รีวิวฉบับที่ 1965 …  บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นโทนสีขาวไม่เหมือนใครกับ โครงการ VIVE เอกมัย – รามอินทรา จาก Land & Houses ตั้งอยู่ในซอย โยธินพัฒนา 3 อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน 2 เส้นทาง ภายบ้านมีการออกแบบที่เน้นพื้นที่ใช้สอย การใช้ช่องเปิด และผนังทึบที่ได้ความเป็นส่วนตัว มี Facade ที่สามารถปรับได้ รวมถึงมีลิฟต์ส่วนตัวภายในบ้านทุกยูนิตค่ะ ซึ่งแบบบ้านในโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 แบบ ราคาเริ่มต้น 39-80 ล้านบาท เราไปชมกันเลย

Fact @ 19 SEPTEMBER 2019

  • VIVE Ekkamai – Ramintra (วีเว่ เอกมัย – รามอินทรา)
  • บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ซอยโยธินพัฒนา 3 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตบึงกุ่ม
  • เนื้อที่โครงการ 17-1-31 ไร่ จำนวน 48 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว V1 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 371 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาแปลงมาตรฐาน 39 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว V2 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 94 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาแปลงมาตรฐาน 54 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว V3 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 132 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 801 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาแปลงมาตรฐาน 77 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้า n/a เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง Q1 ปี 2562 
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ n/a
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1198

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.816495, 100.633639
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ  VIVE เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนา 3 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ 3 สาย คือ ใช้ซอยโยธินพัฒนา 3 เพื่อไปออกยังถนนประดิษฐ์มนูธรรม ใช้มุ่งหน้าเข้าเมืองไปทางถนนลาดพร้าว หรือขึ้นเหนือไปทางสายไหมได้, ใช้ซอยแจ่มจันทร์ไปออกยังถนนเกษตร-นวมินทร์หรือถนนประเสริฐมนูกิจ สามารถวิ่งออกเมืองไปทางเกษตร หรือไปยังทางพิเศษกาญจนาภิเษกไปออกยังมีนบุรีได้ค่ะ และอีกเส้นทางหนึ่งคือสามารถใช้ซอย สมาคมแพทย์หรือซอย นวมินทร์ 111 ไปยังถนนนวมินทร์ เพื่อไปยังรามอินทรา หรือลงมายังเสรีไทย หรือถนนรามคำแหงก็สะดวกค่ะ

สำหรับใครที่ใช้ทางด่วน ทำเลนี้สามารถเลือกใช้ได้ 2 เส้นทางเลย ทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัช) มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถใช้ทางด่วนไปยังถนนพระราม 9 หรือไปยังอ่อนนุชได้เลยค่ะ ส่วนอีกเส้นทางคือถนนกาญจนาภิเษก (ทางพิเศษหมายเลข 9) ห่างจากโครงการประมาณ 10 กิโลเมตร ไปยังรามอินทรา หรือสนามบินสุวรรณภูมิได้

บรรยากาศภายในซอยส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ มีความสงบแต่ก็ยังมีรถสัญจรผ่านไป-มาอยู่ตลอดทั้งวัน ภายในซอยเองก็มีร้านอาหารหลากหลายให้ได้เลือกใช้บริการ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความสะดวก เหมาะกับการอยู่อาศัยค่ะ

ในทำเลนี้ไม่เน้นการเดินทางด้วยรถสาธารณะมากนัก แต่ถ้าใครจำเป็นต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สามารถเรียก Taxi ได้ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือผ่าน Application ได้ค่ะ นอกจากนั้นในอนาคตยังมีแผนในการทำรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล บนถนนเกษตร-นวมินทร์ด้วยค่ะ แต่ตอนนี้ก็ยังคงเป็นแผนร่างอยู่และยังไม่มีมติหรือตำแหน่งสถานีที่แน่นอนนะคะ แต่ถ้าหากว่ามีรถไฟฟ้าสายนี้เกิดขึ้นจริงๆก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทางในย่านนี้ค่ะ

ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ VIVE เอกมัย-รามอินทรา เองจะมีร้านอาหาร สวนอาหารอยู่ไม่ไกลจากโครงการนระยะ 200-300 เมตร เนื่องจากทำเลนี้เป็นชุมชน มีบ้านพักอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ และนอกจากนั้นยังมีโรงเรียนตั้งอยู่ด้วย ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ ความคึกคักส่วนใหญ่จะอยู่ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งจะมีห้างใหญ่อย่าง Central Festival East Ville, CDC และ Chic Republic เป็นต้น หรือใครสะดวกออกเมืองไปทางรามอินทราก็จะมีห้างอย่าง  Fashion Island และ Promenade ซึ่งตอนนี้กำลังทำ HomePro แยกตัวออกมาอยู่ด้วยค่ะ และอีกเส้นทางหนึ่งก็สามารถลงมายังบางกะปิ ซึ่งมี The Mall บางกะปิ อยู่ค่ะ

เส้นทางที่เราจะพาไปวันนี้เริ่มจากถนนเลียบมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 มุ่งหน้าไปยังถนนประเสริฐมนูกิจ แล้วเข้าโครงการที่ซอยแจ่มจันทร์ ไปออกซอยโยธินพัฒนา 3 จะเห็นโครงการทางด้านซ้ายมือค่ะ ระยะทางรวมๆประมาณ 8 กิโลเมตรเส้นทางจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

เริ่มจากถนนเลียบมอเตอร์เวย์ (ทางคู่ขนานทางพิเศษหมายเลข 9) ให้เราตรงไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าถนน นวมินทร์ให้เราชิดซ้ายไว้ค่ะ

ทางจะบังคับเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนประเสริฐมนูกิจเอง ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆค่ะ

เข้าสู่ถนนประเสริฐมนูกิจจะเป็นถนนที่ค่อนข้างใหญ่ กว้างฝั่งละ 3 เลนวิ่งได้สบายๆ ตรงนี้รถไม่เยอะมากค่ะ ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ

วิ่งตรงไปตามป้ายบอกทางเกษตรศาสตร์ได้เลย

เมื่อเจอทางแยกสัญญาณไฟจราจรเข้าสู่ถนนนวมินทร์ให้เราตรงไปก่อนค่ะ ตามป้ายบอกทางเกษตรศาสตร์

เมื่อตรงมาเรื่อยๆแล้วจะเจอกับสามแยก ทางซ้ายเป็นถนนรัชดา-รามอินทรา ให้เราเตรียมตัวชิดซ้ายไว้ค่ะ

ขับมาอีกหน่อยจะเจอกับป้ายบอกทางเส้นทางลัดไปยังถนนนวมินทร์ ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแจ่มจันทร์ค่ะ

เข้ามาแล้วให้ตรงไปเรื่อยๆตามเส้นทางเลย อาคารส่วนใหญ่ในบริเวณนี้จะเป็นบ้านพักอาศัยและพื้นที่โรงงานขนาดเล็ก บรรยากาศค่อนข้างสงบการจราจรไม่พลุกพล่านมากนักค่ะ

เมื่อตรงมาจนสุดทางจะเจอกับร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ทางซ้ายมือสามารถแวะซื้อของเล็กๆน้อยๆได้นะคะ พอมาถึงตรงนี้ให้เราเลี้ยวซ้ายตามเส้นทางค่ะ

พอตรงตามทางมาเรื่อยๆจะเจอกับทางแยกเลี้ยวขวา ให้เลี้ยวเข้าซอย นวมินทร์ 111 แยก 4

เข้ามาแล้วขับตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับซอย นวมินทร์ 111 แยก 15 ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยค่ะ

พอเข้ามาในซอยนี้แล้วอาคารส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และโครงการจัดสรรสูงไม่เกิน 3 ชั้น บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย มาถึงตรงนี้แล้วให้เราตรงไปเรื่อยๆ

เจอกับแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยโยธินพัฒนา 3 ใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ

เข้าซอยโยธินพัฒนา 3 มาแล้วให้ตรงไปเรื่อยๆ เราจะเห็นร้านอาหารนั่งชิลสบายๆ อยู่ในเส้นนี้ค่อนข้างเยอะนะคะ อย่างทางนี้ก็จะผ่านร้านบ้านก้ามปูสามารถแวะทานก่อนกลับบ้านได้

ตรงมาอีกนิดก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ เห็นอาคาร Clubhouse สีขาวสะดุดตาตั้งแต่ด้านหน้าเลย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ VIVE เอกมัย-รามอินทรา ส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น และยังมีที่ดินเปล่าอยู่พอสมควรค่ะ ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างสงบ ถนนค่อนข้างโล่ง แต่ก็ยังมีรถสัญจรอยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งวันค่ะ แต่เนื่องจากทำเลนี้ไม่ไกลจากสถานศึกษา และเป็นชุมชนพักอาศัยจึงมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่บ้างภายในซอยทำให้หาของกินได้ไม่ยากค่ะ ส่วนพื้นที่ดินของโครงการติดกับอาคารต่างๆ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ซอยโยธินพัฒนา 3 ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า และอาคารพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่าและอาคารพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • CNX GOLF – Phothalai Golf Park ~ 1 กิโลเมตร
  • Crystal Park ~ 2.9 กิโลเมตร
  • Central Festival Eastville ~ 3.8 กิโลเมตร
  • CDC ~ 3.8 กิโลเมตร
  • HomePro เอกมัย-รามอินทรา ~ 4 กิโลเมตร
  • ทางพิเศษฉลองรัช ~ 5 กิโลเมตร
  • BigC ลาดพร้าว ~ 5.7 กิโลเมตร
  • The Mall บางกะปิ ~ 7.6 กิโลเมตร
  • Promenade ~ 7.9 กิโลเมตร
  • Fashion Island ~ 8 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus ลาดพร้าว ~ 11.3 กิโลเมตร

เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการ VIVE เอกมัย-รามอินทรา มีทางเข้า-ออก ติดกับซอยโยธินพัฒนา 3 โดยมีที่ดินทั้งหมดกว่า 17 ไร่ และมีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนหลังเพียง 48 ยูนิตเท่านั้น ทางเข้า-ออกของโครงการจะมีจุดเดียว และแบ่งแยกกันชัดเจนระหว่างทางเข้า และทางออกเพื่อควบคุมความปลอดภัยค่ะ เข้ามาในโครงการแล้วจะเจอกับ Clubhouse อยู่ทางซ้ายมือ เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนสีเขียวให้ลูกบ้านพาน้องหมาออกมาวิ่งเล่นได้ ถนนหลักภายในโครงการมีความกว้างอยู่ที่ 12.00 เมตร ระยะจากด้านหน้าสุดจนถึงหลังสุดของโครงการก็ไม่ไกลค่ะอยู่ที่ประมาณ 400 เมตรทำให้ลูกบ้านที่อยู่หลังด้านในสามารถเดินออกมาใช้งาน Clubhouse ได้ง่าย ส่วนซอยย่อยแต่ละซอยก็มีความกว้างอยู่ที่ 9.00 เมตร ซึ่งสามารถขับรถสวนกันได้สบายๆ ในแต่ละซอยเองก็จะมีจำนวนยูนิตไม่เกิน 4 ยูนิต ทำให้มีความเป็นส่วนตัวพอสมควรเลยค่ะ ตัวบ้านส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ทำให้แสงแดดบ่ายไม่ส่องเข้าสู่ด้านหน้าบ้านโดยตรงด้วยค่ะ

คนที่ตัดสินใจเลือกโครงการในระดับนี้ก็มักจะมีเรื่องของความรู้สึกและการออกแบบเข้ามาเกี่ยวข้องมากทีเดียวนะคะ และที่นี่เองก็มีเอกลักษณ์ในการออกแบบที่ไม่เหมือนใครด้วยสไตล์มินิมอล โทนสีขาวทั้งโครงการเลย ส่วนบรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

ทางเข้าของโครงการเป็นถนนยกระดับจากถนนซอยโยธินพัฒนาพอสมควรเลยค่ะ ตรงนี้จะช่วยในเรื่องของการป้องกันน้ำท่วมได้

สำหรับลูกบ้านที่เดินทางเข้า-ออกจะใช้เป็นระบบ RFID หรือ Easy Pass ผ่านประตูเหล็กรางเลื่อนอัตโนมัติได้เลยค่ะ แต่ถ้าเป็นแขกหรือญาติๆมาหาก็ต้องติดต่อที่ป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนนะ

ป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ดีไซน์ให้ดูเข้ากันกับรั้วเลื่อน ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง และมีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้ด้วยค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับถนนหลักของโครงการกว้าง 12.00 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างทีเดียว ทำให้รถสามารถวิ่งสวนกันได้แม้มีคันที่จอดอยู่ด้านข้างค่ะ ตลอดเส้นทางก็มีต้นไม้ตกแต่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวตัดกับสีขาวของโครงการได้ดี ทางด้านซ้ายมือของเราคือ Clubhouse และฝั่งขวาเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยค่ะ จะสังเกตว่าภายในโครงการไม่มีเสาไฟฟ้าเลย เพราะเดินระบบไฟฟ้าลงดินไว้ให้แล้วค่ะ

เรามาดูอาคาร Clubhouse กันก่อนค่ะ เป็นอาคาร 3 ชั้น ดีไซน์มินิมอลสีขาวมองเห็นได้จากด้านหน้าโครงการเลย

ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับผู้มาใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง หรือเป็นที่จอดสำหรับแขกก็ได้ค่ะ

ที่ผนังของ Clubhouse มีโลโก้ของโครงการติดอยู่ บอกถึงชื่อโครงการและเลข 06 19 หมายถึงเดือนและปีที่โครงการเปิดคือ มิถุนายน ปี 2019 นั่นเองค่ะ

ด้านใน Clubhouse ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วน Service และมีห้องนิติบุคคลอยู่ด้วยค่ะ บริเวณโถงทางเดินยังมีการดีไซน์เส้นแสงให้เข้ากันกับรูปทรงของอาคารด้วย

ตรงปลายทางเดินมีสวนเฟิร์นตกแต่งให้บรรยากาศเขียวชอุ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น และมีช่องแสงรับแสงธรรมชาติลงมายังไม้ยืนต้นด้วยค่ะ

เมื่อเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับส่วนของ Lobby ของโครงการ ซึ่งทางเข้าก็จะเป็นประตูกระจก Frameless บานเลื่อนอัตโนมัติ

เข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ค่ะ ก็จะมีโซฟาชุดต่างๆมาให้นั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือพักคอยได้ที่นี่เลย

และที่เป็นจุด High Light คือบรรยากาศด้านข้างที่สามารถมองเห็นได้ผ่านช่องแสงบานใหญ่เต็มผนังด้านข้างเลย

โดยจุดเด่นก็คือต้นจิกทะเล รูปทรงสวยที่ทางโครงการได้คัดสรรมาแล้ว และผืนน้ำที่สะท้อนเงาของต้นไม้ให้ความรู้สึกสงบ นั่งมองได้ทั้งวันเลยค่ะ และด้านข้างจะมีทางเดินขึ้นไปยังชั้นบนของ Clubhouse ด้วย

เมื่อขึ้นมาแล้วก็จะเจอกับพื้นที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสระระบบเกลือ ความยาว 15.00 เมตร กว้าง 8.00 เมตร เป็นสระ Outdoor ตอนเย็นๆแดดไม่ร้อนสามารถว่ายออกกำลังกายหรือพาเด็กมาเล่นน้ำกันได้ค่ะ

ตรงริมของสระว่ายน้ำจะเป็น Infinity Edge Pool มองเห็นวิวสวนส่วนกลางของโครงการได้

บริเวณสระว่ายน้ำก็มีห้องน้ำมาให้ เป็นแบบ Outdoor มองเห็นท้องฟ้าดูโปร่งสบาย

ถัดมาก็เป็นพื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ ซึ่งจะหลบอยู่ที่ริมสระเลยค่ะ ใครมาล้างตัวอาบน้ำก็จะได้ไม่เขินคนที่เดินผ่านไปมาด้วย

ด้านหลังสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่นั่งเล่นริมสระ และจะเห็นบันไดทางขึ้นไปยังห้อง Fitness นั่นเองค่ะ

ภายในห้อง Fitness เป็นห้องเพดานสูงดูโปร่งมองเห็นวิวด้านหน้าโครงการและวิวต้นจิกทะเลได้ค่ะ พื้นที่ของห้อง Fitness นี้สามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 10 เครื่อง และทางโครงการเลือกมาค่อนข้างหลากหลายชนิดเลยค่ะ

นอกจากวิ่งออกกำลังกายไปด้วยชมวิวไปด้วยแล้วทางโครงการก็มีตู้น้ำดื่มมาบริการด้วยค่ะ

ถัดจาก Clubhouse มาแล้วก็จะเจอกับสวน เป็นพื้นที่สีเขียวด้านหลังซึ่งตรงนี้ทางโครงการเขาได้เลือกใช้พันธุ์ไม้ที่มีสีเขียวชอุ่มตลอดทั้งปีเลย

ภายในสวนมีทั้งทางเดิน และสนามหญ้าสามารถพาเด็กๆ หรือน้องหมามาเดินเล่นออกกำลังกายได้ค่ะ

ภายในสวนมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้วย เนื่องจากโครงการยังเปิดมาได้ไม่นาน ในอนาคตพอต้นไม้โตขึ้นแล้วจะช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้มากขึ้น

มีพื้นที่นั่งเล่นชมวิวและพักผ่อนได้ค่ะ ใครชอบอ่านหนังสือเวลาแดดร่มๆก็ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศได้เลย

ภายในถนนซอยย่อยของโครงการกว้าง 9.00 เมตร ซึ่งสามารถขับรถสวนกันได้สบายๆ และทุกๆซอยจะมีจำนวนไม่เกิน 4 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวทีเดียวค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / ขนาด 15.00 x 8.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 3 จุด รวมประมาณ 1.2 ไร่ (รวม Clubhouse)
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง n/a เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12.00 ม. และถนนภายในกว้าง 9.00 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access  ระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor + Motion Detector + Heat Detector ทุกยูนิต
  • ลิฟต์ส่วนตัวทุกยูนิต


Product Walkthrough

ภายในโครงการนี้มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ ดีไซน์สไตล์มินิมอลโทนสีขาว เน้นความเป็นส่วนตัวภายในบ้าน ซึ่งบ้านที่ได้จะเป็นบ้านเปล่า พร้อมชุดครัว มีเครื่องปรับอากาศติดตั้งมาให้เป็นแบบ Cassette Type, มีแผงกันแดด(Facade)ที่สามารถปรับได้ และระบบ Air Plus ระบายอากาศภายในห้องนอนและระบบกันขโมย Magnetic Sensor, Motion Detector, และ Heat Detector รวมถึงลิฟต์โดยสารส่วนตัวมาให้ทุกยูนิต โดยบ้านแต่ละแบบมีขนาดและพื้นที่การใช้งานมาให้เลือก ดังนี้ค่ะ

  • บ้านเดี่ยว V1 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 371 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  • บ้านเดี่ยว V2 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 94 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  • บ้านเดี่ยว V3 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 132 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 801 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

บ้าน V1 พื้นที่ 371 ตารางเมตร

มาเริ่มกันที่แบบบ้าน V1 3 ชั้น มีที่ดินมาตรฐาน 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 371 ตร.ม. จะเห็นว่าเป็นบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมาก ฟังก์ชันภายในบ้านจัดมาให้แบบ 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน สไตล์การออกแบบยังคงความมินิมอล โทนสีขาวทั้งตัวบ้าน เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยโดยการออกแบบให้มีช่องเปิดรับแสงในด้านที่ลับสายตาจากเพื่อนบ้าน มี Facade ระแนงอลูมิเนียม แบรนด์ ALNEX (อัลเน็กซ์) ช่วยบังสายตาโดยระแนงถูกออกแบบให้มีความสวยงามเข้ากับตัวบ้าน  และมีบางส่วนสามารถปรับเปลี่ยนองศาได้ด้วยรีโมท ทำให้สามารถเลือกช่วงเวลาที่จะเปิดรับแสงธรรมชาติเข้าไปในบ้านได้ค่ะ

ชั้น 1 : ด้านหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถ 3 คัน มีทางเข้าหลักอยู่ทางด้านหน้าบ้าน สำหรับแม่บ้านสามารถเดินเข้าทางด้านข้างของบ้านไปยังพื้นที่ซักล้างเชื่อมต่อกับห้องครัวไทย หรือเข้าไปยังห้องแม่บ้านได้เลยค่ะ เมื่อเข้าบ้านมาแล้วจะเจอกับ Foyer สามารถมองเห็นวิวสวนด้านหน้าบ้านตรงนี้ใช้เป็นพื้นที่นั่งใส่รองเท้าได้ ซึ่ง Foyer จะอยู่ติดกับห้องเก็บรองเท้าเลย และเมื่อมองเข้าไปภายในบ้านจะเจอกับโถง Common Area เป็นพื้นที่นั่งเล่น ตรงนี้จะได้ Double Volume สูง 6.60 เมตร เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry ได้ช่องแสงด้านข้างบ้านมองเห็นวิวสวนได้ค่ะ ส่วนด้านหลังจะเป็นพื้นที่ Service มีห้องน้ำ Powder Room ห้องเก็บของ และลิฟต์โดยสารมาให้ 1 ตัว

 

ชั้น 2 : บันไดทางขึ้นจะเดินล้อมรอบลิฟต์โดยสารค่ะ บริเวณชานพักบันไดจะมีพื้นที่สวนภายในบ้านซึ่งจะได้ไม้ยืนต้นสูงปลูกมาให้ด้วยค่ะ ขึ้นมาแล้วชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัยทั้งหมด แบ่งเป็น 3 ห้องนอน ทุกห้องมีห้องน้ำในตัวเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ห้องนอนด้านบ้านจะมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวเป็น Semi-Outdoor สามารถออกมานั่งเล่นชมวิวด้านหน้าบ้าน และมองลงไปยังห้องนั่งเล่นได้ ส่วนห้องนอนด้านหลังฝั่งขวามือเป็นห้องนอนที่สามารถมองเห็นห้องนั่งเล่นได้เช่นกันค่ะ และมีพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนเชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานสะดวก ส่วนห้องด้านหลังบ้านฝั่งซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ยังมีพื้นที่สำหรับเตียง King Size (6 ฟุต) และตู้เสื้อผ้าได้ มีห้องน้ำส่วนตัวเช่นกันค่ะ บริเวณห้องน้ำสามารถมองออกมายังพื้นที่สีเขียวตรงบันไดได้

ชั้น 3 : เป็นเหมือน Penthouse ของบ้าน เป็น Master Bedroom ที่มีสวน Outdoor ส่วนตัวซึ่งทางโครงการปูหญ้าเทียมมาให้เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล สามารถจัดเป็นมุมทำงาน หรือมุมนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่เตียงนอนได้ ส่วนด้านหน้าบ้านจะได้ Balcony ส่วนตัวที่เป็นพื้นที่ Semi-Outdoor ออกมานั่งเล่นอ่านหนังสือพร้อมแช่ Jacuzzi ได้ ตรงนี้สามารถมองเห็นวิวหน้าบ้าน และปรับตำแหน่งแผงบังแดด (Facade) ให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเพิ่มเติมได้อีกด้วยค่ะ ส่วนทางด้านหลังเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ซึ่งจะได้เป็น 3 Function แบ่งห้องโถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ และมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ นอกจากนั้นที่ชั้น 3 นี้จะมีพื้นที่ชั้นลอยสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นห้องพระได้ค่ะ ส่วนบรรยากาศภายในบ้านจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมพร้อมๆกันเลย

ประตูรั้วทางเข้าบ้านเป็นรั้วเลื่อนอัตโนมัติสีขาวเข้ากันกับระแนง Facade ของบ้าน เข้าไปแล้วจะเจอกับลานจอดรถซึ่งได้ปูกระเบื้องลายหินเอาไว้ให้แล้วค่ะ ที่จอดรถสามารถจอดได้ทั้งหมด 3 คัน เมื่อจอดรถแล้วก็สามารถเดินเข้าบ้านทางด้านหน้าได้เลยค่ะ

ภายในบ้างของโครงการนี้ทุกยูนิตจะมีภูมิสถาปนิกจากโครงการจัดพื้นที่สวนเอาไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ หรือไม้พุ่มตามแนวรั้ว หรือทางเดินก็มีให้เรียบร้อยเลย

และทุกๆแบบ้านจะมีแนวความคิดในการออกแบบสวนที่แตกต่างกันโดยจะมีป้าย Concept การออกแบบติดมาให้ด้วยค่ะ

จากพื้นที่จอดรถสามารถมองเข้าไปภายในบ้านเห็นส่วนของ Foyer ด้านหน้าได้ เดี๋ยวเราจะพาไปเดินชมสวนรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ

ที่ด้านหน้าทางเข้าบ้านก็จะมีไม้พุ่ม ต้นเฟิร์น และไม้ยืนต้นตกแต่งไว้ให้ รวมถึงปูพื้นกระเบื้องลายไม้เป็นทางเดินได้รอบด้วยค่ะ

ด้านข้างบ้านมีทางเดินเดินได้รอบ และเว้นระยะห่างจากรั้วอยู่นิดหน่อยสามารถปลูกต้นไม้เพิ่มเติมได้นะคะ

ด้านหลังบ้านผนังส่วนใหญ่เป็นผนังทึบทั้งหมด มีช่องเปิดเพียงจุดเดียว แต่ก็ยังมีแนวต้นไม้ปลูกไว้ให้ตลอดทั้งแนว

ด้านข้างบ้านจะมีพื้นที่เดินเข้าไปยังส่วนซักล้าง ห้องครัว และห้องแม่บ้านได้ โดยจะมีอ่างล้างมืออยู่ตรงนี้ด้วยจุดหนึ่ง สำหรับใครทำสวนมือเลอะๆก็มาล้างด้านนอกบ้านตรงนี้ได้ค่ะ

วนมาถึงทางเข้าด้านหน้าบ้านกันแล้ว จะเห็นว่าพื้นทางเข้าของบ้านยกระดับสูงขึ้นมาประมาณ 0.50 เมตร ช่วยกันไม่ให้ฝุ่นจากด้านนอกเข้าไปในบ้านได้และทำให้ตัวบ้านมีพื้นที่ Service ข้างใต้ด้วยค่ะ

บริเวณทางเข้าบ้านก็มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถทำม้านั่งและชั้นเก็บรองเท้าเพิ่มเติมได้

เข้ามาในบ้านแล้วจะเจอกับส่วน Common Area ซึ่งเป็นพื้นที่ห้องรับแขกฝ้าเพดานสูง 6.60 เมตร ทำให้ดูโปร่งสบาย และเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry ทำให้ดูกว้างขึ้นค่ะ ส่วนพื้นห้องจะปูด้วย Engineering Wood หน้าไม้โอ๊คมาให้

ทางฝั่งด้านบ้านเมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Foyer และห้องเล็กๆด้านข้างนั่นก็คือห้องเก็บรองเท้านั่นเองค่ะ ให้ใช้งานได้สะดวก หยิบรองเท้าออกมาแล้วนั่งใส่ก่อนออกจากบ้านได้เลย

บริเวณ Foyer เป็นผนังกระจกเข้ามุม มองเห็นที่จอดรถและวิวด้านหน้าบ้านได้ค่ะ ซึ่งกรอบบานกระจกภายในบ้านทุกจุดเป็นแบรนด์ Tostem ค่ะ

ภายในห้องเก็บรองเท้าก็มีชั้นวางมาให้เรียบร้อยสามารถเก็บของและรองเท้าได้ค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ

ห้องรับแขกมีพื้นที่ประมาณ 3.60 x 4.25 เมตร วางโซฟาใหญ่ๆได้สบายๆเลยค่ะ สำหรับระยะดู TV ประมาณ 3.30 เมตรเหมาะกับวาง TV ขนาด 40 นิ้วขึ้นไปค่ะ บริเวณพื้นที่รับแขกจะได้แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากทางด้านหน้าบ้าน ที่ Double Volume และด้านหลังบ้านบริเวณพื้นที่รับประทานอาหารทำให้ได้แสงเพียงพอในเวลากลางวันค่ะ

ด้านชั้นวาง TV มีผนังค่อนข้างกว้างสามารถติดตั้ง TV ขนาดใหญ่ๆได้เลยค่ะ และมีช่องแสงอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่งทำให้ห้องรับแขกมองเห็นวิวสวนได้

เนื่องจากบริเวณห้องรับแขกจะได้ฝ้าเพดานสูง 6.60 เมตร จะเหมาะกับการติดโคมไฟ Chandelier โชว์เพื่อความสวยงามค่ะ

ถัดมาเป็นส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.90 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 4.45 x 5.50 เมตร มี Island  พร้อมเตาไฟฟ้าและเตาอบมาให้ด้วย พื้นที่ด้านข้างสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 6-8 ที่นั่งขึ้นอยู่กับสมาชิกภายในบ้านเลยค่ะ บริเวณนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ด้านข้างบ้าน และมีช่องเปิดระบายอากาศทางด้านหลังบ้านมาให้ 1 จุด

ช่องเปิดระบายอากาศสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดเป็นช่องเล็กๆ (ภาพขวาบน) หรือเปิดเป็นบานกระทุ้ง (ภาพขวาล่าง) เพื่อระบายกลิ่นเวลาทำอาหารบริเวณ Pantry ได้ค่ะ

ส่วน Pantry เตรียมอาหารจะได้เป็นเคาน์เตอร์สีขาว ดีไซน์มินิมอลเข้ากันกับตัวบ้าน พร้อม Backsplash ลายหินอ่อน Top ครัวมีวัสดุเป็นหินแกรนิตสีขาว คงทนต่อการใช้งาน พร้อมตู้เย็น Built-in และมีชั้นเก็บของมาให้ทั้งด้านล่างและด้านบนค่ะ

บริเวณ Pantry ได้ติดตั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าและเตาอบ จาก Kuppersbusch ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับ Hi End มาให้ พร้อมกับมีชั้นเก็บของที่เหมาะกับการวางขวดต่างๆให้หยิบใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

มาดูพื้นที่ด้านข้างครัวกันก่อน จะเห็นว่ามีประตูอยู่ 2 บาน ซึ่งเป็นบานประตูสูง 2.90 เมตร กลืนไปกับผนังเลย ตรงนี้จะเป็นส่วนของ Service ห้องเก็บของ ห้องน้ำ และอีกบานเป็นทางเชื่อมต่อไปยังครัวไทยค่ะ

ห้องน้ำที่ได้ชั้นล่างจะเป็น Powder Room ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวทั้งหมด มีช่องเปิดระบายอากาศอยู่ด้านบนซึ่งทำให้มีแสงเข้ามายังห้องน้ำได้ค่ะ ภายในห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติและโถปัสสาวะชายติดตั้งมาให้ จาก American Standard พร้อมกับอ่างล้างหน้าและชั้นวางของ

อ่างล้างหน้าที่ได้จะเป็น Built-in ติดกับผนังเลยและมีช่องเก็บของด้านล่างพร้อมกับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนจาก Stiebel มาให้ค่ะ

มาถึงครัวไทย จะมีเคาน์เตอร์ Built-in มาให้ 2 ฝั่งเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ ภายในห้องครัวจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ที่ริมห้องมองเห็นสวนด้านข้างบ้านทำให้ครัวดูไม่อึดอัดและสามารถระบายอากาศได้ด้วย

ภายในครัวไทยจะมีพื้นที่ฝั่งหนึ่งเป็นส่วนเตรียมอาหาร มีเตาแก๊สและเครื่องดูดควันมาให้จาก Teka และอีกฝั่งเป็นพื้นที่อ่างล้างจานและสามารถวางตู้เย็นด้านข้างได้ค่ะ ทั้ง 2 ฝั่งมีตู้เก็บของ Built-in มาให้ด้วย

ด้านข้างของห้องครัวจะมีช่องแสง มองเห็นสวนด้านหลังบ้าน และมีช่องบานเกร็ดกระจกหมุนเปิดเพื่อระบายอากาศได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

ประตูครัวที่เชื่อมต่อไปยังห้องซักล้างจะเป็นประตูบานกระจกและมุ้งลวด ที่เราสามารถเลื่อนเปิดเป็นช่องระบายอากาศตามภาพฝั่งขวามือได้

ออกมาจากห้องครัวไทยแล้วจะเจอกับบริเวณซักล้างมีงานระบบสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ และบริเวณนี้ยังเป็นส่วนของห้องแม่บ้าน และห้องน้ำแม่บ้านด้วย

มาดูโถงทางเดินขึ้นชั้น 2 กันบ้าง ซึ่งบ้านทุกยูนิตจะได้ลิฟต์โดยสารส่วนตัวมาให้ 1 ตัวค่ะ ส่วนบันไดของบ้านหลังนี้จะเป็นบันไดวนรอบโถงลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 2 นั่นเอง

ลิฟต์โดยสารที่ได้หน้าตาเหมือนในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ สามารถขึ้นได้ 3-4 คนสบายๆ ภายในสามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามความชอบของเจ้าของบ้านเลย

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วย Engineering Wood หน้าไม้โอ๊คเข้ากับพื้นของบ้าน

บริเวณชานพักบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้โถงบันไดค่อนข้างสว่างเลย บริเวณนี้ทางโครงการก็มีต้นไม้และตกแต่งสวนมาให้เช่นกันค่ะ

ขึ้นมายังชั้น 2 แล้ว ก็จะเจอกับ Double Volume มองลงไปเห็นพื้นที่ห้องรับแขก ชั้นนี้จะแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้องแตกต่างกันอย่างไรเราจะพาไปดูทีละห้องเลย

มาดูห้องนอนฝั่งด้านหลังบ้านกันก่อน ด้านหลังจะแบ่งห้องนอนออกเป็น 2 ห้องฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

ประตูห้องนอนจะมีช่องระบายอากาศเพื่อรองรับระบบ Air Plus ที่ช่วยหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน

ห้องนอนห้องนี้จะอยู่ด้านหลังฝั่งขวาของบ้าน มีขนาดประมาณ 3.90 x 4.30 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆมีพื้นที่เหลือด้านข้างวางโต๊ะเล็กๆได้ทั้ง 2 ฝั่ง ห้องนี้จะได้ช่องแสงเยอะทีเดียว ทั้งจากด้านข้างด้านหลัง และด้านในบ้านทำให้ห้องสว่างมากๆค่ะ

บริเวณปลายเตียงมีช่องแสงมองเห็นโถงทางเดินชั้น 2 และบริเวณห้องรับแขกชั้น 1 ได้ และมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถ Built-in ชั้นวาง TV หรือโต๊ะทำงานได้เลย

อีกฝั่งของห้องนอน จะได้พื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนเชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวกอาบน้ำออกมาแล้วแต่งตัวได้เลยค่ะ

ส่วน Walk-in Closet มีพื้นที่ 1.60 x 2.65 เมตรค่อนข้างกว้าง แต่ตัวบ้านจริงที่ได้ไม่มีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เหมือนกับบ้านตัวอย่างนะคะ สามารถ Built-in เพิ่มเติมได้เองทั้ง 2 ฝั่งเลย ใครอยากได้อีกฝั่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็สามารถทำได้

ภายในห้องน้ำ ตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้โทนสีขาวครีม แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน และมีฉากกั้นกระจกพื้นที่อาบน้ำมาให้เรียบร้อยค่ะ ช่วยให้เวลาอาบน้ำแล้วน้ำไม่กระเด็นมาเปียกส่วนอื่นๆได้ ห้องนี้จะได้ช่องแสงอยู่เหนือพื้นที่โถสุขภัณฑ์สามารถเปิดเป็นช่องระบายอากาศได้เช่นกันค่ะ

อ่างล้างหน้าติดตั้งบนเคาน์เตอร์ จาก American Standard ด้านล่างเคาน์เตอร์มีช่องเก็บของมาให้ ใช้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน และเก็บพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดรวมถึงของใช้ต่างๆได้ค่อนข้างเยอะเลย

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบห้องน้ำที่ได้จาก American Standard

พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างทีเดียวยืนอาบได้สบายๆเลย ส่วนพื้นจะลดระดับมาให้เล็กน้อยไม่ให้น้ำไหลออกมาด้านนอก ผนังด้านข้างเว้าเป็นชั้นวางของสำหรับอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ดูสวยงามไม่ต้องติดตั้งเพิ่มเติม และมีที่นั่งมาให้ด้วยสำหรับใครมีผู้สูงอายุก็สามารถนั่งอาบได้ไม่ต้องกลัวลื่นล้มค่ะ

ห้องนอนถัดมาก็จะเป็นประตูที่สามารถระบายอากาศได้เหมือนกับห้องที่แล้วค่ะ

ห้องนี้จะอยู่ด้านหลังบ้านฝั่งเดียวกับลิฟต์ ซึ่งจะเป็นห้องนอนเล็ก ขนาด 3.80 x 4.25 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ พร้อมกับมีผนังเว้าเข้าไปด้านในสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าด้วย ห้องนี้จะได้ช่องแสง 2 จุดทางด้านข้างและด้านหลังบ้านรม 3 จุด ถือว่าเพียงพอเช่นกันค่ะ

ด้านข้างเตียงริมผนังมีพื้นที่เหลือเป็นมุมที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาพอดีสามารถทำเป็นมุมอ่านหนังสือ หรือมุมนั่งเล่นเพิ่มเติมได้

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน และมีฉากกั้นกระจกพื้นที่อาบน้ำมาให้เหมือนกันกับห้องที่ผ่านมาเลยค่ะ ห้องนี้จะได้ช่องแสงอยู่ด้านข้างอ่างล้างหน้าค่อนข้างใหญ่ทำให้ห้องน้ำสว่างและดูโปร่งมากขึ้น

ถัดมาเรามาดูห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันบ้าง

ก่อนอื่นเราจะเห็นแผงควบคุมต่างๆติดอยู่ที่โถงทางเดินชั้น 2 บริเวณบันได แผงด้านบนสุดคือระบบควบคุม Air Plus เชื่อมต่อกับพัดลมระบายอากาศภายในห้องนอนทุกห้อง โดยสามารถตั้งอุณหภูมิไว้ได้ ถ้าเกิดมีอุณหภูมิสูงเกินค่าที่ตั้งไว้พัดลมระบายอากาศจะทำงานเองอัตโนมัติ โดยไฟที่พัดลงระบายอากาศใช้นั้นจะมาจากแผง Solar Cell ที่ติดตั้งบนหลังคามาให้ค่ะ

ส่วนแผงตรงกลางเป็นระบบควบคุมความปลอดภัย Magnetic Sensor ทุกบานเปิดภายในบ้าน และระบบ Motion Detector ควบคุมได้จากตรงนี้เลย

เข้ามาในห้องนอนห้องนี้จะมีพื้นที่อยู่ด้านหน้าบ้านทั้งหมดเป็นเหมือนอีกหนึ่ง Master Bedroom ได้เลยค่ะ โดยห้องนี้จะมีขนาด 3.95 x 4.75 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตพร้อมกับ Built-in ชั้นวาง TV ได้สบายๆเลยค่ะ

จุดเด่นของห้องนี้ก็คือพื้นที่ระเบียง Semi-Outdoor ด้านข้างเป็นระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ และเป็นจุดที่ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องโดยไม่เสียความเป็นส่วนตัวในห้องเลย

ระเบียงที่ได้จะเป็นพื้นที่รับลมด้านนอก ขนาดประมาณ 3.00 x 3.70 เมตร สามารถวางโซฟา , Daybed หรือทำเป็นพื้นที่ออกกำลังกายส่วนตัวก็ได้เช่นกันค่ะ

จากพื้นที่ระเบียงสามารถมองเห็นโถงทางเดินชั้น 2 และห้องรับแขกที่ชั้น 1 ได้ ผ่านผนังกระจก Frameless ที่ติดมาให้เต็มผนังได้เลย

นอกจากนั้นยังมองเห็นวิวด้านหน้าบ้านได้ และมีระแนงบังสายตาจากภายนอกไม่ให้มองเห็นด้านในค่ะ สำหรับใครที่ชอบนั่งเล่นนอกบ้านแต่ไม่อยากเปียกฝน และยังมีความเป็นส่วนตัวน่าจะถูกใจเลย

กลับมาดูภายในห้องนอนอีกฝั่งของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำ แยกออกไปเป็นสัดส่วน

พื้นที่ Walk-in Closet กว้างประมาณ 2.15 x 2.95 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเข้ามุมเป็นรูปตัว L ได้ค่ะ

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน และมีฉากกั้นกระจกพื้นที่อาบน้ำมาให้เหมือนกันกับห้องที่แล้ว แต่ห้องนี้จะได้ช่องแสงอยู่ด้านข้างพื้นที่อาบน้ำทำให้อาจจะต้องติดตั้งม่านบังสายตาเพิ่มเติม

โดยโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่ได้ภายในห้องน้ำจาก American Standard เช่นกันค่ะ

ถัดมาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 3 ก็จะมีช่องแสงที่มองเห็นวิวต้นไม้จากชานพักบันไดชั้น 1 ได้ และเป็นจุดที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามายังโถงบันไดได้สว่างพอสมควรเลย

ขั้นมาชั้น 3 จะเจอกับห้อง Master Bedroom 1 ห้อง เป็นเหมือนห้อง Penthouse ของบ้านเลยค่ะ

เข้ามาในห้องนอนแล้วทางขวามือจะเป็นส่วนของพื้นที่โล่งสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงาน หรือนั่งเล่นได้ โดยจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกที่ทางโครงการได้จัดโรยหินและต้นไม้มาให้แล้วค่ะ ซึ่งตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาให้ห้องได้เต็มที่แต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัวจากผนังทึบภายนอกเช่นกัน

ส่วนพื้นที่พักอาศัยมีขนาดประมาณ 4.40 x 6.65 เมตร ยาวไปจนถึงด้านหน้าบ้าน ซึ่งจะมีระเบียงอีกจุดหนึ่ง ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย

พื้นที่เตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต หรือใหญ่พิเศษมากขึ้นได้ ปลายเตียงมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ นำโซฟาเล็กๆมาวางเพิ่มเติมได้ค่ะ

ประตูระเบียงจะได้เป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอนขนาดใหญ่ ทำให้แสงเข้ามายังห้องนอนได้เยอะ แต่ก็ไม่ร้อนเนื่องจากไม่ได้รับแสงเข้ามาโดยตรง ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้ ประตูกระจกทั้งหมดจะได้กรอบบานอลูมิเนียมจาก Tostem แข็งแรงและสามารถเก็บเสียงได้ดี

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.90 x 6.10 เมตร ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่น หรือมุมออกกำลังกายได้ มองเห็นวิวทางด้านหน้าบ้านและเป็นจุดที่สามารถปรับองศาของ Facade ให้เปิดรับเสงมากขึ้น หรือเปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทำความสะอาดได้ง่าย และมีราวกันตกเป็นกระจกบานเปลือยดูสบายตาและไม่บังทัศนียภาพ บริเวณระเบียงของห้อง Master Bedroom ทางโครงการได้มีอ่าง Jacuzzi ส่วนตัวพร้อมผนังตกแต่งเหมือนกับห้องตัวอย่างมาให้เลย

ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศออกมาอาบน้ำแบบ Semi-Outdoor หรือแช่น้ำนวดตัวสบายๆก็สามารถทำได้เลยที่บ้าน

ถัดมาเรามาดูส่วนพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำกันบ้าง

พื้นที่ Walk-in Closet ของห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.80 x 3.30 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง เก็บเสื้อผ้าได้เยอะทีเดียวค่ะ

มุมมองเมื่อมองจากห้องน้ำออกไปยังห้องนอน เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็สามารถออกมาแต่งตัวได้เลย ใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มอีกหน่อยก็สามารถทำประตูกั้น Walk-in Closet เพิ่มเติมได้ค่ะ

ส่วนห้องน้ำ Master Bathroom มีขนาด 2.95 x 4.40 เมตร ตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ตรงกลางเป็นพื้นที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า (ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนใต้อ่าง) และมีพื้นที่การใช้งานออกเป็น 2 ส่วน

ฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่อ่างอาบน้ำ มีกระจกเข้ามุมมองเห็นต้นไม้บริเวณชานพักบันไดได้ และมีความเป็นส่วนตัวอยู่ในจุดที่ด้านนอกมองเข้ามาไม่เห็น โดยไม่ต้องติดตั้งผ้าม่านเพิ่มเติมเลย

อ่างอาบน้ำเป็นอ่างจาก American Standard พร้อมฝักบัวอาบน้ำ สามารถนอนแช่น้ำสบายๆได้ค่ะ

ส่วนฝั่งขวามือเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบ Hand Shower และโถสุขภัณฑ์ แบ่งเป็น 2 ห้องสามารถเข้าพร้อมกัน 2 คนได้เลย

ภายในห้องอาบน้ำได้ฝักบัวดีไซน์แตกต่างจากห้องอื่นและมี Rain Shower ติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะได้เป็นระบบอัตโนมัติ ทั้งหมดจาก American Standard เช่นกันค่ะ

นอกจากนั้นที่ชั้น 3 จะมีทางเดินไปยังชั้นลอยได้

ชั้นลอยจะยกระดับจากชั้น 3 เล็กน้อยสามารถมองเห็นชานพักบันไดและวิวต้นไม้ด้านนอกได้ ดูโปร่งไม่อึดอัดค่ะ

ชั้นลอยจะมีขนาดประมาณ 2.25 x 2.35 เมตร ได้แสงธรรมชาติจากด้านหน้าบ้านเหมาะสำหรับทำเป็นห้องพระ หรือใครที่นับถือศาสนาอื่นๆก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่โชว์หรือเก็บของสะสมก็ดีเหมือนกันนะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้าน V2 พื้นที่ 520 ตารางเมตร

บ้านเดี่ยว V2 เป็นบ้านขนาดกลาง 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 94 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน มีราคาแปลงมาตรฐานอยู่ที่ 54 ล้านบาทค่ะ

ชั้น 1 : ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 4 คัน เข้ามาแล้วจะเจอกับ Foyer ซึ่งเป็นโถงแบ่งพื้นที่ของบ้านเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะเป็นพื้นที่ Common Area มีห้องรับแขกโถงสูง 6.60 เมตรเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry และเชื่อมไปยังครัวไทยด้านหลังบ้านได้ค่ะ ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ Service เป็นห้องแม่บ้าน ลานซักล้าง และมีพื้นที่เก็บของ, ห้องน้ำ รวมถึงเป็นจุดที่มีบันได และลิฟต์ส่วนตัวอยู่ด้วย

ชั้น 2 : ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง และมีพื้นที่นั่งเล่นเป็นโถงกลาง เชื่อมต่อกับระเบียงที่เป็นพื้นที่ Outdoor สำหรับนั่งชิล หรือพาเพื่อนๆมาปาร์ตี้กันได้ค่ะ ห้องนอนทางฝั่งหน้าบ้านจะมีทางออกมายังระเบียงได้เลย และมีพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ และมีระเบียงเป็นพื้นที่สีเขียวเพิ่มวิวให้กับห้องน้ำด้วยค่ะ ส่วนห้องนอนที่อยู่ติดกับลิฟต์โดยสารจะเป็นห้องนอนเล็กแต่ภายในก็จัดพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนและได้สวนเล็กภายในห้องน้ำเช่นกันค่ะ ส่วนห้องนอนอีกฝั่งจะแยกออกจากห้องนอนอื่นทำให้มีความเป็นส่วนตัวและมีช่องแสงมองลงไปยังห้องนั่งเล่นด้านล่างได้ ห้องนี้จะได้พื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วน และได้ห้องน้ำแบบ 3 Function ด้วยค่ะ เป็นเหมือน Master Bedroom อีกห้องหนึ่งเลย

ชั้น 3 : จะเป็นเหมือน Penthouse ของบ้าน แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือส่วนนั่งเล่นพักผ่อน จะเป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับ Outdoor Balcony และมี Jacuzzi ส่วนตัวด้วย ภายในห้องนั่งเล่นนี้ก็จะมีห้องน้ำพร้อมห้องอาบน้ำมาให้เวลาพาเพื่อนๆหรือญาติมาจะได้เข้าห้องน้ำที่ห้องนั่งเล่นได้เลยไม่ต้องผ่านห้องนอนค่ะ ส่วนห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านสามารถกั้นประตูปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ เข้ามาแล้วจะมีพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวอีกหนึ่งจุดเชื่อมต่อกับพื้นที่เตียงนอน และจุดเด่นของ Master Bedroom นี้ก็คือห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่มีห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่ภายในตัว โดยจะได้เป็นห้องน้ำ 3 Function พร้อมอ่างอาบน้ำที่มองเห็นสวนได้ทั้ง 2 ฝั่งเหมาะกับคนที่ชอบแช่น้ำมากๆค่ะ และชั้นนี้จะมีพื้นที่ชั้นลอยมาให้ด้วยสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นห้องพระได้ค่ะ

Image 1/74
VIVE-เอกมัย-รามอินทรา01-บ้านV22

VIVE-เอกมัย-รามอินทรา01-บ้านV22

บ้าน V3 พื้นที่ 801 ตารางเมตร

บ้านที่ใหญ่ที่สุดในโครงการคือแบบบ้านเดี่ยว V3 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 132 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 801 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน บ้านหลังนี้มีราคาแปลงมาตรฐานอยู่ที่ 77 ล้านบาทค่ะ

ชั้น 1 : ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 4 คัน มีพื้นที่ Semi-Outdoor อยู่ตรงกลางสามารถใช้จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือปาร์ตี้กับเพื่อนๆได้ โดยบ้านหลังนี้จะแบ่งพื้นที่การใช้งานในอาคารออกเป็น 2 ส่วน คือส่วน Common Area ประกอบไปด้วยห้องรับแขก เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร, Pantry และครัวไทยด้านหลัง โดยจะมีห้องน้ำ Powder Room มาให้ด้วย และอีกส่วนคือส่วน Service เป็นห้องแม่บ้าน ลานซักล้าง และมีพื้นที่เก็บของ รวมถึงเป็นจุดที่มีบันได และลิฟต์ส่วนตัวอยู่ด้วยค่ะ

ชั้น 2 : ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง แต่ละห้องจะมีพื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนและมีห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 3 Function ซึ่งห้องนอนแต่ละห้องก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปค่ะ ห้องนอนที่แยกออกไปผ่านทางเดินจะเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัวที่สุด มีช่องแสงสามารถมองลงไปเห็นห้องรับแขกด้านล่างได้ ส่วนห้องด้านหน้าบ้านจะเป็นห้องที่มีทางเชื่อมกับบันไดขึ้นสระว่ายน้ำชั้น 3 และสามารถปรับแผงกันแดด (Facade) ด้านหน้าบ้านได้ ส่วนห้องนอนทางด้านหลังบ้านจะได้พื้นที่ระเบียง Semi-Outdoor ส่วนตัวค่ะ

ชั้น 3 : เป็น Penthouse ของบ้าน แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือส่วนนั่งเล่นพักผ่อน เป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับ Outdoor Balcony ซึ่งมีสระว่ายน้ำ 3.00 x 8.00 เมตรมาให้ด้วย สามารถว่ายน้ำเล่นกันจริงจังได้เลย ภายในห้องนั่งเล่นนี้ก็จะมีห้องน้ำพร้อมห้องอาบน้ำมาให้เวลาพาเพื่อนๆหรือญาติมาจะได้เข้าห้องน้ำที่ห้องนั่งเล่นได้เลยไม่ต้องผ่านห้องนอนเช่นกันค่ะ ส่วนห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านสามารถกั้นประตูปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ เข้ามาแล้วจะเจอกับห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่ และห้องน้ำ Master Bathroom จะได้อ่างล้างหน้า His & Her และมีอ่างอาบน้ำมาให้ ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะได้ช่องแสงจากทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านซึ่งจะมีระเบียงส่วนตัวค่อนข้างกว้างเลย ให้ออกมาใช้งานนั่งเล่นดูดาวในตอนกลางคืนก็โรแมนติกดีเหมือนกันนะคะ และชั้นนี้ก็จะมีพื้นที่ชั้นลอยมาให้ทำเป็นห้องพระได้เช่นกัน

Image 1/47
VIVE-เอกมัย-รามอินทรา01-บ้านV3

VIVE-เอกมัย-รามอินทรา01-บ้านV3

ใครสนใจชมรายละเอียดบ้านหลังใหญ่ Model V3 เข้าไปชมได้ที่รายการ The Sneak ep.45 VIVE เอกมัย-รามอินทราได้เลย

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 OCTOBER 2019

  • บ้านเดี่ยว V1 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 371 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาแปลงมาตรฐาน 39 ล้านบาท

  • จอง 500,000 บาท
  • ทำสัญญา 7,300,000 บาท

  • บ้านเดี่ยว V2 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 94 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 520 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาแปลงมาตรฐาน 54 ล้านบาท

    • จอง 500,000 บาท
    • ทำสัญญา 10,300,000 บาท

  • บ้านเดี่ยว V3 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 132 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 801 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาแปลงมาตรฐาน 77 ล้านบาท

    • จอง 500,000 บาท
    • ทำสัญญา 14,900,000 บาท

  • ดาวน์ 20% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 64 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

    โครงการ  VIVE เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนา 3 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ 3 สาย เดินทางสะดวกไม่ว่าจะเป็น ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนนวมินทร์ มีทางด่วนให้เลือกใช้ 2 เส้นทางคือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัช) มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร และถนนกาญจนาภิเษก (ทางพิเศษหมายเลข 9) ในอนาคตยังมีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลบนถนนเกษตร-นวมินทร์ ถ้าหากว่ามีรถไฟฟ้าสายนี้เกิดขึ้นจริงก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการเดินทางด้วยรถสาธารณะในทำเลนี้มากขึ้นค่ะ

    ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ก็หายห่วงเนื่องจากอยู่ในทำที่มีความเจริญ และคึกคักมีห้างใหญ่อย่าง Central Festival East Ville, CDC และ Chic Republic อยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมเดินทางสะดวกและไม่ไกลจากโครงการค่ะ และใกล้เข้ามาภายในซอยก็ยังมีร้านอาหารให้เลือกซื้อได้สะดวกเช่นกัน

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

    ภายในโครงการมีทางเข้า-ออกเพียวจุดเดียวทำให้สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ง่าย ทางเข้า-ออกเป็นระบบ Easy Pass มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ติดที่ทางเข้า-ออกและภายในโครงการ ส่วนตัวบ้านจะได้ระบบรักษาความปลอภัย Magnetic Sensor ทุกบานประตูหน้าต่าง และมี Motion Detector ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ รวมถึง Heat Detector ภายในครัวช่วยแจ้งเตือนอัคคีภัยได้

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

    การออกแบบโครงการโดดเด่นด้วยความเป็นมินิมอล สีขาวล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งโครงการ มีการจัดสวนด้วยต้นไม้สีเขียวตัดกับสีขาวของอาคาร และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้คือความเป็นส่วนตัว โดยจะมีการออกแบบให้แต่ละซอยจะมีบ้านไม่เกิน 4 ยูนิต ตัวบ้านส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ทำให้แสงแดดบ่ายไม่ส่องเข้าสู่ด้านหน้าบ้านโดยตรงค่ะ

    ส่วนการออกแบบบ้านแต่ละแบบก็เน้นที่ความเป็นส่วนตัวจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นผนังทึบ เน้นช่องแสงที่มาจากด้านบน หรือบริเวณที่ไม่สามารถมองจากภายนอกได้ ภายในบ้านมีการจัดพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน มีครัวไทยเชื่อมต่อกับ Pantry และส่วน Service ส่วนห้องนอน มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมกับบางห้องจะได้มุมระเบียงส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาด้วยค่ะ ในห้อง Master Bedroom จะมีพื้นที่ชั้น 3 ทั้งชั้น แบ่งเป็นส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำ ได้ระเบียง Semi-Outdoor ส่วนตัวพร้อมกับอ่าง Jacuzzi (แบบ้าน V3 จะเป็นสระว่ายน้ำ) สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ

    วัสดุ :

    วัสดุภายในบ้านดีเหมาะสบตามมาตรฐานของระดับราคา ภายในบ้านมีการจะแต่งสวนมาให้ทั้งภายนอกและภายในบ้าน (บางส่วนเป็นต้นไม้และหญ้าเทียม เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษา) ตามแนวคิดการออกแบบที่ระบุไว้ในบ้านค่ะ โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional สามารถทุบ ต่อเติมได้ ตัวบ้านจะได้เป็น Fully Fitted พร้อม Pantry และ Built-in ครัวไทย รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ภายในครัวอย่างเตาไฟฟ้า, อ่างล้างจาน, เครื่องดูดควัน, เตาอบ, ตู้เย็น Built-in จาก Kuppersbusch และ Teka ประตูและหน้าต่างกระจกจาก Tostem  สุขภัณฑ์ทั้งหมดในห้องน้ำ จาก American Standard ซึ่งจะเป็นระบบเครื่องทำน้ำร้อน ได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติที่ชั้น 1 และห้อง Master Bathroom ที่ชั้น 3 ของบ้านจะได้อ่าง Jacuzzi หรือสระว่ายน้ำส่วนตัวมาด้วยนะ

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

    พื้นที่สีเขียวมีทั้งหมด 3 จุด เป็นสวนที่เน้นต้นไม้สีเขียวตลอดทั้งปี ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับโครงการ รวมพื้นที่ส่วนกลางประมาณ 1.2 ไร่ มีการนำสายไฟฟ้าลงดินไว้ให้ทำให้ทัศนียภาพโครงการดูเรียบร้อย และปลูกต้นไม้ใหญ่ มาให้เป็นระยะๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวตัดกับสีขาวของบ้านได้ดีค่ะ นอกจากนั้นภายในบ้านแต่ละแบบก็มีการจัดพื้นที่สีเขียวมาให้ด้วย

    สาธารณูปโภค :

    สาธารณูปโภคภายในโครงการมีอาคาร Clubhouse สูง 3 ชั้นประกอบไปด้วยพื้นที่จอดรถ, สำนักงานนิติบุคคล, Lobby, สระว่ายน้ำ ระบบเกลือขนาด 15.00 x 8.00 เมตร , ห้องน้ำ และ Fitness มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง โดยรวมเหมาะสมเพียงพอกับจำนวนยูนิตเพียง 48 ยูนิตค่ะ ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12.00 เมตร และซอยย่อยกว้าง 9.00 เมตรสามารถขับรถสวนกันได้สบายๆ


    Judgement

    VIVE เอกมัย-รามอินทรา  เป็นโครงการระดับ Super Luxury ที่มีราคาขายระดับ 39 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการ

    BOTTOM LINE

    VIVE เอกมัย-รามอินทรา เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ สามารถอยู่ร่วมกันได้ถึง 3 Generation ชอบบ้านที่มีดีไซน์ สไตล์โมเดิร์นที่แตกต่างจากบ้าน Super Luxury ทั่วไป โดดเด่นด้วยโทนสีขาวสะอาดตา มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ จัดพื้นที่การใช้งานได้ลงตัว และมีมีส่วนตัวหลายจุด มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ภายในบ้าน เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากขึ้น บนทำเลใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ในราคา 39-77 ล้านบาท


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving