สำหรับโปรเจค mixed-use ที่เราจะพาไป walk-in วันนี้คือโครงการ 101 True Digital Park หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นหูว่า Whizdom 101 กันนะคะ สำหรับโครงการนี้เป็นการพัฒนาพื้นที่ติดรถไฟฟ้าในตัวเมือง(เมืองที่ขยายตัวเติบโตออกมา) ถือว่าเป็นโครงการที่มาเปลี่ยนภาพย่านปุณณวิถี จากชุมชนดั้งเดิม ให้กลายเป็น node หรือจุดศูนย์กลางแห่งใหม่ของคนในละแวกนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ โดยปัจจุบัน (2021) ในโครงการก็สร้างเสร็จ เปิดใช้งานแทบทั้งหมดแล้ว และมีการพัฒนาที่ดินข้างๆ เป็น 101 True Digital Park phase2 เพิ่มเติมมาอีกด้วยค่ะ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารวบรวมข้อมูลของ 101 True Digital Park มาให้ดูกัน ภายในโครงการเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ


โครงการ 101 True Digital Park แรกเริ่มเกิดจาก MQDC บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการสร้างให้พื้นที่นี้เป็นที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อว่า Whizdom 101 แต่ว่าต่อมา บริษัท True Corporation ได้เข้ามาร่วมลงทุน และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น 101 True Digital Park เป็นโครงการ mixed-use ที่รวมทั้ง ที่อยู่อาศัย, ห้างสรรพสินค้า และสำนักงานไว้ด้วยกันค่ะ

ภายในโครงการ 101 True Digital Park แบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน

  1. Living space ; โซนที่พักอาศัย ประกอบด้วยคอนโด 3 โครงการ รวมเกือบ 2,000 ยูนิต
    – Whizdom Connect Sukhumvit
    – Whizdom Essence Sukhumvit
    – Whizdom Inspire Sukhumvit
  2. Lifestyle space ; โซน community mall สำหรับใช้ชีวิต แบ่งออกเป็น
    – Supermarket
    – 101 garden
    – 24 hour street
    – Hillside town
    – Sport club
  3. Work space ; โซนทำงาน ที่จัดแบ่งเป็น office space, co-working space, event space และ innovation space กระจายตัวอยู่ 3 อาคาร
    – Phoenix building
    – Griffin building
    – Pegasus building

สำหรับโครงการประเภท mixed-use อย่าง 101 True Digital Park นั้น มีข้อดีที่แตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมทั่วไปหลายอย่าง เช่น

การเดินทาง

Image 1/2

  • ความสะดวก : ตัวโครงการมีขนาดใหญ่ เข้า/ออกได้จากถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นถนนสายหลัก วิ่งเข้าเมืองไปทางฝั่งอโศก สยามได้เลย ทำให้สะดวกสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว และสำหรับคนที่ต้องใช้รถสาธารณะ โครงการที่ติดกับถนนใหญ่ก็เรียกหา Taxi ได้ง่าย หรือรถประจำทางก็มีหลายสายวิ่งบนถนนสุขุมวิทนี้ค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีรถไฟฟ้าวิ่งบนถนนสุขุมวิทเช่นกัน
  • ความปลอดภัย : สำหรับโครงการนี้ ไม่ถือว่าใกล้รถไฟฟ้ามาก แต่ก็ไม่ไกลเกินกว่าจะเดิน โดยมีการทำทางเชื่อม Skywalk จากโครงการไปยังตัวสถานีด้วยค่ะ มีหลังคาบังแดด กันฝน และภายในโครงการ 101 True Digital Park เองก็จะมีโซนที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงอีกด้วย ทำให้ไม่เปลี่ยว ใครกลับบ้านดึกก็ยังปลอดภัยอยู่ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์

  • ที่ 101 True Digital Park นี้ นอกจากจะมีที่พักอาศัยและสำนักงานแล้ว ยังมีส่วนที่เป็น Community mall ด้วยค่ะ ดังนั้นคนที่พักอาศัยหรือทำงานที่นี่ ก็จะได้ประโยชน์จากร้านค้าต่างๆที่เปิดสาขาในนี้ด้วย และไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่ก็ยังมีฟิตเนส ธนาคาร supermarket ครบครัน อีกทั้งยังมีส่วนที่เป็น co-working space ด้วย ทำให้คนที่อยู่ที่นี่ แทบไม่ต้องเดินทางไปไหนเลยค่ะ อยากซื้อของสดก็เดินไป supermarket, ตกดึกอยากหาขนมกินก็มี 7-eleven ให้บริการ, มีนัดทำงานหรือคุยงานก็นัดที่ร้านกาแฟหรือว่า co-working space ได้, มีฟิตเนสที่คอนโด หรือจะสมัครสมาชิก fitness center เพื่อเข้า class ต่างๆก็ได้ และถ้าต้องการทำธุรกรรมทางการเงิน หลายๆธนาคารก็เปิดสาขาที่นี่นะคะ ถือว่าสะดวกในการใช้ชีวิตมากเลยค่ะ


Living Space

ส่วนแรกที่เราจะพูดถึงในโครงการ 101 True Digital Park คือพื้นที่พักอาศัยค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 โครงการ พัฒนาโดย MQDC ภายใต้แบรนด์ Whizdom ค่ะ < จุดนี้เองก็เป็นที่มาของชื่อ Whizdom 101 ที่เราคุ้นหูกันนะคะ

และทั้ง 3 โครงการนี้ถือว่าเป็นคนละโครงการกันค่ะ มีทางเข้า-ออก ระบบรักษาความปลอดภัย และพื้นที่ส่วนกลางแยกโครงการทั้งหมด ชื่อเรียกของแต่ละโครงการก็มีดังนี้

  1. Whizdom Connect สุขุมวิท คอนโดสูง 41 ชั้น 673 ยูนิต (Sold out)
  2. Whizdom Essence สุขุมวิท คอนโดสูง 50 ชั้น 664 ยูนิต (Sold out)
  3. Whizdom Inspire สุขุมวิท คอนโดสูง 46 ชั้น 554 ยูนิต

โดยทั้ง 3 โครงการจะใช้ทางเข้า-ออกเดียวกันคือทางซอยปิยบุตร์ 1 ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคล และเป็นซอยตันที่ใช้ร่วมกับบ้านพักอาศัยไม่กี่หลัง นอกจากถนนทางเข้าแล้วก็จะมีทางเดินที่ผ่านทาง Community mall ด้านหน้าโครงการแยกมาให้อีกทางค่ะ

รูปแบบการวางผังของทั้ง 3 โครงการจะมีการวางตัวเป็นแท่งเยื้องๆกัน หันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ เป็นหลัก แต่การเลือก Unit-type ที่มาลงในแต่ละโครงการจะมีความแตกต่างกันอยู่ อย่างที่โครงการแรก อย่าง Whizdom Connect สุขุมวิท จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ส่วน Whizdom Inspire สุขุมวิท โครงการสุดท้ายจะเน้นห้องแบบ 2 Bedroom เป็นหลัก และมีจำนวนยูนิตต่อชั้นที่น้อยกว่าโครงการแรกๆที่เปิดขายค่ะ และตัววัสดุที่ให้มาก็จะดูดีกว่าโครงการแรกที่เปิดมาด้วยนะคะ ทำให้ราคาต่อตารางเมตรของโครงการล่าสุดก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ถ้าเราลองเทียบกันดูราคาเปิดตัวของ Whizdom Connect สุขุมวิทเมื่อปี 2015 จะอยู่ที่ 11x,xxx บาทต่อตารางเมตร ส่วนราคาของ Whizdom Inspire สุขุมวิทที่เปิดตัวจะอยู่ที่ 14x,xxx บาทต่อตารางเมตร ถือว่าเป็นโครงการที่วาง Segment สูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากมีความพร้อมของ Community Mall ด้านหน้าที่สร้างเสร็จเพิ่มขึ้นมาด้วยนะคะ

สำหรับเรามองว่าทั้ง 3 โครงการนี้เองก็ถือว่ากล้าที่จะตั้งราคาสูงเช่นกันนะ ถ้าลองคิดภาพตอนเปิดตัวใหม่ๆ ย่านนี้ถือว่ายังไม่มีอะไรเลย คอนโดราคาเท่านี้จัดว่าแพงใช้ได้เลย แต่ก็เป็นราคาที่ตั้งขึ้นมาเผื่ออนาคตเรียบร้อยแล้ว ว่าเป็นทำเลที่จะมีการพัฒนาสูง มูลค่าที่จะเพิ่มก็เพิ่มมาจากโปรเจค mixed-use ที่อยู่ตรงนี้เองด้วย ซึ่งพอเรามามองที่ปัจจุบันก็จะเห็นได้ว่า 101 True Digital Park กลายเป็นอีกหนึ่งห้างที่คนในละแวกนี้เลือกมาใช้งานเช่นกันค่ะ อาจจะไม่ได้นิยมเท่าโซนอ่อนนุชหรือว่าเซ็นทรัล บางนาก็จริง แต่ก็เรียกได้ว่าไม่ร้างนะคะ

ในแง่การเข้าถึงของทั้ง 3 โครงการจากทั้งทางรถและทางคนเดินจะไม่มีความแตกต่างกันมากนัก Whizdom Inspire สุขุมวิท อาจจะอยู่ลึกสุด ในสุด แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นแทน แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้คอนโดที่เห็นวิวคือโครงการที่ 2 และ 3 จะอยู่ใกล้กับอาคารส่วนที่เป็นสำนักงานมากกว่า และตัวอาคารนี้จะมีความสูงอยู่ประมาณตึก 20 ชั้น ดังนั้นในชั้นล่างๆที่หันหน้าไปทางทิศเหนือก็จะไม่ได้วิวเมืองนะคะ เห็นอาคาร Community Mall ที่อยู่ข้างๆแทน ในขณะที่ Whizdom Connect สุขุมวิท จะอยู่ไกลจากถนนใหญ่ที่สุด เหมือนจะดูตั้งอยู่โดดเดี่ยว แต่ก็ไม่มีอาคารสูงในระยะประชิดทั้งทิศเหนือและทิศใต้ ทำให้มุมมองที่ได้ดูเปิดโล่งเต็มที่ค่ะ

สำหรับใครที่อยากดูข้อมูลแต่ละโครงการก็คลิก Link ด้านล่างได้เลยนะคะ

Lifestyle Space

สำหรับโซนถัดมา จะเป็นโซนที่อยู่ด้านหน้าโครงการค่ะ เป็น Community mall ที่จัดร้านอาหาร , ธนาคาร , สวน และพื้นที่ co-working space โซนนี้เองถือว่าเป็นโซนที่ดึงดูดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้งานได้ ช่วยให้ 101 True Digital Park มีมูลค่ามากขึ้นค่ะ โดยพื้นที่ภายในโซนนี้ก็แบ่งย่อยออกมาเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้

Supermarket

ภายในโครงการ นอกจากร้านอาหารและ Food Court แล้ว ก็จะมีส่วนที่เป็น Supermarket ด้วยค่ะ โดยจะเป็นของ Tops Supermarket ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้คนที่อยู่คอนโดหรือว่าทำงานภายในโครงการ 101 True Digital Park สามารถเดินมาซื้ออาหาร ของสด ของใช้ ต่างๆนานาได้ ตัวเลือกก็จะมีหลากหลายกว่าสินค้าที่อยู่ในร้านสะดวกซื้อ บางครั้งก็จะมีโปรโมชันดีๆ เช่น ของสดหรืออาหารปรุงสำเร็จที่ลดราคาตอนดึกๆค่ะให้เลือกอีกนะ

101 garden

สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ใจกลางเมืองอย่างกรุงเทพฯนั้น ค่อนข้างยากเลยนะคะที่จะหาพื้นที่สีเขียวไว้เดินเล่น นั่งพักผ่อนหย่อนใจ หลุดจากความวุ่นวายของเมือง หามุมมาพักสายตา แต่ภายใน 101 True Digital Park มีการสร้างพื้นที่สีเขียวอยู่ด้านใน ซึ่งพื้นที่นี่อยู่ที่ชั้นบนของส่วนที่เป็น Community mall และตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่และแนวรถไฟฟ้า ทำให้ได้ความเงียบสงบมากขึ้น และกลายเป็นมุมที่เปิดโล่งโอบล้อมด้วยธรรมชาติดีเลยค่ะ

โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นสนามหญ้า ที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ เราจะเห็นครอบครัวพาลูกมาวิ่งเล่นตอนเย็นๆ และมีการจัดกิจกรรมต่างๆบริเวณนี้บ่อยครั้ง เช่น event market ต่างๆ มีคนมาขายของ เล่นดนตรี ได้บรรยากาศชิลล์ๆ เดินเล่นได้เพลินๆค่ะ

24 hour street

Image 1/2

ข้อจำกัดหนึ่งของห้างสรรพสินค้าหรือสำนักงานคือเป็นสถานที่ที่มีเวลาเปิด-ปิดค่ะ แต่ภายใน 101 True Digital Park นี้จะมีโซนที่ออกแบบไว้ให้สามารถเปิด 24 ชั่วโมงได้ โดยเป็นทางเดินและมีร้านค้าขนาบข้าง ซึ่งทำให้คนที่กลับบ้านดึกสามารถเดินผ่านเส้นทางนี้ได้ ผ่านร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงได้ ไม่อันตรายค่ะ

Hillside town

โซนร้านค้าที่ออกแบบพื้นที่ออกมาไล่ระดับ จำลองการเดินเขานั่นเองค่ะ เป็นการออกแบบที่เก๋ไก๋ทั้งเส้นทางการเดิน บรรยากาศที่แทรกเอาพื้นที่สีเขียวรอบๆเส้นทาง และการจัดร้านค้าต่างๆที่รายล้อม ถ้าบอกว่าเดินแล้วงงก็คงใช่นะคะ แต่ถ้าได้เข้าไปใช้งานจริงก็จะเจอกับมุมส่วนตัวหลายๆมุม ซึ่งเราเห็นว่ามีคนมาใช้งานจริง จับจองพื้นที่มุมต่างๆเอาไว้ ได้พื้นที่นั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวดีค่ะ สามารถนั่งเล่นได้ฟรีด้วยนะ ส่วนพื้นที่ร้านค้าเองก็มีมุมที่เป็นส่วนตัวเช่นกันค่ะ

จุดเด่นของโซนนี้ที่เรามองคือพื้นที่เป็นแบบ Semi outdoor ที่มีหลังคาขนาดใหญ่ปกคลุม ตัวหลังคาก็มีการออกแบบไฟให้สามารถเปลี่ยนสีได้ ดูทันสมัยดีนะคะ

ในเชิงสถาปัตยกรรมนับว่าน่าสนใจดีเลยค่ะโซนนี้ ช่วงที่เราไปเป็นวันธรรมดากลางวัน ก็เห็นทั้งนักเรียน คนวัยทำงานมานั่งอ่านหนังสือ ทำงาน คุยงานกัน หรือจะเป็นผู้สูงอายุวัยเกษียณ ก็มีมานั่งเล่นเช่นกัน กลายเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์คนหลากหลายวัยดีนะคะ

Image 1/3

Sport club

นอกจากพื้นที่กิน เที่ยวแล้ว อีกกิจกรรมหนึ่งของหลายคนคือการเข้าฟิตเนสค่ะ บางคนชอบที่จะออกกำลังกายเองที่บ้านหรือเข้าฟิตเนสที่คอนโด แต่ก็มีอีกหลายคนอย่างคนทำงาน หรือคนที่ต้องการคนมาบิ้วให้ออกกำลังกายอย่างผู้เขียน Fitness center ก็เป็นสถานที่ที่เราขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิตนะคะ ซึ่งภายใน 101 True Digital Park นี้ก็มีโซนที่เป็นฟิตเนสเช่นกัน เป็นของ Virgin ค่ะ เรียกว่า Virgin active 101 ถือเป็น Club ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย โดยมีพื้นที่มากกว่า 6,000 ตร.ม. ภายในมีทั้งโซนที่วางอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างที่เราเห็นทั่วไป และก็มีทั้งคลาสออกกำลังกายต่างๆ มีสนามบอล สนามบาสสำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬา มีสระว่ายน้ำยาว 25 เมตรให้ใช้งานอีกด้วย คนที่ทำงานตรงนี้ เลิกงานก็เดินมาเล่นฟิตเนสได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางต่อไปไหนไกล ประหยัดทั้งเวลาและค่าเดินทางด้วยค่ะ

Image 1/5
credit : www.virginactive.co.th

credit : www.virginactive.co.th

นอกเหนือจากที่เราเล่าไป ในอนาคตก็จะมี True Digital Park เฟส 2 มาเปิดข้างๆอีกด้วยค่ะ ตอนนี้ก็เห็นว่ากำลังก่อสร้างอยู่เลย ที่เฟส 2 นี้ก็จะเป็นร้านค้า สำนักงานเช่นกันนะคะ


Work space

และโซนสุดท้ายของโปรเจค Mixed-use นี้คือพื้นที่ทำงานนั่นเองค่ะ ซึ่งที่นี่ไม่ได้ออกแบบอาคารหรือพื้นที่เอาไว้สำหรับสำนักงานธรรมดาทั่วๆไปนะ แต่จะมีการคิดถึงการทำงานในแบบของคนรุ่นใหม่อีกด้วย ดังนั้น นอกจากส่วนที่จะเป็นสำนักงานปกติแล้ว ก็จะมีส่วนที่ออกแบบไว้ให้เป็น co-working space เช่นกัน สามารถเข้ามาใช้งานได้ฟรีๆด้วยค่ะ(ณ วันที่เราไปฟรีนะ)

พื้นที่ส่วนที่ทำงานนั้นจะกระจายตัวอยู่ 3 อาคาร แต่ละอาคารก็จะมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ คือ
Phoenix building อาคารสูง 10 ชั้น ตั้งอยู่ทางด้านหน้า เป็นอาคารแรกที่จะเจอเมื่อเดินมาจาก Skywalk ค่ะ
Griffin building อาคารสูง 16 ชั้น อยู่อีกฝั่งแยกจากโซนที่เป็น Community พอสมควร
Pegasus building อาคารสูง 7 ชั้น ตั้งอยู่ด้านใน พื้นที่ตรงนี้จะเน้นการใช้งานที่ public มากขึ้น เป็น Co-working space บ้าง และจัดเป็นห้องประชุมบ้างค่ะ

สำหรับบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ที่นี่ ถ้าเราคุ้นหูก็จะมี True Corporation , MQDC (Developer ที่พัฒนาอสังหาฯตระกูล Whizdom ในโครงการ) และก็จะมี CP บางส่วนที่มาตั้งสำนักงานที่ 101 True Digital Park นี้ค่ะ

อย่างที่เราบอกไปนะคะ ว่าส่วนทำงาน ไม่ใช่จะมีเพียงสำนักงานหรือ office space เท่านั้น แต่ก็จะมีการออกแบบพื้นที่ทำงานไว้หลายส่วน ทั้ง event space, innovation space, community space อีกด้วย

Event Space

credit : www.truedigitalpark.com

พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่นงานสัมมนา จัด workshop หรือประชุมต่างๆ โดยพื้นที่ตรงนี้จะเปิดให้คนทั่วไปสามารถเช่าจัดงานต่างๆได้  ซึ่งตัวเลือกก็จะมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ ทั้ง scale ห้องประชุมขนาดเล็ก หรือ auditorium ขนาดใหญ่เกือบ 400 ที่นั่ง(นับแบบ social distance ก็รองรับได้ 100 ที่นั่ง) และในช่วงสถานการณ์ Covid-19 แบบนี้ก็มีมาตรการรองรับด้วยค่ะ

Image 1/4
www.truedigitalpark.com

www.truedigitalpark.com

Co-working space

credit : www.truedigitalpark.com

ในยุค digital แบบนี้หลายคนมาเป็น freelance กันมากขึ้น ไม่ต้องเข้าทำงานที่ออฟฟิศกัน สามารถหยิบ notebook พกไปทำงานที่ไหนก็ได้ จะประชุมกันก็สามารถ video call กันผ่านโปรแกรมแชทต่างๆได้สบายเลย ส่วนบริษัทที่เปิดใหม่ หรือว่า start-up ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการพื้นที่สำหรับทำเป็นสำนักงานประจำ ต้องการแค่พื้นที่เล็กๆเอาไว้ทำงานหรือคุยงานร่วมกันเท่านั้น ดังนั้นแนวคิดอย่าง sharing economy ที่สามารถแบ่งปันพื้นที่ร่วมกันจึงเป็นที่นิยมมากในหมู่บริษัท start-up ค่ะ อย่าง model wework ที่เป็นที่ทำงานที่หลายๆบริษัทสามารถแชร์พื้นที่ร่วมกันได้ ประหยัดค่าเช่าพื้นที่ ค่าดูแล ค่าจ้างแม่บ้านได้ ซึ่งที่ 101 True Digital Park ก็มีสำนักงาน sharing-model นี้ให้เช่นกันค่ะ

นอกจากสำนักงานให้เช่าสำหรับชาว start-up ก็ยังมีอีกโซนที่เรียกว่า Whizdom Club ค่ะ ส่วนนี้ปัจจุบันเปิดให้บริการฟรีนะคะ เป็น co-working space ที่นักเรียน นักศึกษาสามารถมานั่งอ่านหนังสือได้ หรือว่าชาว freelance มานั่งทำงานได้ค่ะ เผื่อใครที่ต้อง work from home นานๆแล้วเบื่อ อยากเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ตรงนี้ก็เป็นตัวเลือกให้มาใช้งานได้นะคะ

ภายใน Whizdom club นอกจากโซนนั่งทำงานแล้วก็มีมุม Cafe ขายขนม เครื่องดื่มภายในตัว ไม่ต้องเดินไปไหนไกลเลย

ทิ้งท้าย

สำหรับเรา เรามองว่าที่นี่เป็นโปรเจคที่น่าสนใจ และไม่ค่อยจะเห็นมากเท่าไหร่ในกรุงเทพฯนะ ซึ่งโครงการแบบนี้เป็นเหมือนการสร้าง landmark ให้กับชุมชนเหมือนกัน ทำให้พื้นที่ในชุมชนเจริญขึ้น ความสะดวกสบายต่างๆก็เข้าถึงคนในชุมชนมากขึ้น นอกจากนั้นตัวโครงการเองก็ค่อนข้างมีหลากหลายโซน สามารถอยู่และใช้ชีวิตครบจบในตัว ยิ่งถ้าใครทำงานตรงนี้ ซื้อคอนโดตรงนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ต้องไปไหนเลย ประหยัดเวลาในแต่ละวันและค่าเดินทางได้อีกนะคะ และนี่ก็เป็นทั้งหมดของโครงการ 101 True Digital Park ที่เรารวบรวมมาให้ค่ะ ใครเคยใช้บริการส่วนไหน มีความคิดเห็นอย่างไร Comment กันมาได้นะคะ