‘ย่านบางนา-ตราด’ เป็นหนึ่งในโซนที่อยู่อาศัยที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเราจะเห็นได้ว่าโครงการจัดสรรในละแวกนี้จะมีให้เลือกตั้งแต่ ทาวน์โฮม 3 – 4 ล้าน ไปจนถึงบ้านเดี่ยวหรู Super Luxury ที่มีราคาเป็นหลัก 100 ล้านบาทขึ้นไปกันเลยทีเดียว และถ้าใครที่มีงบประมาณค่อนข้างจำกัดอยู่สักหน่อย ทำเลโซนนี้ก็ยังมีคอนโดมิเนียมให้เลือกกันอีกด้วย

ซึ่งจะตอบโจทย์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากแยกครอบครัวออกมา และคนที่มีงบอยู่ราวๆ 1 – 3 ล้านบาท แต่ก็ยังอยากมีที่อยู่อาศัยในทำเลบางนาแห่งนี้ โดยที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดจะมีข้อดีในด้านทำเล ที่ใกล้ถนนใหญ่และห้างสรรพสินค้ามากกว่าหมู่บ้านจัดสรร (ในราคาที่เท่ากัน บ้านจะเข้าซอยไปลึกกว่า) ทำให้สามารถไปใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง กินข้าว ดูหนัง หรือใช้เป็นสถานที่นัดเจอเพื่อนก็ยังได้

แต่ทั้งนี้ก็แลกมากับขนาดพื้นที่ใช้สอยที่น้อยกว่าบ้านแนวราบ ดังนั้นคอนโดจึงเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก เช่น คนโสด / คนในวัยเพิ่งเริ่มทำงาน หรือคนที่อยู่กับแฟนแค่ 2 คน เป็นต้น ซึ่งถ้าใครที่กำลังสนใจคอนโดในย่านบางนา-ตราด และใกล้ห้าง เมกา บางนา (Mega Bangna) ผมก็ได้รวบรวมรายชื่อคอนโดพร้อมจุดเด่นฉบับปี 2024 มาให้แล้วในบทความนี้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นเราไปชมกันเลยครับ

เมกา บางนา (Mega Bangna)

ถ้าพูดถึงย่าน ‘บางนา’ ห้างสรรพสินค้าที่เรียกได้ว่าเป็น Magnet ขนาดใหญ่ที่สุดก็คงหนี้ไม่พ้น เมกา บางนา (Mega Bangna) + IKEA ที่เป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการอุปโภคบริโภค รวมถึงยังมีสวนสาธารณะให้เราได้ไปวิ่งออกกำลังกาย หรือพาน้องๆสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นได้ด้วย โดยในวันธรรมดาจะมีคนมาใช้บริการวันละ 1.2 แสนคน และในทุกๆวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะมีมากกว่า 2.2 แสนคนต่อวัน (หรือ 4.4 ล้านคนต่อเดือน / 53 ล้านคนต่อปี / 550 ล้านคนนับตั้งแต่เปิดมารวมกว่า 12 ปี)

ซึ่งในอนาคตก็จะมีการก่อสร้างและขยายเฟสใหม่ๆต่อไปอีก เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม และคอนโดมิเนียมต่างๆ จนกลายเป็น Mixed-use Project ชื่อว่า Mega City จึงไม่แปลกใจเลยที่บริเวณรอบๆห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ จะมีความคึกคักและความเจริญมากขึ้นในทุกๆปี โดยอนาคตที่นี่ก็จะกลายเป็นทั้งศูนย์รวมการอุปโภคบริโภค และเป็นแหล่งงานสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโซนกรุงเทพตะวันออกเลยทีเดียวครับ

คอนโดใกล้ห้าง Mega Bangna มีอะไรบ้าง?

สำหรับคอนโดมิเนียมมือ 1 ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้า Mega Bangna ในรัศมี 5 km. และตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด จะมีอยู่ทั้งหมด 7 โครงการ จาก 5 Developer ด้วยกัน ประกอบด้วย

  1. a space mega : ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  2. a space mega 2 : ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  3. Noww Mega : ราคาเริ่มต้น 1.57 ล้านบาท
  4. NUE Mega Plus Bangna : ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท
  5. Flexi Mega Space Bangna : ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  6. Niche MONO Mega Space Bangna : ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
  7. Atmoz Tropicana Bangna : ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

เริ่มต้นกันด้วยโครงการ a space mega จาก Real Asset เป็นตึกสร้างเสร็จพร้อมอยู่ และเป็นคอนโดที่เรียกได้ว่าใกล้ห้าง Mega Bangna มากๆเพียง 300 m. (อยู่ฝั่งเดียวกับ IKEA) ซึ่งเป็นระยะที่เดินถึงได้สบายๆ รวมถึงยังเป็นโครงการที่มีแนวคิดการออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์แบบ Futuristic Modern Design ที่ทำออกมาได้ทันสมัยมากๆ แถมยังมีฟังก์ชันส่วนกลาง Co-Working Space ที่เปิด 24 ชม. ให้ใช้งานอีกด้วย ตอบโจทย์การทำงานของคนยุคใหม่ในปัจจุบันนี้ ที่ส่วนใหญ่ก็จะทำงานแบบ Work From Home หรือสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลานั่นเอง

ข้อมูลโครงการ

Location :

ทำเลโครงการนี้จะอยู่ด้านหลังห้าง Mega Bangna เป็นถนนใต้วงแหวนกาญจนาภิเษกที่เป็นเส้นทางลัดไปขึ้นวงแหวนได้สะดวกมากๆ รวมถึงเรายังสามารถลัดผ่านตัวห้าง Mega Bangna มาได้อีกด้วยครับ ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ทางฝั่ง IKEA และห่างเพียง 300 m. เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวก ทั้งการไปเดินช้อปปิ้งที่ห้าง Mega Bangna และการขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อไปทำงานครับ

Image 1/9
Co-Working Space

Co-Working Space

Facilities :

จุดเด่นก็คือ Co-Working Space ขนาดใหญ่ที่อยู่บนชั้น 3 – 4 จะมีการเปิดให้ใช้งานได้ตลอด 24 ชม. เหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่นั่งทำงานอ่านหนังสืออยู่ที่คอนโด (แบบว่าไม่อยากเสียเวลาออกไปข้างนอกบ้าน) ซึ่งจะมีมุมให้เราเลือกนั่งเป็นส่วนตัวกันเยอะมาก หรือถ้าใครเบื่อๆก็ยังมีมุมสันทนาการให้เล่นพักผ่อนคลายเครียดกันอีกด้วย

ส่วนฟังก์ชันอื่นๆก็มีมาให้ใช้งานครบเลยครับ โดยเฉพาะสนาม Basketball ถือเป็นฟังก์ชันพิเศษที่มีไม่เหมือนใครในย่าน รวมถึงยังมีสวนบนชั้นดาดฟ้าให้เราขึ้นไปชมวิวมุมสูงรอบๆได้อีกด้วย โดยในวันปีใหม่ทาง Mega Bangna เค้าจะจัด Countdown Concert เป็นประจำทุกปี และจะมีการจุดพลุฉลองกันด้วย ซึ่งเราสามารถขึ้นมาชมความสวยงามของพลุอย่างใกล้ชิดจากบนดาดฟ้าในโครงการตัวเองได้เลยครับ

Room Type :

แปลนของ 1 Bedroom จะมีให้เลือก 4 แบบ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของห้องนั้นๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไซส์ 28.52 ตร.ม. (แบบแรก) โดยลักษณะจะแบ่งฟังก์ชันออกเป็น 3 ตอน ซึ่งด้านหน้าห้องจะเป็นครัวและห้องน้ำ ตรงกลางเป็นพื้นที่นั่งเล่น และห้องนอนที่อยู่ด้านในสุดจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแยกไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว

แต่จุดเด่นของแบบห้องโครงการนี้จริงๆคือ ‘ผนังแบบ Double Wall’ หรือผนังกั้นห้องระหว่างยูนิตจะเป็นแบบ 2 ชั้น ซึ่งช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากห้องข้างๆได้ดี และเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้เยอะเลยทีเดียว หมดปัญหาเรื่องผนังบางของคอนโดมิเนียมแบบเดิมๆไปได้เยอะเลย

Image 1/5

โดยรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted ให้ชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วนมาให้ ดังนั้นเวลาที่ซื้อโครงการนี้ก็อาจต้องเผื่อเงินในการซื้อของเข้าห้องเพิ่มเติมด้วยนะครับ หรือเราอาจลองสอบถามทางโครงการก่อนก็ได้ เพราะบางช่วงก็จะมีโปรโมชั่นเพิ่มเงิน 100,000 บาท ก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่เลย ซึ่งก็จะช่วยประหยัดเวลาในการหาซื้อของและจ้างช่างมาทำเองไปได้เยอะมาก

ตามกันมาติดๆกับ a space mega 2 โครงการแห่งที่ 2 จาก Real Asset ที่ปัจจุบันนี้ก็กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วเหมือนกันครับ ซึ่งทำเลก็จะอยู่ติดกับโครงการรุ่นพี่ก่อนหน้านี้เลย แต่จะมีการพัฒนาและปรับแบบให้มีความน่าสนใจต่างจากเดิมพอสมควร โดยเฉพาะดีไซน์การออกแบบจะมีการใช้วัสดุจากธรรมชาติมากขึ้น เลยทำให้ดูอบอุ่นน่าอยู่อาศัยไปอีกแบบ รวมถึงยังปรับตำแหน่ง Facilities ให้เน้นขึ้นไปอยู่บนชั้นดาดฟ้า และสามารถชมวิวมุมสูงได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ

ข้อมูลโครงการ

Facilities :

จุดเด่นของโครงการนี้คือ Sky Facilities ที่ได้ปรับฟังก์ชันหลายๆอย่างขึ้นมาไว้บนชั้นดาดฟ้าของอาคาร โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำ ซึ่งทำให้เราสามารถมาใช้งานส่วนกลางพร้อมกับชมวิวมุมสูงสวยๆ ของย่านบางนาไปพร้อมๆกันได้

แน่นอนว่าการออกแบบนี้ค่อนข้างจะมีต้นทุน ที่สูงกว่าการทำส่วนกลางที่ชั้นล่างๆมากเลยครับ แต่นั่นก็ช่วยเพิ่ม Value ให้กับโครงการได้ดีเช่นกัน ถ้าใครที่เป็นสายชอบชมวิวสวยๆ จะต้องมีโครงการนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกอย่างแน่นอน

ส่วนบรรยากาศภายในโครงการก็จะมีการใช้วัสดุประเภทไม้ และใช้สีแนว Earth Tone จึงทำให้มีบรรยากาศอบอุ่นน่าอยู่อาศัยมากขึ้น (ต่างจากโครงการแรกที่จะเน้นทันสมัยแบบสุดๆไปเลย) แน่นอนว่าฟังก์ชันพื้นฐานอื่นๆยังมีให้ใช้งานครบ

รวมถึง Co-Working Space ก็ยังคงเปิดให้ใช้งาน 24 ชม. เหมือนเดิมครับ เพิ่มเติมคือขยับขึ้นมาอยู่บนชั้นที่สูงถึง Floor 34 เพื่อให้สามารถชมวิวสวยๆได้ดียิ่งขึ้น และยังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่สามารถ Work Form Home ทำงานที่บ้านได้นั่นเอง

Room Type :

แบบห้องที่น่าสนใจที่เพิ่มเข้ามาในโครงการใหม่นี้ก็คือ ห้องแบบ Combine ที่เป็นการนำห้อง 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นจำนวน 2 ห้องมาเชื่อมต่อกันที่ตรงบริเวณส่วนครัวด้านหน้า ซึ่งจะทำให้เราได้ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกันแบบพี่น้อง หรืออยู่แบบพ่อแม่ลูกก็ได้

ข้อดีคือ ฟังก์ชันจะมีการแบ่งโซนระหว่างห้องนอน 2 ห้องออกจากกันชัดเจนไปเลย และยังมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ใช้งานทั้ง 2 ห้องอีกด้วย โดยห้องแบบนี้จะมีเพียงไม่กี่ยูนิตครับ และจะอยู่เฉพาะบนชั้น 31 – 32 เท่านั้น หากใครสนใจก็ลองสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการดูได้นะ

อีกหนึ่งแบบห้องที่น่าสนใจก็คือ 2 Bedrooms ซึ่งทุกแบบเราจะได้ 2 ห้องน้ำเหมือนกันหมด ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานดี โดยจะแตกต่างจากห้อง Combine ก่อนหน้านี้ก็คือ เราจะได้ Common Area ขนาดใหญ่ ให้ใช้งานร่วมกันได้อยู่ด้านหน้าห้องนอนทั้ง 2 เหมาะกับครอบครัวที่ชอบจะมีปฏิสัมพันธ์หรือมักจะทำกิจกรรมร่วมกันเสมอๆ

รวมถึงจะมีระเบียงให้ใช้งานรวมเป็นจุดเดียว เพื่อที่ภายในห้องนอนแต่ละห้องจะได้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเต็มที่นั่นเองครับ ซึ่งหากใครที่ต้องการอยู่อาศัย 2 – 3 คน แต่ซื้อห้อง 2 Bedroom ของโครงการแรกที่ Sold Out ไปแล้วไม่ทัน ก็สามารถมองโครงการนี้เป็นตัวเลือกดูได้นะ

Image 1/2

สำหรับห้อง 1 Bedroom ที่เป็นห้องเริ่มต้นแบบมาตรฐาน ก็ยังคงเป็นแปลนเดียวกับ a space mega โครงการแรกเลยครับ ใครสนใจก็ลองไปดูห้องตัวอย่างของจริงกันได้แล้ววันนี้ที่โครงการนะ

เป็นคอนโดแบรนด์ใหม่จาก Areeya Property และยังเป็น Developer เจ้าแรกๆที่มาบุกเบิกคอนโดในย่านนี้เมื่อหลายปีก่อน (ตั้งแต่ตอนที่ Mega Bangna เพิ่งสร้างใหม่ๆ) นอกจากนี้ยังเป็นคอนโดมือ 1 ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบันนี้อีกด้วยครับ

ซึ่งข้อดีของโครงการใหญ่ๆ แบบนี้คือ เราจะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ให้ใช้งานเยอะมาก รวมถึงยังมีการแบ่งอาคารพักอาศัยออกเป็น 2 Tower เพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งานด้วยครับ นอกจากนี้แบบห้องพักก็ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว เพราะจะมีห้อง 1 Bedroom หน้ากว้างให้เลือกด้วยนั่นเอง

ข้อมูลโครงการ

Image 1/7

Facilities :

เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีเพื่อนบ้านกว่า 2,030 ยูนิต จึงมีพื้นที่ส่วนกลางที่เยอะมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของลูกบ้าน โดยฟังก์ชันที่น่าสนใจก็คือ NOWW Hall ที่ตั้งอยู่ในสวนตรงกลางระหว่าง 2 Tower บนชั้น 7 ซึ่งภายในจัดเป็นพื้นที่ Co-Working Space ให้เราได้นั่งเล่นและนั่งทำงานกันได้แบบ 2 ชั้นต่อเนื่องกัน อีกทั้งยังมีกระจกสูงแบบ Full Height ให้ชมสวนรอบๆได้อีกด้วย

นอกจากนี้ภายในแต่ละอาคารก็จะมี Lobby + Co-Working Space และฟังก์ชันอื่นๆแยกเป็นของตัวเอง ซึ่งจะกระจายตัวอยู่ในหลายๆชั้น ทำให้สามารถใช้งานกันได้อย่างทั่วถึงและไม่หนาแน่นจนเกินไป รวมถึงยังมีพื้นที่สวนหลายๆจุด ไม่ว่าจะเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง และยังมี Sky Garden Rooftop ให้ขึ้นไปพักผ่อนชมวิวกันได้อีกด้วย

Room Type :

ความน่าสนใจของแบบห้องโครงการนี้คือ จะมีห้อง 1 Bedroom แบบหน้ากว้างให้เลือกครับ ซึ่งบรรยากาศภายในจะมีความโปร่งโล่ง และมีอิสระในการจัดฟังก์ชันได้หลากหลายตามต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Living Area ที่สามารถแบ่งพื้นที่หลังโซฟาเป็นโต๊ะทานอาหารได้ หรือจะเป็นห้องนอนที่สามารถเพิ่ม Walk-in Closet แบบจริงจังได้อีกด้วย

นอกจากนี้เรายังได้ครัวปิดที่มีหน้าต่างเปิดระบายอากาศโดยตรงได้ จึงเป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบจริงจังได้สบายๆ หรือถ้าใครที่อาจมีงบประมาณจำกัดสักหน่อย ก็สามารถเลือกห้องขนาดเริ่มต้นที่เป็นแบบตอนลึกปกติของโครงการได้นะครับ

Image 1/5
บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom แบบหน้ากว้าง

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom แบบหน้ากว้าง

ส่วนถ้าใครที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัว หรือมีสมาชิกในห้อง 2 – 3 คน ก็จะมีห้อง 2 Bedrooms ที่เป็นไซส์ใหญ่ให้เลือกด้วยครับ โดยตำแหน่งห้องจะอยู่บริเวณมุมอาคารพอดี จึงได้ช่องแสง 2 ด้าน และทุกๆฟังก์ชันก็จะอยู่ติดหน้าต่าง ทำให้บรรยากาศภายในมีความสว่างโปร่งโล่ง และยังมีการออกแบบห้องน้ำให้แยกฟังก์ชันโซนเปียก/โซนแห้งออกจากกัน เพื่อให้สามารถใช้งานพร้อมๆกันได้ด้วย

Image 1/5
บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 Bedroom

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 Bedroom

ถัดมาคือโครงการ NUE Mega Plus Bangna จาก Noble เป็นคอนโด High Rise ที่อยู่ติดกับถนนใหญ่บางนา-ตราด และติดกับรั้วของห้าง Mega Bangna เลยครับ สำหรับโครงการนี้จะมีความน่าสนใจทั้งในด้านของทำเล ส่วนกลาง และห้องพักอาศัย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการตัวตึงของย่านนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็แลกมากับราคาที่เริ่มต้นสูงกว่าเพื่อนบ้านอยู่พอสมควร แต่ถ้าใครที่มีงบประมาณถึงก็ลองพิจารณาคอนโดแห่งนี้ดูได้ครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ข้อมูลโครงการ

  • ประเภท : High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร
  • จำนวนห้องพักอาศัย : 1,005 ยูนิต
  • Studio ขนาด 21.41 – 22.42 ตร.ม.
  • 1 Bedroom M ขนาด 26.25 – 29.39 ตร.ม.
  • 1 Bedroom L ขนาด 30.43 – 34.06 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 34.80 – 44.62 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 45.83 – 45.93 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Plus ขนาด 66.72 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 2.5 – 5 ล้านบาท (ณ วันที่ 4/04/2567)
  • ดูรีวิวเจาะลึก : The Sneak EP.160 : NUE Mega Plus Bangna

Location :

เริ่มจากทำเลของโครงการจะแตกต่างจากเพื่อนบ้านก่อนหน้านี้ เพราะจะอยู่ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด ไม่ต้องเข้าซอยเลยครับ และการขับรถมายังห้าง Mega Bangna เราก็สามารถใช้ทางลัดจากซอยราชวินิตบางแก้ว เพื่อวนเข้าประตูหลังได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกลับรถไกลๆบนถนนใหญ่ รวมถึงยังคงไปใช้งานทางด่วนและวงแหวนกาญจนาภิเษกได้สะดวกด้วย

โดยตัวโครงการจะอยู่ห่างจาก Mega Bangna ประมาณ 300 m. (วัดจาก Main Gate จนถึงประตูเข้าอาคารของห้าง) ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเดินถึงได้สบายๆ เหมาะกับคนที่ชอบเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินช้อปปิ้ง และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงข้อดีอีกอย่างของโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่แบบนี้คือ จะทำให้เราสามารถเรียกรถสาธารณะที่ผ่านไป-มาด้านหน้าโครงการได้ง่ายด้วยนั่นเองครับ

Image 1/6

Facilities :

นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างมากครับ โดยเฉพาะบรรยากาศที่สวยงามและให้ความรู้สึกหรูหราตามสไตล์ของ Noble รวมถึงยังมีการจัดให้ Main Facilities อยู่ที่ 3 ชั้นบนสุดของโครงการ โดยเฉพาะพื้นที่สวนสาธารณะ / สระว่ายน้ำ / Fitness / Sky Lounge และ Co-Creative Space ต่างๆ ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้งานและชมวิวมุมสูงสวยๆไปด้วยได้นั่นเองครับ

Room Type :

จุดเด่นของแบบห้องโครงการนี้คือ ห้อง 1 Bedroom ขึ้นไปจะเป็นห้องหน้ากว้าง ที่มีการแบ่งฟังก์ชันห้องนอนด้วยผนังทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยที่สูง รวมถึงห้องน้ำก็จะอยู่ภายในห้องนอนหลักด้วยครับ จึงทำให้เวลาอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืนจะสะดวกมาก แต่ถ้ามีแขกมาใช้งานในบางครั้งก็อาจต้องเสียความเป็นส่วนตัวบ้างนิดหน่อย

โดยห้อง 1 Bedroom จะมี 2 แบบหลักๆให้เลือก ต่างกันที่ตรงตำแหน่งของห้องครัวที่จะเป็นครัวเปิดอยู่หน้าห้อง ซึ่งแบบนี้จะทำให้ภายในห้องดูกว้างขวางโปร่งโล่งมากขึ้น และเหมาะกับคนที่เน้นใช้งาน Living Area ที่อยู่ติดระเบียง เพราะสามารถชมวิวไปด้วยได้ ส่วนอีกแบบหนึ่งจะเป็นครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง แบบนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังเป็นประจำ เพราะสามารถเปิดระบายอากาศได้โดยตรงนั่นเองครับ

Image 1/5

อีกแบบห้องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆก็คือ 1 Bedroom Plus ซึ่งจะเป็นห้องหน้ากว้างพิเศษ และทุกฟังก์ชันจะอยู่ติดกับช่องแสง เลยทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งมากๆ เหมาะกับคนที่อยู่อาศัยกันเป็นครอบครัว หรือเป็นพี่น้องที่ต้องการแยกห้องนอนเป็นส่วนตัวก็ได้ โดยห้องนอนทั้ง 2 จะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันครับ

พิเศษหน่อยสำหรับห้องนอนหลัก จะมีประตูเชื่อมต่อห้องน้ำได้โดยตรงด้วย ทำให้มีสะดวกในการใช้งานและไม่เสียความเป็นส่วนเลยนั่นเอง ถือว่าเป็นดีไซน์ Signature ของ Noble ที่เราสามารถพบเห็นได้ในหลายๆโครงการ และผมเองก็คิดว่ามัน Work มากๆเลยทีเดียว

Image 1/5

ส่วนถ้าใครที่ต้องการจะอยู่เป็นครอบครัวจริงจังเลย ก็จะมีห้อง 2 Bedrooms ให้เลือกด้วยครับ ลักษณะจะคล้ายๆห้อง 1 Bedroom Plus เลย เพียงแต่จะมีการเพิ่มห้องน้ำเข้ามาอีก 1 ห้อง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานและเพียงพอมากขึ้น รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนแต่ละห้องก็จะกว้างขวางมากขึ้นด้วยครับ ทำให้สามารถจัดเป็นมุมแต่งตัว หรือมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือเพิ่มเติมได้สบายๆ

Image 1/5

มาต่อกันที่โครงการ Flexi Mega Space Bangna จาก Sena ซึ่งเป็นคอนโดแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อ 1 – 2 ปีที่ผ่านมานี้เองครับ อีกทั้งยังเป็นคอนโดมิเนียมแห่งแรกของ Sena ที่ใช้แนวคิด Condo Low Carbon ด้วยการนำ Smart Technology ต่างๆเข้ามาใช้ภายในโครงการ ซึ่งจะช่วยลดมลพิษและประหยัดพลังงานได้ดี ใครที่เป็นสายรักษ์โลกก็น่าจะถูกใจกันไม่น้อย

แต่จุดเด่นจริงๆของโครงการนี้ก็คือ ‘ห้องพักอาศัย’ ที่มีแบบห้องให้เลือกเยอะมาก และเป็นดีไซน์ใหม่ แถมยังมีฝ้าเพดานสูงสุดในย่านถึง 2.9 m. จึงทำให้มีความโปร่งโล่ง รวมถึงยังขายแบบ Fully Furnished ดีไซน์ geo fit + ที่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งของห้องได้อย่างเต็มที่มากขึ้นอีกด้วยครับ

ข้อมูลโครงการ

Location :

ขอเริ่มจากทำเลที่ตั้งโครงการ จะมีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆก่อนหน้านี้ เพราะจะขยับออกมาจากห้าง Mega Bangna ประมาณ 3.5 km. ซึ่งก็ยังสามารถไปเดินช้อปปิ้งได้ไม่ยากเท่าไหร่ครับ แต่จุดเด่นของเค้าจริงๆคือ จะอยู่ติดกับซอยวัดคลองปลัดเปรียง ที่สามารถใช้เป็นทางลัดเชื่อมต่อไปศรีนครินทร์ได้สะดวกมาก รวมถึงยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) MRT ศรีเอี่ยม 2.1 km. เป็นหนึ่งในตัวเลือกเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกมากขึ้น และแน่นอนว่าทางโครงการจะมี Shuttle Service รับ-ส่งให้ด้วยครับ

Image 1/4

Facilities :

ความพิเศษของ Flexi โครงการนี้คือ ดีไซน์คอนเซ็ปต์ที่ใช้ในการออกแบบจะเน้นความเป็นธรรมชาติสไตล์ Earth Tone และดู Homey สบายตามากขึ้น แตกต่างจาก Flexi โครงการอื่นๆที่มักจะเน้นสีสันที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย ซึ่งภายในจะมีฟังก์ชันพื้นฐานให้ใช้งานครบครันเลยครับ

Room Type :

แบบห้องมาตรฐานของโครงการนี้จะเป็น 1 Bedroom แบบตอนลึก ที่จะมี 2 แบบหลักๆให้เลือกคือ แบบที่ได้ครัวปิดติดระเบียง จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารทานเองเป็นประจำ และแบบที่ได้ Walk-in Closet ภายในห้องนอนหลัก ซึ่งจะเป็นดีไซน์ใหม่จาก Sena เหมาะกับสาวๆหรือคนที่ชอบแต่งตัวเป็นพิเศษ และต้องการพื้นที่เก็บของเยอะๆ เป็นต้น ซึ่งห้องน้ำยังมีดีไซน์ให้สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง จึงทำให้มีความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นครับ

Image 1/5

ห้องถ้าใครที่ต้องการอยู่อาศัยเป็นครอบครัว ที่นี่ก็มีห้อง 2 Bedrooms ให้เลือกด้วยนะครับ โดยจะเป็นดีไซน์ห้องหน้ากว้าง ที่เน้น Common Area ขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำ 2 ห้องให้แยกกันใช้งานได้เป็นส่วนตัว ซึ่งครัวจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ได้เป็นครัวปิดที่พอจะทำอาหารได้อยู่ครับ รวมถึงห้องนอนทั้ง 2 ยังกั้นด้วยผนังทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนที่สูงมากๆเลยทีเดียว

Image 1/5

อีกหนึ่งแบบห้องที่พิเศษมากๆของโครงการนี้คือ Studio ที่ถึงแม้จะมีขนาดพื้นที่เล็กสุดเพียง 22.5 ตร.ม. แต่ก็ยังจัดให้มีมุม Walk-in Closet และได้ครัวปิดด้านหน้าห้องด้วยครับ เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน ในพื้นที่ขนาด compack และลงตัว ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการดีไซน์เฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Function ที่เป็นของถนัดของ Sena อยู่แล้วนั่นเอง

โดยพระเอกของห้องนี้ก็คือ ‘เตียง’ ซึ่งลักษณะจะเป็นเหมือนพื้นต่างระดับที่ยกสูงขึ้นมา และสามารถวางฟูกที่นอนด้านบนได้คล้ายดีไซน์แบบญี่ปุ่น ด้านล่างจะเป็นช่องให้เปิดเก็บของได้เต็มที่ และเราก็สามารถเดินขึ้นไปยืนบนที่นอนแบบเต็มความสูงได้สบาย เพราะห้องนี้มีฝ้าสูง 2.9 m. เรียกได้ว่าสูงที่สุดในย่านแล้วนั่นเอง

รวมถึงโต๊ะอเนกประสงค์ข้างเตียงก็ยังมีช่องให้เก็บของเยอะมากๆแบบนี้ด้วยครับ ดังนั้นคอนโดของ Sena จึงเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บของแบบคุ้มๆ และสามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปตกแต่งห้องเองให้เหนื่อย

ถัดมาจะเป็นโครงการรุ่นพี่อย่าง Niche MONO Mega Space Bangna ที่ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วครับ โดยทำเลก็จะอยู่ติดกับตัว Flexi ก่อนหน้านี้เลย แต่จะตอบโจทย์คนที่ต้องการหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ทันที ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือ พื้นที่จอดรถที่ให้มาเยอะถึง 70% (รวมจอดซ้อนคัน) เพราะเค้าจะมีอาคารจอดรถ 8 ชั้นแยกออกมาต่างหากด้วย เรียกได้ว่าเยอะที่สุดในย่านเลยทีเดียว (โครงการอื่นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40% เท่านั้น)

หมายความว่าโครงการนี้จะมีที่จอดรถค่อนข้างเพียงพอ และตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้งานรถยนต์เป็นหลักมากๆครับ โดยปัจจุบันโครงการนี้ขายไปแล้วเกินกว่า 90% แต่ยังพอจะมีแบบห้องทุกแบบให้เลือกอยู่ครับ ดังนั้นถ้าใครที่สนใจโครงการนี้ก็อาจต้องรีบกันสักหน่อยแล้วล่ะ (ติดต่อได้ที่สำนักงานขายเดียวกับโครงการ Flexi ที่อยู่ติดถนนใหญ่ด้านหน้าได้เลยครับ)

ข้อมูลโครงการ

Image 1/7

Facilities :

ดีไซน์ของโครงการจะเป็นสไตล์ Modern ที่มีการสอดแทรกธรรมชาติเข้าไปในฟังก์ชันต่างๆ จึงทำให้มีความสวยงามน่าใช้งาน โดยจะมีฟังก์ชันหลักๆครบ และมีทั้งแบบ Indoor + Outdoor ในสัดส่วนที่พอๆกันเลยครับ แต่จะเน้นหนักไปที่ฟังก์ชันแนว Active มากกว่า อย่างสระว่ายน้ำยาวกว่า 40 m. แถมยังมีสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง และพื้นที่ส่วนต่างระดับอีกด้วย

Room Type :

แบบห้อง 1 Bedroom ที่เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ นอกจากมีความเป็นสัดส่วนและใช้งานได้ดีแล้ว ยังมีความโดดเด่นตรง ‘ช่องแสง’ ที่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณผนังตรงกลางห้อง และผนังภายนอกที่อยู่ติดกับระเบียง ซึ่งจะช่วยทำให้ภายในห้องมีความสว่างโปร่งโล่งมากขึ้น รวมถึงเรายังได้ครัวปิดติดกับระเบียง เลยทำให้เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเองเป็นประจำด้วยครับ

จุดเด่นของคอนโดเสนาอีกอย่างคือ ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์แบบ Geo Fit+ ซึ่งนอกจากจะลงตัวกับพื้นที่ห้องแบบพอดีๆ และทำให้เราได้ใช้งานพื้นที่เก็บของเต็มที่มากขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องไปหาซื้อของมา Built-in ห้องเองอีกด้วย เรียกได้ว่าเหมาะกับคนที่ต้องการหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันทีครับ

Image 1/4

อีกแบบห้องที่น่าสนใจคือ 1 Bedroom Plus ซึ่งจะเป็นลักษณะห้องหน้ากว้างที่เชื่อมต่อฟังก์ชันตรงกลางด้วยผนังกระจก เลยทำให้มีบรรยากาศที่กว้างขวางและโปร่งโล่งเป็นพิเศษ โดยห้องอเนกประสงค์จะเป็นส่วนที่อยู่ติดกับช่องแสง และเป็นส่วนที่ยื่นออกไปด้านนอก จึงทำให้มีความน่าใช้งานและสามารถชมวิวเพลินๆได้อีกด้วย เป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน หรือคนที่ต้องการห้องอเนกประสงค์เป็นสัดส่วนมาใช้งานเพิ่มเติม เช่น ห้องทำงานอยู่บ้านสำหรับ Work From Home หรือใช้เป็นห้องนอนเด็กเล็กตอนที่น้องๆยังอายุไม่เยอะก็ได้ครับ

Image 1/5

และสำหรับใครที่กำลังมองหาห้องไซส์ใหญ่ ที่สามารถอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวจริงจังได้ โครงการนี้ก็จะมีห้อง 2 Bedrooms ให้เลือกด้วยนะครับ โดยจะเป็นห้องตรงหัวมุมอาคารที่ได้ช่องแสงในห้องนอนใหญ่เป็นแบบ Bay Window หรือกระจกเข้ามุม จึงทำให้สามารถชมวิวได้กว้างมากขึ้น

จุดเด่นของห้องนี้คือ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนทั้ง 2 จะมีขนาดใหญ่มาก โดยสามารถวางเตียงแล้วยังมีพื้นที่เหลือให้ทำเป็นมุมแต่งตัว หรือมุมโต๊ะอเนกประสงค์เพิ่มเติมได้สบายๆ นอกจากนี้ยังได้ครัวปิดที่พอจะทำอาหารจริงจังได้ ส่วนห้องน้ำจะต้องแชร์ร่วมกันครับ แต่ก็มีการออกแบบให้แบ่งฟังก์ชันส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกัน เพื่อให้สามารถใช้งานพร้อมๆกันได้นั่นเอง

สำหรับโครงการสุดท้ายในวันนี้คือ Atmoz Tropicana Bangna จาก AssetWise และเป็นโครงการเดียวที่เป็นคอนโดแบบ Low Rise อีกด้วยครับ แน่นอนว่าหากเราพูดถึง Developer เจ้าหนี้ ก็จะต้องนึกถึง Facilities ที่จัดเต็มมาให้เยอะสุดในย่านกว่า 40 ฟังก์ชัน โดยจะเป็นดีไซน์สไตล์รีสอร์ทที่สวยงาม ร่มรื่น และมีบรรยากาศน่าพักผ่อน อีกทั้งยังมีราคาที่จับต้องได้ไม่ยากอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันโครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว เราสามารถเข้าไปชมวิวจากห้องจริง และเดินดูบรรยากาศส่วนกลางของจริงกันได้เลยครับ

ข้อมูลโครงการ

Image 1/13

Facilities :

ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยครับ ซึ่งไม่ใช่แค่จำนวนฟังก์ชันที่เยอะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรยากาศที่สวยงามร่มรื่นมากๆอีกด้วย โดยทางโครงการจะมีการดีไซน์ให้เป็นบรรยากาศแบบรีสอร์ท เชื่อมต่อพื้นที่ภายในกับธรรมชาติภายนอก ที่มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่พื้นที่สีเขียว และสามารถเดินเชื่อมต่อถึงกันได้หมด รวมถึงยังให้สระว่ายน้ำถึง 2 สระอีกด้วย รับรองว่าใครที่ชอบใช้งาน Facilities ของคอนโดอยู่แล้วจะต้องถูกใจโครงการนี้อย่างแน่นอน

และเนื่องจากเป็นโครงการที่มีอาคารพักอาศัยถึง 5 อาคาร จึงได้มีการกระจายฟังก์ชันไปตามจุดต่างๆ เพื่อให้สามารถใช้งานกันได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งแต่ละอาคารจะมีจุดเด่นของฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

  • อาคาร A : จะอยู่ทางด้านหน้าสุด ทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับโดยมี Main Lobby และที่จอดรถให้ใช้งาน
  • อาคาร B : เน้น Facilities เอาใจสายรักสุขภาพ มีทั้ง Fit GYM , Health Station และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อย่าง Sunlight Pool ที่ได้ความยาวถึง 40 เมตร
  • อาคาร C : จะได้ความสงบมากขึ้น มีฟังก์ชัน Co – Working Lounge และ Private Meeting ให้ใช้งาน ซึ่งจากมุมมองของอาคาร C จะสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่หน้าอาคาร E ได้ด้วย
  • อาคาร D : อยู่ในสุดของโครงการ เน้นไปที่พื้นที่พักผ่อนหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Cinematic Theater , Spa & Suana Room , Grooming Salon และ Live Studio เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจการทำงานแบบออนไลน์มากขึ้น และนอกจากฟังก์ชันที่ชั้น 2 แล้ว อาคาร D ยังได้ Health Studio ที่ชั้น 8 อีกด้วย
  • อาคาร E : อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ Moonlight Pool ความยาว 44 เมตร สำหรับ Facilitiies ภายในอาคารจะเน้นพื้นที่สังสรรค์อย่าง Fine Dining Kitchen , Play Room , Massage Chamber ซึ่งลูกบ้านสามารถนัดเพื่อนๆมาปาร์ตี้กันได้ ทานอาหารไป ชมวิวสวนและวิวสระว่ายน้ำไปได้ด้วยนั่นเอง

Room Type :

โครงการนี้จะเน้นห้องไซส์เล็กอย่าง 1 Bedroom ซึ่งห้องขนาดเริ่มต้นจะมีลักษณะคล้าย Studio โดยพื้นที่ของ Living Area และเตียงนอนจะเชื่อมต่อกัน ทำให้มีขนาดใหญ่และกว้างขวาง เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน หรือคนที่ชอบใช้ชีวิตอยู่ภายในฟังก์ชันเดียวแบบง่ายๆอยู่แล้ว รวมถึงยังเหมาะกับ First Jobber ของน้องๆนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ และเหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่าให้กับพนักงานในย่านนี้อีกด้วยครับ เพราะราคาถือว่าไม่แรงเลย

Image 1/4

สำหรับห้อง 1 Bedroom แบบอื่นๆจะมีลักษณะที่คล้ายๆกันคือ จะกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ในห้องนอนให้มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง และยังอยู่ติดหน้าต่างอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าเค้าให้ความสำคัญกับห้องนอนเป็นพิเศษ รวมถึงยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานง่าย ส่วนบริเวณ Living Area ที่อยู่หน้าห้องจะได้แสงสว่างผ่านมาจากครัวเท่านั้น ซึ่งเราจะได้เป็นครัวปิดอยู่ติดกับระเบียง และเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังด้วยครับ

Image 1/5


บทสรุปส่งท้าย

..เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับข้อมูลคอนโดใกล้ Mega Bangna ทั้ง 7 โครงการที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้ มีโครงการไหนถูกใจ หรือตรงกับ Lifestyle และเงินในกระเป๋าเราบ้างรึเปล่า? ซึ่งแต่ละโครงการเค้าก็จะมีจุดเด่น และความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป โดยเราสามารถพิจารณาได้จากหลายๆปัจจัย เพื่อให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด ได้แก่

  • ทำเลที่ตั้งของโครงการ : สามาถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ 1.) คอนโดที่อยู่ใกล้ Mega Bangna แบบเดินถึงได้ไม่กี่ร้อยเมตร และยังไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ง่าย ประกอบด้วย a space mega 1 – 2, Noww Mega และ NUE Mega Plus Bangna / 2.) คอนโดที่เชื่อมต่อไปยังศรีนครินทร์ และไปใช้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้สะดวก ได้แก่ Flexi Mega Space Bangna, Niche MONO Mega Space Bangna และ Atmoz Tropicana Bangna
  • Facilities : จะต้องมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน และมีบรรยากาศแบบในที่เราชอบ เช่น ถ้าใครที่ชอบชมวิวมุมสูงสวยๆ และเน้นพวก Sky Facilities ก็จะเหมาะกับโครงการ a space mega 2 และ NUE Mega Plus Bangna / ส่วนถ้าใครชอบส่วนกลางเน้นความร่มรื่น บรรยากาศผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ท ก็จะเหมาะกับ Atmoz Tropicana Bangna / สำหรับใครที่เน้นพื้นที่นั่งทำงานเป็นพิเศษ ก็จะมีคอนโดของ a space mega 1 และ 2 ที่ฟังก์ชัน Co-Working Space จะเปิด 24 ชม. ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่หันมาทำงานออนไลน์อยู่บ้านมากขึ้น / ส่วนถ้าใครที่เน้นใช้รถและอยากได้โครงการที่มีที่จอดรถเพียงพอ ก็จะมีโครงการ  Niche MONO Mega Space Bangna ที่ให้ที่จอดรถมาเยอะสุดถึง 70% เลยครับ
  • ห้องพักอาศัย : หลักๆแล้วเราก็สามารถเลือกฟังก์ชันห้อง ให้เหมาะกับความชอบและ Lifestyle ของเราได้ครับ โดยคอนโดในย่านบางนาส่วนใหญ่จะเน้นห้อง 1 Bedroom ซึ่งก็มีหลากหลายแบบให้เลือกเยอะมาก ถ้าใครที่ชอบห้องหน้ากว้างเป็นพิเศษ ก็จะมีโครงการ Noww Mega และ NUE Mega Plus Bangna ที่ค่อนข้างโดดเด่น / ถ้าใครที่ชอบห้องฝ้าเพดานสูงและความโปร่งโล่ง ก็จะเป็นโครงการ Flexi Mega Space Bangna ที่มีฝ้าสูงถึง 2.9 m. / ถ้าใครที่เน้นการอยู่อาศัยเป็นครอบครัว เกือบทุกโครงการก็จะมีห้อง 2 Bedrooms ให้เลือกด้วยครับ แต่ถ้าเป็น 2 Bed 2 Bath ที่มีการใช้งานที่สะดวกและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็จะประกอบด้วยโครงการ a space mega 2, NUE Mega Plus Bangna และ Flexi Mega Space Bangna
  • ราคา : จะต้องอยู่ในงบที่จับต้องได้ และไม่เป็นภาระในอนาคตจนเกินไป บางโครงการอาจต้องเผื่อเงินในการตกแต่งห้องเพิ่มเติมด้วยครับ โดยโครงการที่มีราคาจับต้องได้ง่ายสุดในวันนี้ก็คือ Noww Mega จาก Areeya Property กับห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.08 ราคาเริ่มต้น 1.57 ล้านบาท รองลงมาคือ Atmoz Tropicana Bangna จาก AssetWise กับห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.25 ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท ตามลำดับ

และครั้งหน้า Thinkofliving จะพาไปรีวิวโครงการในย่านไหน หรือจะมีบทความดีๆอะไรมาฝากกันอีก ก็อย่าลืมฝากติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ขอบคุณมากคร้าบบ