มีส่วนที่เป็นลานกิจกรรม สวนสาธารณะ และอาคารสโมสร การวางอาคารส่วนกลางไว้ด้านในจะช่วยให้พื้นที่ส่วนกลางได้ความเป็นส่วนตัวจากภายนอก และด้วยลักษณะของพื้นที่จะมีจำนวนบ้านที่อยู่ภายในของพื้นที่ซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บ้านโซนนี้จะเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย ส่วนบ้านที่อยู่ด้านหน้าก็จะได้ข้อดีที่เข้าออกโครงการได้สะดวก และระยะเข้าไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางภายในก็ไม่ได้ไกลจนเกินไปนะครับ สามารถเดินไปใช้งานได้ หรือจะขับรถเข้าไปก็ได้ เพราะมีที่จอดรถรองรับให้ด้วย

มาเริ่มกันที่ซุ้มหน้าโครงการกันเลย โครงการนี้จะตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น เน้นสีขาวตั้งแต่ตัวซุ้ม พื้น ดูกลมกลืนไปกับแนวอาคารด้านใน แถมยังให้ความรู้สึกสะอาดดีนะครับ จะเห็นว่าตัวซุ้มมีส่วนของเสาที่ทำเป็นลำต้นของต้นไม้ ตัวซุ้มจะมีลายฉลุที่ตอนกลางคืนจะเปิดไฟให้ดูเป็นใบไม้ สอดคล้างกับ Mascot ของโครงการที่เป็น “กระรอก” ครับ

ด้านข้างมีแนวทางเดินเข้าออกโครงการให้ด้วยทั้งสองฝั่งปลอดภัยดีครับ

กระรอกของเรามีชื่อว่าเจ้า “ปีเตอร์” ซึ่งที่ทางโครงการเลือกใช้กระรอกเป็น Mascot ของโครงการนี้ก็เพราะ กระรอกเป็นสัญลักษณ์ของความขยันขันแข็งในการทำงาน มีความ Active แถมยังมีการปราดเปรียวและว่องไว ปรับตัวเก่งได้ในหลายสถานที่และสถานการณ์

โดยหนึ่งในจุดเด่นของโครงการนี้คือการจัดพื้นที่ส่วนกลางออกมาให้ใช้งานกันหลากหลาย แถมที่สำคัญยังเปิดให้ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นกันเท่าไหร่ในโครงการแนวราบนะครับ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งเน้นในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้กับการทำงานควบคู่ไปกับการพักผ่อน เพื่อสุขภาพและเป็นการสร้างแรงบรรดาลใจ เพราะอย่าลืมว่าพื้นฐานของงานที่ดีจะต้องเกิดจากคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยเช่นกันครับ

เข้าไปดูภายในกันเลยครับ ซุ้มโครงการจะแยกทางเข้าและทางออกจากกันชัดเจน มีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง เข้าออกด้วยระบบ Keycard แบบ Easy Pass พร้อมระบบกล้อง CCTV ทั้งที่ทางเข้าโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง

เข้ามาภายในจะเจอถนนหลักของโครงการที่กว้าง 12 เมตร โดยปัจจุบันจะมีบ้านแบบ Type B ทางฝั่งเดียว ฝั่งขวาจะเป็นแบบ Type C และด้านในจะเป็นโครงการที่จะพัฒนาในอนาคต

ด้านในของโครงการจะมีอาคาร FORUM HALL ซึ่งเป็นอาคารพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดให้ใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้านหน้ามีพื้นที่จอดรถส่วนกลางให้สำหรับรถยนต์ 36 คัน และจักรยานและมอเตอร์ไซค์อีก 77 คันให้ด้วย

มีพื้นที่ที่น่าสนใจให้ตั้งแต่ทางเข้าออกอาคารเลย ที่จะยกพื้นที่ภายในอาคารขึ้นสูง ทำให้พื้นที่บันไดขึ้นไปทำเป็น Step สำหรับพักผ่อนนั่งเล่นทำงานได้ ด้านข้างเจ้าปีเตอร์แอบมองเป็น Gimmic เล็กๆ ของตัวอาคารด้วย

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Co-Working Space สำหรับนั่งทำงาน นั่งเล่น พบปะพูดคุยกับลูกค้า ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานได้ดีเลย

ใครที่เป็นสายออกกำลังกายอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปสมัครฟิตเนสให้เสียเงิน เพราะที่นี่ก็มีให้เล่นครับ ก่อนเข้าหรือหลังเลิกงานก็มาใช้บริการที่นี่ได้เลย หรือสำหรับใครที่นั่งทำงานแล้วปวดหลังบ่อยๆ ก็แนะนำให้มาออกกำลังกายได้นะครับ ช่วยได้ดีเลย (ประสบการณ์ส่วนตัวครับ ฮ่าๆ)

เป็นห้องออกกำลังกายชั้น 2 ของอาคารที่รับวิวสวนและพื้นที่ภายนอกอาคารด้วย

ด้านนอกข้างๆ พื้นที่ห้อง Co-working Space (ชั้น 1) และห้องออกกำลังกาย (ชั้น2) ก็จะมีพื้นที่ Outdoor ให้ใช้งานได้ด้วย มานั่งเล่นสูดอากาศ หรือเปลี่ยนที่คุยงานกันด้านนอกก็ได้ครับ

นอกจากด้านข้างฝั่งข้างอาคาร ฝั่งด้านหน้าอาคารก็มีพื้นที่ภายนอกให้ใช้งานได้อีกเช่นกัน ส่วนตัวผมชอบนะครับที่มีพื้นที่ให้ใช้งานได้หลากหลาย ใช้พร้อมๆกันได้ไม่รบกวนกัน

ทีมเวิร์คก็เป็นอีกสิ่งสำคัญของการทำงานครับ นอกจากกิจกรรมที่ใช้คนเดียว ภายในโครงการก็มีพื้นที่ส่งเสริมกิจกรรมแบบกลุ่มให้ ด้วยลานสนามบาสที่จัดมาให้หลายแป้นเลย สามารถเล่นพร้อมกันได้หลายคนนะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Forum Hall (พื้นที่ส่วนกลางเปิดให้ใช้บริการ 24 ชั่วโมง)
  • Co-working space (พื้นที่ทำงานส่วนกลาง)
  • Fitness (ห้องออกกำลังกาย)
  • Creative Garden (สวนสวย)
  • Round Basket (ลานบาสเก็ตบอล กลางแจ้ง)
  • ระบบกล้อง CCTV ทางเข้าโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง
  • ระบบ KEY CARD แบบ Easy Pass ทางเข้า-ออกโครงการ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
  • พื้นที่รองรับลิฟต์โดยสารทุกยูนิต
  • ประตูทางเข้า ระบบ Smart Door Lock
  • พื้นที่เก็บขยะและตู้ไปรษณีย์
  • ตำแหน่งป้าย Logo ธุรกิจ
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9-11 ม.

แบบบ้าน

มาดูตัวบ้านกันบ้าง ทาวน์โฮมหลังนี้ เป็นแบบบ้าน B ที่ดิน 26.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม. เพดานชั้น 1 สูง 2.90 เมตร, ชั้น 2 และชั้น 3 สูง 2.50 เมตร, ชั้น 4 สูง 2.60 เมตร หน้ากว้าง 6.6 เมตร พื้นที่จอดรถและด้านหลังบ้านลงเสาเข็มไว้ให้ และทั้งหลังก็เดินท่อกำจัดปลวกตามแนวคานคอดินไว้ให้ด้วยนะ

สำหรับชั้น 1 บ้านหลังนี้จะไม่ได้มีรั้วมาให้นะครับ ผู้ออกแบบต้องการให้ได้บรรยากาศของความเป็นสำนักงาน แต่การมีประตูทางขึ้นชั้น 2 อยู่หน้าบ้าน สำหรับบางท่านที่คิดว่าอาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัยก็สามารถติดตั้งรั้วเพิ่มเองได้นะ ส่วนพื้นที่ภายในจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ด้านหลังเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room, ช่องลิฟต์ และห้องเก็บของใต้บันได ส่วนด้านหน้าบ้านจะเป็นทางขึ้นสู่ชั้นพื้นที่ใช้สอยด้านบน

จริงๆ ทั้ง 3 ชั้นด้านบนจะมีลักษณะพื้นที่ใกล้เคียงกันหมดเลย โดยเฉพาะชั้น 2, 3 ที่มีภาพรวมพื้นที่เหมือนกันเลยครับ ต่างกันที่ลักษณะของช่องแสงเล็กน้อย โดยทางโครงการเลือกวางแนวห้องน้ำและช่องลิฟต์ที่เตรียมไว้ให้ รวมถึงบันไดที่เป็น Circulation หลักของตัวบ้าน ไว้ในแนวเดียวกันด้านข้าง เพื่อให้มีพื้นที่ตรงกลางของบ้านมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าทำให้สามารถจอดรถได้หลายคัน  ทำเป็นโต๊ะยาวสำหรับสำนักงาน และช่วยให้จัดพื้นที่ภายในได้หลากหลาย

ส่วนชั้น 4 ที่ถูกออกแบบให้เป็นชั้นสำหรับที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน ก็จะต่างกับชั้น 2, 3 เล็กน้อย ตรงที่ห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่กว่า เพราะมีพื้นที่อาบน้ำเข้ามาด้วย ส่วนอื่นๆ จะเหมือนกันทั้งหมดเลยครับ แต่ก็แอบเสียดายที่มีห้องอาบน้ำเพียง 1 ห้องเท่านั้นที่ชั้นนี้ ทำให้ในอนาคตเผื่ออยากจะปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นที่พักอาศัยเพิ่มเติมจะทำได้ค่อนข้างยาก

ส่วนตัวผมชอบที่แต่ละชั้นแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ด้วยประตูบานกั้นที่สามารถติดตั้งระบบเข้าออกแยกกันได้ สำหรับปล่อยเช่าเป็น Office ที่ต่างกันในชั้น 2, 3 แถมยังเตรียมติดตั้งช่องลิฟต์มาให้สำหรับการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ตรงนี้ต้องติดตั้งเพิ่มเองนะครับ ทางโครงการไม่ได้มีมาให้ อีกจุดที่ชอบคือให้ช่องแสงมาค่อนข้างใหญ่ทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในได้รับแสงอย่างเต็มที่รวมถึงโถงบันไดแต่ละชั้นด้วยเช่นกัน

ตัวบ้านจะออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ดูเรียบๆ ขาวๆ วางลูกเล่นไว้กับสีของกระจกที่เขาใช้กระจก Two Way Mirror สีดำทองตรงส่วนของโถงบันได ทำให้จะมองจากข้างนอกเข้าไปไม่เห็น แต่ข้างในมองออกมาได้ปกติ ได้ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว (จากถนนและบ้านฝั่งตรงข้าม) ทั้งยังช่วยเป็นจุดเด่นให้กับรูปด้านข้างตัวอาคารด้วย ด้านข้างแนวกระจกจะมี Fin ยื่นออกมาเพื่อช่วยกันแสงแดดจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตกให้ด้วย อีกอย่างคือการไม่มีรั้วบ้านจะช่วยให้ดูโปร่งและโล่งมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นการคุมธีมโครงการให้มีภาพรวมเหมือนกัน สำหรับหลังไหนที่ทำเป็นสำนักงานที่มีหน้าร้านด้วย แล้วต่อเติมชั้น 1 เป็น Show Room ก็จะช่วยให้สามารถสังเกตได้ง่ายขึ้นด้วยครับ

ลองเดินเข้าไปดูภายในตัวบ้านกัน สำหรับพื้นที่ชั้น 1 ตรงนี้ จะมีหน้ากว้างบ้านรวม 6.6 เมตร ตัดพื้นที่ด้านข้างที่ใช้ขึ้นลงออกไป จะเหลือพื้นที่จอดรถประมาณ 5 เมตร ทำให้สามารถจอดรถแบบต่อกัน 3 คัน ได้ 2 แถว ซึ่งจริงๆแล้วก็แล้วแต่รุ่นของรถอีกนะครับ ถ้าใครอยากรู้รายละเอียด ลองเข้าไปอ่านบทความนี้ได้ ทาวน์โฮมหน้ากว้างเท่าไหร่ จอดรถขนาดไหนได้บ้าง ?

ด้านหน้าเขาจะมีแนวกันสาดที่สามารถใช้เป็นตำแหน่งติดป้าย Logo ธุรกิจได้มาให้ด้วย

พื้นภายในจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินมาให้แบบในบ้านเปล่าเลยครับ ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานสูง 2.9 เมตร ให้ไฟ Downlight มา 8 ดวงครับ

พื้นที่ด้านหลังบ้านจะลงเสาเข็มไว้ให้ สำหรับต่อเติมได้ โดยจะมีรั้วบ้านสูง 2.9 เมตร เท่าฝ้าชั้น 1 เลย

สำหรับบ้านตัวอย่างจะตกแต่งพื้นที่ด้านหน้าเป็นพื้นที่รับรอง มีประตูกั้นด้านใน ซึ่งจริงๆแล้วทางโครงการอนุญาตให้ต่อเติมได้ แต่มีเงื่อนไขว่าอย่างไรก็ตามจะต้องมีพื้นที่จอดรถเหลือภายในพื้นที่บ้านอย่างน้อย 2 คันนะครับ เพื่อป้องกันการไปรบกวนพื้นที่จอดรถส่วนกลางของโครงการครับ

ด้านในของบ้านตัวอย่างติดเป็นกระจกกั้นด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งจะจัดพื้นที่ส่วนนี้เป็น Show Room แสดงสินค้า พร้อมทั้ง Built-in ผนังให้กลมกลืนไปด้วยกันทั้งห้อง

ด้านข้างจะมีพื้นที่สำหรับเป็นช่องลิฟต์ ห้องน้ำ และพื้นที่ใต้บันไดนะครับ

ตรงนี้จะเป็นพื้นยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย และแยกออกเป็นลิฟต์และห้องเก็บของ

สำหรับบ้านตัวอย่างเขาติดตั้งลิฟต์มาให้ดูเป็นไอเดีย แต่ถ้าเป็นบ้านเปล่าจะเว้นช่องลิฟต์ไว้ให้โล่ง และในแต่ละชั้นจะมีแนวระแนงกันตกไว้ให้ ส่วนตัวลิฟต์ต้องติดตั้งเองนะครับ ซึ่งทางโครงการก็มี supplier แนะนำมาให้ด้วย

โดยลิฟต์แบบในบ้านตัวอย่างนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 905,000 บาท หรือยังไงลองสอบถามรายละเอียดจากทางโครงการอีกทีนะครับ

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องเก็บของใต้บันไดครับ

ด้านในจะมีพื้นที่ห้องน้ำที่เป็น Powder Room ครับ คือไม่มีส่วนอาบน้ำนั่นเอง

ภายในจะตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ของ American Standard ทั้งหมด และให้แนวกระจกยาว พร้อมเคาน์เตอร์หินแกรนิตมาให้ด้วย

ย้อนกลับออกมาที่หน้าบ้าน จะมีพื้นที่ของทางขึ้นไปยังชั้น 2 และมีตำแหน่งรับจดหมายและท่ีทิ้งขยะ สำหรับตำแหน่งนี้อาจจะต้องดูแลและจัดการให้ดีหน่อย เพราะเป็นพื้นที่ที่ถูกใช้งานบ่อย (ทางเข้าออก) แถมยังเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทด้วย ซึ่งถ้าต้องมากองหรือส่งกลิ่นอยู่หน้าประตูบ้านและบริษัท ก็คงจะดูไม่ดีนักนะครับ

ทางเข้าตัวอาคารจะมีประตูกระจกเขียวตัดแสงกรอบบานอลูมิเนียมทำสี Powder Coat ที่มาพร้อม Digital Door Lock มาให้ด้วย ข้อดีของการทำเป็นบานกระจกทั้งหมดคือจะได้ความโปร่ง โล่ง และช่วยให้แสงส่องเข้าถึงพื้นที่ภายในได้เยอะขึ้น

เปิดประตูเข้าไปจะเจอกับตัวบันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้บีช ซึ่งเป็นไม้ที่นิยมใช้นำมาปิดผิวพื้นที่ที่มีการใช้งานสูง เช่น สำนักงาน สนามกีฬา ยิม เพราะมีความคงทนของเนื้อไม้แล้วตัวไม้ยังมีความยืดหยุ่นด้วย ดังนั้นไม้บีชจึงสามารถช่วยปกป้องลอยขีดข่วนได้ด้วยตัวของไม้เองครับ

เป็นบันไดยาว ซึ่งจะเว้นชานพักไว้ให้ตรงกลาง 1 จุด

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีแนวประตูกระจกกั้นแบ่งสัดส่วนไว้ให้ ส่วนตรงหน้าจะเป็นประตูสำหรับช่องลิฟต์นะครับ พื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวมัน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.5 เมตร

สำหรับบ้านที่ยังไม่ติดตั้งลิฟต์จะได้แนวระแนงกันตกมาไว้ให้ ซึ่งถ้ายังไม่ติดตั้งจริงๆก็ไม่ควรเปิดเลยจะดีกว่านะครับ จะอันตรายเปล่าๆ ผมเป็นห่วง

ส่วนพื้นที่ภายในของชั้นนี้จะค่อนข้างโล่ง เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่สำนักงานอย่างยิ่ง เพราะได้ช่องแสงทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านเลย

ด้านหลังจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ ซึ่งจะเป็น Powder Room เช่นเดียวกันกับด้านล่าง บ้านเปล่าเขาจะแถมเครื่องปรับอากาศของ Carrier มาให้ด้วย ขนาด 36,000 BTU. ตัวใหญ่ เอาอยู่แน่นอนครับ

ภายในห้องน้ำจะมีลักษณะการตกแต่งคล้ายกับข้างล่างเลยครับ เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาทั้งพื้นและผนัง ได้สุขภัณฑ์ต่างๆจาก American Standard ทั้งหมด

เป็นห้องน้ำที่สำหรับใช้งานทีละคนนะครับ ขนาดพื้นที่ก็เหมาะกับการใช้งานครับ

ได้อ่างล้างหน้าเซรามิคแบบวางบนเคาน์เตอร์หินแกรนิต พร้อมแนวกระจกเงา ข้อดีของห้องน้ำคือได้ช่องแสงที่ช่วยให้ความสว่างและระบายอากาศภายในด้วย

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard พร้อมอุปกรณ์ชำระล้างและที่ใส่กระดาษชำระติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน ด้านหลังมีผนัง Low Wall สำหรับวางของเล็กน้อยได้ ปิดผิวด้วยหินแกรนิตเช่นเดียวกันกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า

ด้านข้างมีโถปัสสาวะจาก American Standard ให้เช่นเดิม

ส่วนด้านหน้าบ้านจะได้พื้นที่ว่างเช่นเดียวกันกับด้านหลัง ที่สำคัญคือได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาด้วย ที่ดีคือมีแนวเสาตรงกลางที่สามารถกั้นผนังกระจกอย่างที่บ้านตัวอย่างทำเป็นห้องทำงานเจ้าของบริษัทได้ ลองดูไว้เป็นไอเดียได้นะครับ

แนวกระจกที่ให้มาจะยาวตลอดแนวจนถึงโถงบันไดเลย มีบานเปิดให้สามารถรับลมระบายอากาศได้ด้วย ส่วนของโถงบันไดด้านข้างจะเป็นกระจก Two Way สีทองแบบที่ผมบอกไป มองจากด้านในก็เห็นด้านนอกปกติครับ อาจจะมืดกว่าเล็กน้อย แต่ถ้ามองเข้ามาจะไม่เห็นภายใน

บันไดของชั้นด้านบนจะมีลูกเล่นที่ลูกนอนช่วงต้นเล็กน้อยครับ เล่นระดับทำให้ไม่ต้องมีราวจับในช่วงต้นก็รู้สึกไม่อันตราย หรือจะตกแต่งเป็นชั้นวางของได้ด้วยนะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีลักษณะพื้นที่ภายในเหมือนชั้น 2 เลยครับ ส่วนแรกนี้จริงๆแล้วจะมีแนวกระจกกั้นให้นะครับ เช่นเดียวกันกับชั้น 2

พื้นที่ภายในก็กว้างโล่งเช่นเดิม แต่ชั้นนี้ของบ้านตัวอย่างจะจัดรูปแบบสำนักงานอีกแบบให้ชมกัน คือจะวางเป็นโต๊ะยาวก็สามารถทำได้ครับ

ด้านในจะมีช่องแสงและแถมเครื่องปรับอากาศจาก Carrier ขนาด 36,000 BTU. ด้านข้างมีห้องน้ำแบบ Powder Room ให้เช่นเดิมครับ ลักษณะห้องน้ำจะเหมือนกันกับของชั้น 2 ทุกประการ

ช่วงด้านหน้าบ้านก็จะได้ช่องแสงเต็มแนวผนังเช่นเดียวกันกับชั้น 2 แต่จะมีลักษณะการวางกระจกบานเปิดที่แตกต่างกันเล็กน้อยครับ

ส่วนบันไดก็มีลักษณะเหมือนกันเช่นเดิม พื้นที่ด้านข้างสามารถ Built-in เป็นส่วนชั้นวางของ หรือตู้หนังสือได้

ขั้นมาที่ชั้นบนสุด ที่ถูกออกแบบให้เป็นชั้นสำหรับพักอาศัยครับ จะมีลักษณะโดยรวมคล้ายๆกับชั้น 2, 3 แต่จะพื้นที่ช่วงหน้าห้องเยอะกว่าครับ

โดยเขาจะเว้นพื้นที่ตรงนี้ไว้ให้ประมาณ 2 เมตร ทำหน้าที่เป็นเหมือน Foyer หน้าห้อง เอาไว้ทำชั้นวางรองเท้า ชั้นวางของจุกจิก หรือที่นั่งใส่รองเท้าได้สบายๆ พื้นจะถูกเปลี่ยนเป็น SPC ซึ่งย่อมาจาก Stone Plastic Composite หรือพูดง่ายๆ ก็เป็นกระเบื้องยางที่มีส่วนผสมระหว่างพลาสติก PVC ที่มีคุณสมบัติเหนียว ยืดหยุ่น และ แคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) ที่ให้คุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน จัดเป็นพื้นที่ทนความชื้นและกันปลวกได้เป็นอย่างดี เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายครับ

พื้นที่ภายในด้านในตัวบ้านจะมีลักษณะเหมือนชั้น 2, 3 แต่จะแคบกว่าเล็กน้อย เพราะห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่ขึ้นครับ แต่ยังคงได้ช่องแสงขนาดใหญ่เช่นเดิม

ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ก็ด้านในที่เดิมเช่นเดียวกันครับ

ห้องน้ำชั้นนี้จะใหญ่ขึ้น เพราะมีส่วนของพื้นที่อาบน้ำเข้ามาเพิ่มครับ ลักษณะของการตกแต่งโดยรวมจะเหมือนเดิมครับ ใช้กระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาเข้มและเทาอ่อน จุดเด่นภายในห้องน้ำจะอยู่ที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ใช้เป็นหินแกรนิตเช่นเดิม

พื้นที่ภายในกว้างก็ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ จะมีตำแหน่งการวางสุขภัณฑ์, อ่างล้างหน้า รวมถึงพื้นที่อาบน้ำ เป็นการใช้งานแบบ 3 ทางเหมือนเดิม

อ่างล้างหน้า American Standard พร้อมเคาน์เตอร์หินแกรนิตแนวยาวสำหรับวางของได้เยอะเลย มาพร้อมแนวกระจกเต็มแนวเคาน์เตอร์

สุขภัณฑ์ American Standard พร้อมอุปกรณ์ชำระล้าง และที่ใส่กระดาษชำระ ด้านหลังมีผนัง Low wall ปิดผิวด้วยหินแกรนิต

ส่วนอาบน้ำจะมีพื้นที่แยกออกไปด้านข้างชัดเจนครับ ตรงนี้ทางโครงการไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แต่ผมแนะนำให้ติดเองเพิ่มนะครับ เพราะอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเปียกประตูและพื้นที่หน้าห้องน้ำได้ง่ายหน่อย

พื้นที่ตรงนี้สำหรับบ้านตัวอย่างเขาไม่ได้ลดระดับพื้นมาให้ ยิ่งทำให้ควรต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเลยครับ จะเป็นฝักบัวแบบ Hand Shower นะครับ

เข้ามาดูส่วนภายในห้อง จะมีลักษณะพื้นที่เหมือนชั้นด้านล่าง ยาวไปจนสุดแนวหน้าบ้านเลย มาพร้อมแนวกระจกเกือบจะเต็มแนวหน้ากว้างบ้านเช่นเดิม

พื้นที่ส่วนหน้าบ้านของชั้นนี้จะกว้างกว่าชั้น 1, 2, 3 เพราะไม่ต้องมีบันไดด้านข้างสำหรับขึ้นชั้นต่อไปแล้ว ทำให้ภายในสามารถจัดได้หลากหลายเลยครับ ลองไปชมบ้านตัวอย่างเป็นไอเดียได้นะ

ในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการจัดเป็นลักษณะเหมือน Penthouse มีการแยกพื้นที่ภายในชั้นแต่ละส่วน โดยส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ที่วางพวกโซฟา ชั้นวางของ จะทำเป็นพื้นที่พักผ่อนเพิ่มเติมก็ได้ เช่น ออกกำลังกาย หรือเล่นโยคะ โดยจะมีแนวกระจกกั้นส่วนห้องนอนไว้ด้านในครับ

ถ้าใครจะต่อเติมก็แนะนำให้ใช้เป็นแนวกระจกแบบบ้านตัวอย่างก็ดีนะครับ จะทำให้พื้นที่ด้านในได้แสงเข้ามาด้วย ไม่ดูทึบจนเกินไป

ส่วนด้านในก็ทำเป็นห้องนอนปกติครับ วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆเลย

ด้วยหน้ากว้างตัวบ้านที่ 6.6 เมตร ทำให้สามารถกั้นแบ่งครึ่งแยกส่วนตรงนี้ออกเป็น 2 พื้นที่ได้ ด้านในจะทำเป็นส่วนของ Walk-in Closet ก็ได้ หรือถ้าใครมีแขกขึ้นมาที่ห้องรับแขกบ่อย อยากได้ความเป็นส่วนตัวที่ห้องนอนเพิ่ม ก็สามารถวางเตียงที่ด้านใน แล้วทำพื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่เสริมอย่างเช่น พื้นที่ Walk-in Closet, พื้นที่ออกกำลังกายแทนได้ ด้วยขนาดพื้นที่ทำให้สามารถจัดได้หลากหลายเลยครับ

ด้านในของบ้านตัวอย่างเขาจัดเป็น Walk-in Closet ซึ่งก็ได้ความเป็นส่วนตัว เพราะจะไม่เห็นกันกับส่วนของห้องนั่งเล่น

มีพื้นที่นั่งเล่นอ่านหนังสือในมุมส่วนตัวให้ด้วยด้านข้าง จัดว่าได้พื้นที่การใช้งานเยอะ ได้อารมณ์คอนโดห้องใหญ่เลย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

4 August 2020

  • แบบ B ที่ดิน 26.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 125,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 เชื่อมต่อได้ทั้งวัชรพลและสุขาภิบาล 5 การสัญจรเข้าเมืองจะอิงถนนรามอินทรา และเลียบทางด่วนรามอินทราเป็นหลัก มีทางด่วนให้ใช้ใกล้ๆและเดินทางง่าย และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสีชมพูวิ่งผ่านอีก ในระยะเดินสามารถเชื่อมต่อกับตลาดใกล้เคียงได้ทั้งตลาดนัดเลียบด่วน 5 แยกวัชรพล ประมาณ 300 ม. ทางฝั่งสุขาภิบาล 5 หรือจะเป็นตลาดถนอมมิตรและเพลินนารี่มอลล์ทางฝั่งถนนวัชรพล ประมาณ 500 และ 550 ม. ถ้าเป็นวงกว้างออกมาหน่อย ก็จะมีไล่มาตั้งแต่เซ็นทรัลรามอินทรา, Food Land, Big C, Tesco Lotus ยาวไปจนถึง Fashion Island และ The Promenade เลย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ความปลอดภัยของโครงการจะเริ่มจากซุ้มประตูมีทั้งรั้วกั้นไม้กั้นกระดกแบบ Easy Pass พร้อม รปภ. และ CCTV ดูแลตลอด 24 ชม. รั้วรอบโครงการสูง 3 ม. เพื่อป้องกันคนภายในแอบแฝงเข้ามาได้ ส่วนหลังบ้านมีรั้วกำแพงทึบสูง 3 ม. เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน แต่หน้าบ้านไม่ได้มีรั้วบ้านให้ ทำให้อาจจะเสียความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในส่วนนี้ไปบ้าง

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :  โครงการต้องการคุมโทนภาพรวมโครงการให้ดูเหมือนกันทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานและการอยู่อาศัยให้เป็นแบบที่ออกแบบไว้ ที่มีทั้งการทำงานและพักผ่อนไปด้วยกันอย่างลงตัว เช่น การใช้ตัวอาคารสีโทนสว่าง การเตรียมตำแหน่งติดตั้ง Logo ของบริษัทต่างๆ ไว้ให้ ทำให้ตำแหน่งป้ายของแต่ละหลังจะอยู่ในระนาบเดียวกัน การที่ไม่มีรั้วบ้านในแต่ละหลัง ทำให้ดูโปร่งและโล่งกลมกลืนกัน พื้นที่ Club House ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานทั้งภายในและภายนอก เชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย มีพื้นที่จอดรถส่วนกลางอยู่ไม่ไกล ทำให้บ้านภายในสามารถขับรถมาจอดใช้งานได้ เน้นการวางผังอาคารที่รับทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก ทำให้ไม่โดนแดดส่องเข้าตัวบ้านเต็มๆ ได้ลมและแสงอย่างเพียงพอ

ตัวบ้านหลักๆมีการวางผังแบบเดียว (ต่างกันแค่ขนาด) ผังภายในบ้านแยกพื้นที่ใช้สอยหลักและพื้นที่ใช้สอยเสริมอย่างพวกห้องน้ำ บันได ลิฟต์ ออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้ได้พื้นที่กลางบ้านที่กว้าง จัดได้หลากหลาย แต่ละชั้นมีการแยกออกจากกันด้วยประตูกั้นกระจก และมีการเตรียมช่องลิฟต์มาให้สำหรับการติดตั้งลิฟต์ได้ เพื่อการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ตรงนี้ต้องติดตั้งเพิ่มเองนะครับ ทางโครงการไม่ได้มีมาให้ อีกจุดที่ชอบคือให้ช่องแสงมาค่อนข้างใหญ่ทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในได้รับแสงอย่างเต็มที่รวมถึงโถงบันไดแต่ละชั้นด้วยเช่นกัน แต่บ้านหลังนี้มีห้องอาบน้ำเพียง 1 ห้องเท่านั้นที่ชั้นนี้ ทำให้ในอนาคตเผื่ออยากจะปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นที่พักอาศัยเพิ่มเติมจะทำได้ค่อนข้างยาก อีกอย่างคือที่จอดรถ 6 คันต่อหลัง ถือว่าให้มาเยอะใช้งานได้สะดวก

วัสดุ : จัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปสำหรับระดับราคานี้ ตัวบ้านเป็นโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้และ กระเบื้องยาง SPC ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight ทั้งบ้าน ห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมด มาพร้อมแนวกระจกเงาและเคาน์เตอร์ปิดผิวหินแกรนิต กระจกจะเป็นเขียวตัดแสง และแบบ Two Way สีดำทอง กรอบบานอลูมิเนียมทำสี Powder Coat ประตูทางเข้าบ้านจะให้ Digital Door Lock มาด้วย ส่วนลิฟต์จะมีการเตรียมพื้นที่ปล่องลิฟต์ไว้ให้สำหรับการติดตั้งในอนาคต พื้นและผังส่วนที่จอดรถและลานซักล้างจะลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไว้ให้เลย แถมแอร์ Carrier ขนาด 36,000 BTU. ชั้นละ 1 ตัว ที่ชั้น 2, 3, 4

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : มีพื้นที่สีเขียวให้ตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ เข้ามาช่วงแรกอาจจะยังไม่ค่อยเห็นนัก แต่จะมีอีกทีด้านในครับ (สำหรับพื้นที่โครงการในอนาคต) จะเป็นสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม และช่วงใกล้ตัว Clubhouse ส่วนสภาพโครงการในปัจจุบันก็เป็นโครงการใหม่ที่เพิ่งเริ่มก่อสร้างไม่นาน ภาพรวมดูดีครับ

สาธารณูปโภค : ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโครงการนี้เลย เพราะเป็นหนึ่งในแนวคิดที่ต้องการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงานที่ให้อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว เป็นทั้งพื้นที่ทำงานที่มีส่วนพักผ่อนให้ด้วย โดยโครงการจะให้ส่วน Clubhouse หรือที่เรียกว่า FORUM HALL มาให้ภายในโครงการ จะมีพื้นที่ Co-working space, Fitness, Creative Garden, Round Basket มาให้ มีทั้ง Indoor และ outdoor ที่สำคัญคือเขาเปิดให้ใช้งานกันได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ ตรงนี้สำคัญมากเลยนะ เพราะไม่ค่อยจะได้เห็นกันเท่าไหร่ เพราะคำนึงถึงการใช้งานจริง เพราะแต่ละสำนักงานเลิกงานไม่เท่ากัน ถ้าเลิกงานมาส่วนกลางปิดก็อดใช้งาน แต่ที่นี่คือจะเลิกงานกี่โมง หรือเบื่อๆ อยากไปพักผ่อน เปลี่ยนที่ทำงาน ก็สามารถใช้งานได้ตลอดเลย มีที่จอดรถส่วนกลางมาให้อันนี้ดีเลยครับ สามารถให้ผู้มาติดต่อมาจอดได้ไม่ต้องจอดขวางหน้าบ้าน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 7.9 ล้านบาท, 4 August 2020

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.75/10 – เชื่อมต่อได้ 2 ถนนหลัก ใกล้ทางด่วน มีตลาดในระยะเดินถึง 2 ที่
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – มีซุ้มโครงการแยกทางเข้าออกชัดเจน เข้าออกแบบ Easy Pass พร้อมรปภ.ดูแล 24 ชม และ CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.75/10 – วางผังโครงการได้ดี มีสไตล์การออกแบบชัดเจน ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอย แยกสัดส่วนได้ดี
  • วัสดุ 8/10 – อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ลงเสาเข็มไว้ให้ที่พื้นที่จอดรถ มีช่องลิฟต์เตรียมไว้ให้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีท่ีส่วนด้านในโครงการ ใกล้อาคาร Clubhouse
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – จัดอาคารส่วนกลางและมีที่จอดรถมาให้ มีทั้งภายในและภายนอก เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
  • 8.3 / 10.00 

BOTTOM LINE

Days รามอินทรา-วัชรพล เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ อยู่ทางฝั่งกรุงเทพตอนบน เดินทางสะดวกมีความอุดมสมบูรณ์รายล้อมรอบด้าน ภายในโครงการเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้าน มีที่จอดรถ 6 คัน พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายและมีให้ใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 8-13 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 56,000 – 91,000 บาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving