รีวิวฉบับที่ 2074 …วันนี้พามาชมทาวน์โฮมที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้างถึง 8.3 เมตรกับโครงการ ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม ตั้งอยู่บนถนนใหญ่สาย 307 กรุงเทพ-ปทุมธานี ตัวบ้านมี 2 แบบให้เลือก คือแบบหน้ากว้างพิเศษ 8.3 เมตร พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม. และแบบหน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ออกแบบให้บ้านดูโปร่งด้วยฝ้าเพดานชั้นบนสูง 3 เมตร ในช่วงราคาเริ่มต้น 2.3 – 3.5 ล้านบาท ไปชมกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Chewa Home Krungthep-Pathum (ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม) ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2563

 ชื่อโครงการ   Chewa Home Krungthep-Pathum (ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท ชีวาทัย จำกัด(มหาชน)
 SEGMENT CLASS   ECONOMY-MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้าน )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี อำเภอเมืองปทุมธานี
 ที่ดิน   32-1-19.1 ไร่
 จำนวนยูนิต    จำนวน 333 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • New Jersey : ทาวน์โฮม 2 ชั้นหน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
  • Charleston : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.3 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 25.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท

 ช่วงราคาของโครงการ   2.3 – 3.5 ล้านบาท
 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้น 1 – 2.7 เมตร / ชั้น 2 – 3 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      N/A บาท
 เริ่มก่อสร้าง   พฤษภาคม ปี 2562
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  N/A (เฟส 1 เสร็จเดือน กุมภาพันธ์ ปี 63)
 เว็บไซต์โครงการ   www.chewathai.com/th/59/register/ชีวาโฮม-กรุงเทพ–ปทุม/
 โทร   1260
 Call Center   1260

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.989714, 100.516526
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม ค่ะ

ที่ตั้งของโครงการชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม อยู่ใกล้ถนนใหญ่สาย 307 กรุงเทพ-ปทุมธานี ในระยะ 50 เมตร ทำให้การเดินทางสะดวก หากจะเข้าตัวเมืองปทุมธานี บริเวณแยกสันติสุข ก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที และถนนสายนี้ยังยาวไปเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายสาย เช่น ถนนศรีสมาน, ถนนติวานนท์ หรือหากจะเข้าเมืองฝั่งรังสิตก็ใช้ถนนสาย 345  ซึ่งจะเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายสายอีกเช่นกัน ได้แก่ ถนนราชพฤกษ์, วงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นต้น

สำหรับรถประจำทางมีวิ่งผ่านหน้าโครงการเพียงไม่กี่สายเท่านั้น เช่น สาย 33 สนามหลวง-ปทุมธานีวิ่งผ่านถนน 307 กรุงเทพฯ-ปทุมธานี แต่ด้วยที่ตั้งที่ติดถนนใหญ่ก็ทำให้สามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ไม่ยาก แต่การเดินทางที่เหมาะกับการอยู่อาศัยในย่านนี้มากที่สุดก็คือรถยนต์ส่วนตัวค่ะ

สภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียงยังคงเป็นพื้นที่เกษตรและชุมชนเดิม จึงยังไม่มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินนะคะ แต่ถ้าขับรถออกไปหน่อยบนถนนเส้น 307 นี้มีความอุดมสมบูรณ์ให้เลือกเพียบเลย เพราะศูนย์การค้าใหญ่ในย่านนี้ก็จะตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้กันเป็นหลัก เช่น Big C Super Center, Tesco Lotus, The Tree Avenue หรือขยับออกไปหน่อยก็จะมี Robinson บนถนนศรีสมาน ก็ใช้เวลาเดินทางจากโครงการประมาณ 10 นาทีค่ะ

หากมองหาร้านค้าร้านอาหารราคาย่อมเยาก็จะมีรวมตัวกันอยู่แถวหน้าปากซอยวัดไพร่ฟ้า แถวนั้นจะมีโลตัส มีร้านขายอาหารแบบรถเข็น, ร้านขายวัสดุก่อสร้าง, ร้านถ่ายรูปติดบัตร, ร้านขายยา, 7-11 ในลักษณะที่เป็นชุมชนดั้งเดิมค่ะ

แผนที่การเดินทางในวันนี้เราใช้เส้นทางด่วนอุดรรัถยา สายบางปะอิน-ปากเกร็ด แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีสมาน ข้ามสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง เมื่อถึงแยกบางคูวัดให้เลี้ยวขวามาทางถนนสาย 307 กรุงเทพฯ-ปทุมธานี ผ่านซอยวัดไพร่ฟ้าไป และกลับรถใต้สะพานข้ามคลองโพธิ์ใต้ เมื่อกลับรถเสร็จแล้วขับมาไม่ไกลก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ รวมระยะทางจากทางด่วนถึงโครงการประมาณ 11 km.

Image 1/12
วันนี้เราเริ่มเดินทางมาจากในเมืองขึ้นทางด่วนอุดรรัถยา สายบางปะอิน-ปากเกร็ด มาลงตรงทางออกถนนศรีสมาน ซึ่งเป็นทางลงที่ใกล้โครงการชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม ที่สุดแล้วนะคะ

วันนี้เราเริ่มเดินทางมาจากในเมืองขึ้นทางด่วนอุดรรัถยา สายบางปะอิน-ปากเกร็ด มาลงตรงทางออกถนนศรีสมาน ซึ่งเป็นทางลงที่ใกล้โครงการชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม ที่สุดแล้วนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินว่างเปล่า ดังนั้นก็จะได้เรื่องความสงบตามลักษณะทั่วไปของทำเลโครงการแนวราบ และโครงการจะขยับเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 50 เมตร จึงหมดปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากริมถนนใหญ่ แต่ก็จะเรียกรถสาธารณะยากขึ้นมาหน่อย ส่วนพื้นที่ท้ายโครงการจะอยู่ติดริมคลอง ซึ่งข้อดีของที่ดินที่ติดริมคลองเลยคือเรื่องของบรรยากาศ ที่จะได้ลมพัดความชุ่มชื้นเข้าสู่โครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • The Tree Avenue ~ 3 km.
  • Big C Super Center ปทุมธานี ~ 3 km.
  • Tesco Lotus ปทุมธานี ~ 5.3 km.
  • Makro ปทุมธานี ~ 5.8 km.
  • Robinson ศรีสมาน ~ 8.6 km.
  • มิ้นท์ วิลเลจ ติวานนท์ ~ 11 km.
  • Impact Arena เมืองทองธานี ~ 11 km.
  • ตลาดพูนทรัพย์ ~ 11.4 km.

สถานศึกษา

  • รร. สาธิตปทุมธานี ~ 3.7 km.
  • รร. ปทุมวิไล ~ 5.8 km.
  • รร. หอวัง นนทบุรี ~ 10.5 km.
  • รร. พระหฤทัย ปทุมธานี ~ 11.2 km.
  • มหาวิทยาลัย ปทุมธานี ~ 11.4 km.

สถานพยาบาล

  • รพ. ปทุมธานี ~ 5 km.
  • รพ. กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ~ 10.5 km.

รายละเอียดโครงการ

มาดูที่ตัวโครงการ ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น 333 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 32-1-19.1 ไร่ ปัจจุบันเริ่มทยอยสร้างอยู่เรื่อยๆ และมีในส่วนของเฟส 1 ที่สร้างเสร็จพร้อมให้เข้าอยู่กันแล้ว

ที่ดินของตัวโครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีระยะจากทางเข้าหน้าโครงการถึงท้ายโครงการประมาณ 400 เมตร วางตำแหน่งของ Clubhouse ไว้ช่วงกลางโครงการ ทำให้ทุกแปลงบ้านสามารถมาใช้ส่วนกลางได้ในระยะพอๆ กัน

ถนนหลักของโครงการกว้าง 9 – 12 เมตร ถูกวางไว้ตรงกลาง จัดแบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นทาวน์โฮมแบบ Charleston อีกฝั่งหนึ่งเป็นแบบ New Jersey บ้านทั้งหมดในโครงการจะวางตัวหันหน้าบ้านเข้าถนนซอยที่กว้าง 8 เมตร ซึ่งแต่ละซอยจะเป็นซอยตัน ข้อดีของการวางผังแบบนี้คือ บ้านแต่ละหลังได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าการทำถนนให้วนถึงกันได้ แต่ข้อที่ต้องระวังของผังแบบนี้คือ หากทุกบ้านมีการจอดรถหน้าบ้านกันหมด บ้านหลังในสุดของซอยก็จะเข้าออกยากหน่อยค่ะ

การเลือกตำแหน่งของบ้านก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนะคะ สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการ

สำหรับทิศของบ้านในโครงการส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งบ้านที่หันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะได้แสงที่แรงกว่าและลมที่แรงกว่าด้วย แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ

เริ่มจากบริเวณซุ้มประตูหน้าทางเข้าโครงการดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม สังเกตดีไซน์ผนังด้านหลังป้ายชื่อเป็นลายเส้นทรงเรขาคณิต ทางโครงการเรียกว่าเป็นสไตล์ในการตกแต่งแบบ Art Deco ซึ่งเราจะเห็นรูปทรงเรขาคณิตนี้เป็น Theme หลัก ในการตกแต่งทั้งตัวบ้านและพื้นที่ส่วนกลางนะคะ

ซุ้มประตูหลักของโครงการจะวางป้อมรปภ.ไว้ตรงกลาง เพื่อแยกฝั่งรถเข้า – ออกให้ชัดเจน

ซุ้มโครงการจะมีหลังคาคลุมไว้ให้หลบฝนหลบแดดได้ เผื่อในวันที่ฝนตกแล้วแขกของลูกบ้านต้องมาแลกบัตร ก็จะได้ไม่เปียก หรือวันที่แดดร้อนก็ให้มีพื้นที่ร่มๆ ให้หลบแดดได้นิดหน่อย

ทางเข้าโครงการจะรักษาความปลอดภัยด้วยประตูแบบเลื่อนไฟฟ้า เราว่าปลอดภัยกว่าโครงการส่วนใหญ่ที่มักจะกั้นด้วยไม้กระดกอย่างเดียว ทำให้คนแปลกหน้าสามารถเดินผ่านเข้ามาได้

โครงการเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass เหมือนกับที่ใช้บนทางด่วนนะคะ สำหรับแขกของลูกบ้านต้องติดต่อแลกบัตรกับพี่ รปภ. และด้านข้างป้อมมีกล้อง CCTV ส่องคนขับในระยะใกล้ ช่วยเสริมความปลอดภัยให้อีกขั้นนึงค่ะ

ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาก็จะเป็นถนนหลักของโครงการที่กว้าง 12 เมตร ตรงเกาะกลางจะปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ตลอดแนว หากเวลาผ่านไปสักพักจนต้นไม้แผ่กิ่งก้านก็คงจะช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่นขึ้นได้

ถนนหลักนี้จะแบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งซ้ายจะเป็นแบบบ้าน Charleston ทั้งหมด ส่วนฝั่งขวาจะเป็นแบบบ้าน New Jersey ค่ะ

บรรยากาศในแต่ละซอยก็จะประมาณนี้ ถนนซอยกว้าง 8 เมตร ตัวบ้านหันหน้าเข้าหากัน 2 ฝั่ง หากมีการจอดรถที่หน้าบ้านทั้ง 2 ฝั่ง บ้านด้านในก็จะเข้าออกลำบากหน่อย แต่ยังขับรถผ่านไปมาได้ค่ะ

ตอนนี้บ้านตัวอย่างสร้างเสร็จให้ชมได้แล้วทั้ง 2 แบบ ตั้งอยู่บนซอยแรกของโครงการ ซึ่งซอยแรกทางฝั่งขวานี้มีข้อดีตรงที่มีบ้านฝั่งเดียว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการขับรถผ่านเข้าออกซอยเลย เพราะถึงจะมีรถจอดอยู่ก็ยังผ่านได้สบาย แถมได้วิวของต้นไม้ฝั่งตรงข้ามบ้านด้วยค่ะ อ้อ! ฝั่งนี้เป็นทาวน์โฮมแบบ New Jersey นะคะ

อีกฝั่งที่เป็นทาวน์โฮมแบบ Charleston ฝั่งนี้จะมีบ้านทั้ง 2 ฝั่งถนนเหมือนซอยปกติค่ะ สำหรับ Facilities ส่วนกลางจะอยู่ช่วงกลางๆ ของโครงการ ซึ่งปัจจุบันยังก่อสร้างไม่เสร็จนะคะ เราจึงเอารูปบรรยากาศมาฝากกันก่อน

บรรยากาศบริเวณ Clubhouse ก็จะมีครบทั้งสระว่ายน้ำของผู้ใหญ่และแยกสระเด็กไว้ให้เรียบร้อย

ส่วนห้อง Fitness จะอยู่ด้านบนของอาคาร

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 4.25 x 12.25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 4.25 x 2.30 เมตร ลึก 0.6 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย ที่ชั้น 2 ของ Clubhouse
  • Outdoor Fitness
  • สวนสาธารณะภายในโครงการ
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 32 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 9 – 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
  • Key Card Access ระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า

แบบบ้าน

โครงการ ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม เป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น สร้างด้วยระบบ Precast โดยเอาแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปมาประกอบกันเป็นตัวบ้าน แบ่งเป็น 2 แบบดังนี้ค่ะ

  • New Jersey : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
  • Charleston : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.3 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 25.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

วันนี้จะพาไปชมบ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบเทียบกับบ้านเปล่าด้วยนะคะ จะได้เห็นว่าบ้านจริงที่ลูกบ้านจะได้นั้นเป็นแบบไหนค่ะ

เริ่มกันที่แบบ New Jersey : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

ชั้นล่าง – เริ่มตั้งแต่หน้าตัวบ้านที่กว้าง 5.7 เมตร ซึ่งปกติหน้ากว้างขนาดนี้ Developer มักจะทำเป็นที่จอดรถ 2 คันกันนะคะ แต่สำหรับโครงการนี้ ทำเป็นที่จอดรถคันเดียว ทำให้มีพื้นที่บริเวณหน้าบ้านอีกฝั่งให้จัดสวนเล็กๆ วางกระถางต้นไม้ และตากผ้าได้ แถมยังได้พื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านในส่วนของห้องรับแขกเพิ่มขึ้นด้วย ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งพื้นที่ทั้ง 2 ส่วนนี้จะเปิดโล่งเชื่อมถึงกันและได้แสงธรรมชาติจากประตูกระจกด้านหน้าและหน้าต่างด้านหลังบ้าน ทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ดีด้วย

ด้านข้างของพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นตำแหน่งของพื้นที่อเนกประสงค์ ที่สามารถทำเป็น Pantry ครัวในบ้านได้ หรือ ถ้าอยากทำครัวจริงจังก็ต่อเติมด้านหลังบ้านจะเหมาะกว่า หลายครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหากกั้นพื้นที่อเนกประสงค์เป็นห้องนอน จะทำให้ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ด้านในห้องนอนแทนนะ แขกไปใครมาจะเข้าห้องน้ำต้องเดินผ่านห้องผู้สูงอายุก็อาจจะไม่เหมาะ ภายในห้องน้ำได้ฟังก์ชันมาครบ แต่ไม่ได้แบ่งพื้นที่โซนเปียกแห้งไว้ให้ค่ะ

ชั้นบน – มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยทุกห้องจะต้องใช้ห้องน้ำส่วนกลางร่วมกัน ซึ่งห้องน้ำนี้ก็ได้ขนาดมากว้างพอสมควร ทำให้สามารถใช้งานได้ลงตัวอยู่ค่ะ

การตกแต่งบ้านภายนอกออกมาในสไตล์ Art Deco เพื่อให้บ้านดูหรูหราจึงมีการออกแบบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การใช้ลายเส้นทรงเรขาคณิตเหนือระเบียงชั้น 2, มีการออกแบบซุ้มโค้งเหนือหน้าต่างและใช้ดีเทลลูกฟักที่กรอบหน้าต่าง รวมถึงการใช้สีขาว-เทา ในการตกแต่งบ้านทำให้ดูหรูหราขึ้นด้วยค่ะ

รั้วบ้านเป็นรั้วเหล็กโปร่งแบบบานพับ เปิดได้เต็มความกว้างของหน้าบ้าน ทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้าบ้านได้แต่ก็สามารถมองผ่านเข้าไปด้านในได้เช่นกัน

บริเวณรั้วหน้าบ้านจะติดกล่องจดหมาย และติดไฟไว้ให้ทุกหลัง

พื้นบริเวณหน้าบ้านจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ ซึ่งเราลองวัดขนาดที่จอดรถของบ้านตัวอย่างแล้ว สามารถจอดรถกระบะได้สบายๆ แต่มีหลังคาคลุมแค่ครึ่งเดียวนะคะ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นตำแหน่งที่เห็นว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ต่อเติมหลังคาออกมากันมากที่สุด

พื้นที่หน้าบ้านอีกฝั่งจะเป็นทางเข้าบ้าน มีการยกระดับทางขึ้นเป็นเฉลียงเล็กๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ข้อดีของการยกระดับพื้นบ้านให้สูงขึ้นจากพื้นที่จอดรถ เพื่อช่วยกันไม่ให้ฝุ่นจากพื้นที่จอดรถปลิวเข้าบ้านได้ง่ายๆ

ประตูบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่เต็มผนัง ถึงแม้จะเปิดได้ฝั่งเดียวแต่ก็มีพื้นที่ให้เดินผ่านเข้าออกได้กว้างแบบคนตัวใหญ่เดินผ่านได้สบาย มือจับประตูขนาดใหญ่เปิดง่ายและมีการติดเส้นกำมะหยี่มาช่วยกันเสียงและฝุ่น เราลองปิดประตูดูก็ไม่มีเสียงจากนอกบ้านมารบกวน

ส่วนกระจกจะได้แบบตัดแสง จึงช่วยลดความจ้าของแสงที่ผ่านเข้ามาและยังช่วยลดความร้อนด้วยค่ะ

เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่รับแขกก่อนเลย สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไฟจะได้เป็นดาวน์ไลท์ตามแบบรูปล่าง พื้นแกรนิตโต้ ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานของชั้นนี้จะสูงถึง 2.7 เมตร นะคะ

มองย้อนกลับไปทางด้านหน้าบ้านในห้องรับแขก สามารถวางชุดโซฟาแบบ 3 – 4 ที่นั่ง และโต๊ะกลางเล็กๆ ได้โดยไม่ขวางทางเดิน พื้นที่ในห้องนั่งเล่นนี้จะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างมากจากประตูกระจกด้านหน้าบ้าน ทำให้ดูโปร่ง

ส่วนระยะดูทีวีค่อนข้างกว้างประมาณ 2.9 เมตร จึงสามารถติดทีวีที่ใหญ่เกินกว่า 60 นิ้วก็ยังได้ค่ะ

เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยชั้นล่างค่อนข้างกว้าง จึงมีพื้นที่ระหว่างห้องรับแขกและพื้นที่ทานอาหารอยู่นิดหน่อย ให้สามารถตกแต่งผนังเป็นชั้นวางของ หรือปล่อยโล่งให้เป็นพื้นที่วิ่งเล่นของเด็กๆ ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวเลยนะคะ

ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังบ้าน แต่หากมีการต่อเติมหลังคาด้านหลังบ้าน ก็ลองเลือกเป็นหลังคาโปร่งแสงจะช่วยให้บริเวณพื้นที่ทานอาหารโปร่งขึ้นค่ะ

พื้นที่บริเวณนี้สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้แบบไม่อึดอัด

ประตูบานเลื่อนที่จะเปิดออกไปด้านหลังบ้าน เป็นประตูกระจกบานใหญ่แบบเดียวกับหน้าบ้านเลย

ลานซักล้างด้านหลังบ้านจะลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่าตัวบ้านไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งดีกับงานต่อเติมหลังบ้าน มากๆ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าพื้นหลังบ้านจะทรุดจนแยกกับตัวบ้าน หรือจะมาดึงผนังหลังบ้านทำให้บ้านร้าว

พื้นที่ส่วนนี้จะก่อกำแพงที่ความสูง 2.5 ม. ไว้ให้ จึงง่ายในการต่อเติมหลังคา

หลังคาของบ้านตัวอย่างที่ต่อเติมเรียบร้อยก็จะมีหน้าตาแบบนี้ สังเกตว่าควรมีรางน้ำฝนเพื่อไม่ให้น้ำจากปลายหลังคากระเด็นไปรบกวนบ้านข้างเคียงนะคะ

พื้นที่ด้านหลังบ้านของบ้านตัวอย่างจัดเป็นครัวให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่งบ้าน ก็จะได้ครัวใหญ่พอสมควรเลย จะต้มผัดแกงทอดก็สะดวก แต่พื้นที่ครัวนี้ไม่ได้มีหน้าต่าง จะมีเฉพาะประตูที่เปิดรับแสงจากภายนอกเข้ามา ก็คงจะต้องเปิดประตูเพื่อระบายอากาศกันหน่อย แนะนำว่าควรติดเครื่องดูดควัน และทำหลังคาให้มีพัดลมระบายอากาศได้นะคะ

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของหลังบ้านจะใช้วางตู้เย็นเครื่องใหญ่ได้เลย และยังเหลือพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าเก็บของใช้อื่นๆ ในบ้านได้อีกด้วย

กลับเข้ามาในบ้านตรงที่พื้นที่อเนกประสงค์จะอยู่ติดกับห้องน้ำเลย ซึ่งหากกั้นพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องผู้สูงอายุก็จะได้ห้องนอนชั้นล่างที่มีห้องน้ำในตัว แต่เราว่ายังไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะถ้าใครจะเข้าห้องน้ำชั้นล่างต้องเดินผ่านห้องนอนผู้สูงอายุเข้าไปนะ

พื้นที่ตรงนี้จึงเหมาะกับการเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ให้ลูกๆ มานั่งเล่น หรือเป็น Pantry ครัวเล็กๆ มากกว่า

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ ติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ครบถ้วน

พื้นห้องน้ำจะถูกลดระดับลงไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปพื้นที่ส่วนอื่นของบ้านได้

อ่างล้างมือขนาดกะทัดรัดจาก American Standard ด้านข้างก๊อกน้ำมีพื้นที่ให้วางของใช้ในห้องน้ำได้อีกเล็กน้อย ติดตั้งมาให้พร้อมกระจกและราวแขวนผ้า สังเกตอย่างนึงว่าโครงการเก็บขอบเสาด้วยฉากแสตนเลส เพื่อป้องกันไม่ให้กระเบื้องตามขอบเสาบิ่นแตก ถือว่าใส่ใจรายละเอียดดีนะคะ

ด้านในเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เรียบร้อย

โถสุขภัณฑ์ได้แบบ 2 ชิ้นจาก American Standard มาพร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดน้ำค่ะ

ฝักบัวที่ให้มาของ American Standard จับได้ถนัดมือดี

แม้ว่าห้องน้ำนี้จะใช้อาบน้ำได้แต่ไม่ได้แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกแห้งมาให้ อาจเป็นเพราะว่าพื้นที่ภายในห้องน้ำไม่ได้ใหญ่มาก จึงไม่ได้มีการทำขอบปูนหรือการลดระดับเพื่อแยกโซนพื้นที่อาบน้ำ ใช้การทำพื้น Slope หรือพื้นลาดเอียงไปที่ท่อระบายน้ำแทน เวลาใช้งานจริงอาจจะเปียกไปทั่วห้องได้ สำหรับห้องนี้แนะนำให้ติดม่านกั้นอาบน้ำเพิ่มก็จะช่วยได้ค่ะ

ตามปกติห้องน้ำในทาวน์โฮมมักจะไม่ได้มีหน้าต่าง ภายในห้องน้ำจึงติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยนะคะ

ต่อไปจะพาขึ้นไปชมชั้น 2 กันต่อ ตำแหน่งของบันไดจะอยู่กลางบ้าน ทำให้ใช้งานได้สะดวกดี

ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งดีกว่าบันไดโครงเหล็กที่ทาวน์โฮมหลายๆ ที่มักจะนิยมใช้กัน เวลาเดินบนบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กจะรู้สึกว่าพื้นแน่นๆ ไม่มีเสียงก๊องๆ หรือความรู้สึกว่าพื้นกลวงๆ ค่ะ

ปิดผิวบันไดด้วยไม้ยางประสาน ตลอดทางขึ้นบันไดจะมีมือจับให้ฝั่งหนึ่ง แม้ว่ามือจับจะไม่ได้เชื่อมต่อกันทั้งหมดแต่ก็ดีที่ให้มาตลอดทางค่ะ

ลักษณะบันไดเป็นบันไดเป็นรูปตัว U และเนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูงถึง 2.7 เมตร ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่มจะไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

ส่วนที่เป็น Highlight อีกอย่างนึงที่ชอบคือ ช่องแสงบนฝ้าเพดาน ช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวันได้ คือเราลองปิดไฟดูก็ยังสว่าง

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าถ้าช่องแสงนี้เป็นหลังคาแล้วจะทำความสะอาดอย่างไร? เราก็สงสัยเช่นกันจึงสอบถามกับทางโครงการ เค้าอธิบายว่าช่องแสงนี้ไม่ใช่หลังคาค่ะ จะมีหลังคาซ้อนอยู่ด้านบนอีกทีชั้นนึง เพื่อกันแดดกันฝน จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการทำความสะอาดค่ะ

ขึ้นมาด้านบนจะเป็นทางเดินเชื่อมห้องต่างๆ คือ ห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำ ซึ่งฝ้าเพดานบนชั้นนี้จะสูงขึ้นเป็น 3 เมตรนะคะ

ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดห้องเหมาะสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นที่ไม่ได้มีของใช้มากมายนัก  คือมีพื้นที่เพียงพอให้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ ถือว่าครบถ้วน

ห้องจริงที่ได้จะเป็นห้องเปล่าเราสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ตามใจเราได้เลย

ภายในห้องมีหน้าต่างบาน Fix ผสมบานเลื่อน ทำให้เปิดระบายอากาศได้และทำให้แสงธรรมชาติสามารถเข้ามาภายในห้องได้มาก ทำให้ห้องดูอบอุ่น น่าอยู่ทีเดียว

พอวางเตียงเดี่ยวชิดผนังฝั่งหนึ่งไปแล้ว จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางตู้เสื้อผ้าได้

ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือได้ค่ะ

ภายในห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งมีพื้นที่พอๆ กับห้องแรกเลย และมีหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้เหมือนกัน

ถ้าวางเตียง 3.5 ฟุต ไว้ติดหน้าต่างก็จะมีพื้นที่ข้างเตียงและปลายเตียงที่ใช้วางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้ครบ เช่น ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเขียนหนังสือและตู้เก็บของค่ะ

ในส่วนของห้องน้ำชั้นบนต้องแชร์กันใช้กับห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ภายในจัดฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ครบเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง จะต่างกันตรงที่มีขนาดใหญ่กว่า

พื้นที่อาบน้ำดูเป็นสัดส่วนขึ้น แต่ก็ยังเป็นพื้นระดับเดียวกับส่วนอื่นๆ ไม่ได้ทำขอบปูนกั้นหรือมีการลดระดับ ซึ่งพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.85 x 0.7 เมตร เราสามารถติดเป็นฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้ลงตัวกว่าห้องน้ำชั้นล่าง เพราะพื้นที่กว้างกว่า ก็จะกันน้ำกระเด็นได้ดีกว่าแบบม่านค่ะ

วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้ในห้องน้ำก็จะมีสเปคเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง ยกเว้นสุขภัณฑ์ที่ข้างบนจะได้ขนาดใหญ่ขึ้น ของยี่ห้อ American Standard เช่นกันค่ะ

ปิดท้ายบ้านหลังแรกด้วยห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านทั้งหมด ภายในจะได้เป็นห้องเปล่าแบบรูปล่าง ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ตำแหน่งของเตียงจะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ให้สามารถนอนชมวิวได้จากบนเตียง ซึ่งหน้าต่างจะมีการตีลูกฟักตามสไตล์หน้าต่างแบบ Art Deco จึงดูมีรายละเอียดในการตกแต่ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนะคะ

สำหรับพื้นที่ปลายเตียงสามารถทำชั้นวางทีวีได้ตามห้องตัวอย่าง หรือจะ Built-in เป็นผนังกั้นพื้นที่เตียงนอนกับ Walk-in Closet ก็จะดูเป็นสัดส่วนขึ้น

พื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ก็สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มฝั่งหนึ่งของผนัง และเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งได้

ด้านในสุดของห้องมีระเบียง ซึ่งจะส่องเข้ามาบริเวณ Walk-in Closet พอดี จึงได้แสงธรรมชาติมาใช้ในการแต่งหน้าได้

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.6 x 0.6 เมตร เป็นพื้นที่ให้พอออกมายืนรับลม เปลี่ยนบรรยากาศได้นิดหน่อย ซึ่งขอบธรณีจะสูงขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อกันไม่ให้น้ำฝนสาดเข้าห้องค่ะ

แบบต่อไปคือแบบ Charleston เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มีขนาดใหญ่กว่าหลังแรกเล็กน้อย โดยมีที่ดินมาตรฐาน 25.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม. หน้ากว้าง 8.3 เมตร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

สังเกตจากแปลนจะเห็นว่าแบบจะคล้ายๆ บ้านหลังแรกเลยใช่มั้ยคะ? เพราะบ้าน Type นี้จะนำแบบบ้านแรกมาต่อเติมเพิ่มห้องนอนเข้าไปที่ชั้นล่างอีก 1 ห้อง และเพิ่มพื้นที่จอดรถเข้าไปทำให้จอดได้ 2 คัน ทำให้หน้ากว้างเพิ่มขึ้นเป็น 8.3 เมตร รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุก็จะมีห้องนอนขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง แลกมากับราคาที่ต่างกันราวๆ 1 ล้านบาท

สำหรับฟังก์ชันอื่นๆ จะเหมือนกับบ้านหลังแรกคือ ในชั้นล่างจะมีห้องรับแขก ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ ด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ให้เราสามารถต่อเติมเป็นครัว หรือพื้นที่ซักล้างได้ ส่วนชั้นบนจะมีห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้องที่ต้องใช้แชร์ร่วมกันนะคะ

รูปลักษณ์ภายนอกบ้านมีการใช้โทนสีที่แตกต่างจากบ้านหลังแรกเล็กน้อยคือ ตรงลายเรขาคณิตจะใช้เป็นสีครีมแทน ก็ทำให้ตัวบ้านดูขาวสะอาดตา

อย่างที่บอกไปว่าบ้าน Type นี้ จะมีพื้นที่ใช้สอยที่ชั้นล่างเพิ่มขึ้นคือส่วนที่เราเห็นเป็นอาคารชั้นเดียวนั่นเองค่ะ

รั้วบ้านของ Type นี้จะมีความยาวเพิ่มขึ้น สามารถจอดรถได้ 2 คัน สบายๆ และมีพื้นที่หน้าบ้านไว้ให้ปลูกต้นไม้เล็กๆ น้อย และตากผ้าได้ค่ะ

ช่องจอดรถจะมีขนาดพอๆ กับบ้านหลังแรกและมีหลังตาคลุมแค่บางส่วน จึงเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านมักต่อเติมหลังคากันมากที่สุดนะคะ

เข้ามาด้านในพื้นที่รับแขกจะได้แสงธรรมชาติจากประตูกระจกบานใหญ่ มีพื้นที่ให้วางโซฟา 3-4 ที่นั่งได้ ทั้งวัสดุและขนาดจะเหมือนแบบบ้านหลังแรกเลยนะคะ

ถัดจากพื้นที่รับแขกเข้ามาด้านใน จะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร

สามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 4 นั่งได้ ด้านในสุดมีประตูบานเลื่อนออกไปยังส่วนซักล้างด้านหลังบ้าน

ลานซักล้างหลังบ้านจะลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่าเสาเข็มของตัวบ้านไว้ให้ เป็นพื้นคอนกรีตขัดเรียบและทางโครงการจะก่อกำแพงสูง 2.5 ม. ไว้ให้ ทำให้ง่ายในการต่อเติมนะคะ

พื้นที่ในครัวจะมีความยาวมากขึ้นตามความยาวของหน้าบ้านเช่นกัน ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น สามารถแบ่งเป็นโซนทำอาหารและโซนซักล้างได้ แต่ข้อจำกัดของการทำครัวด้านหลังบ้านแบบทาวน์โฮมคือไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ แนะนำให้ติดเครื่องดูดอากาศ หรือทำหลังคาแบบเปิดได้ ใช้หลังคาแบบใสในบางช่วงก็ช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้นได้ค่ะ

กลับเข้ามาภายในบ้านในส่วนที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ พื้นที่ส่วนนี้จะต่างจากบ้านหลังแรกตรงที่ด้านในสุดจะเป็นประตูเข้าห้องนอนชั้นล่าง การใช้งานพื้นที่บริเวณนี้จึงต้องเผื่อให้สามารถเดินผ่านเข้า-ออกได้ด้วย จะทำเป็น Pantry ครัวเหมือนบ้านตัวอย่างก็ดูลงตัวดี หรือทำเป็นมุมทำการบ้านของเด็กๆ ก็ได้ค่ะ

สำหรับห้องน้ำชั้นล่างมีฟังก์ชันการใช้งานมาให้ครบทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องน้ำก็จะได้มาเหมือนกับบ้านหลังแรกนะคะ

พื้นที่อาบน้ำของบ้าน Type นี้ จะมีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ก็ยังคงเป็นพื้นที่เดียวกับส่วนแห้ง ไม่ได้มีขอบปูนหรือมีการลดระดับพื้นที่อาบน้ำ ถ้าเราใช้ห้องน้ำนี้อาบน้ำบ่อยๆ ก็สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้อยู่นะคะ ก็จะกันน้ำกระเด็นได้ดีกว่าแบบที่ติดม่านกั้น

สำหรับห้องนอนในชั้นล่างที่เพิ่มขึ้นมามีขนาด 2.45 x 4.55 เมตร มีพื้นที่กว้างพอสมควรให้สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้

ภายในห้องมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศ และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการห้องนอนชั้นล่างไว้ให้ผู้สูงอายุนะคะ

ต่อไปจะพาขึ้นไปชมชั้น 2 กันต่อ บันไดจะอยู่ตรงกลางบ้านและมีช่องหน้าต่างเล็กๆ ทำให้บริเวณบันไดสว่างอยู่นะคะ

ขึ้นมาด้านบนก็ยังคงมีช่องแสงที่เป็น Gimmick ของโครงการ

ห้องนอนใหญ่ของบ้าน Type นี้ จะเป็นตำแหน่งที่อยู่ด้านหน้าบ้านเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก พื้นที่ภายในห้องกว้างพอให้ทำ Walk-in Closet ได้ ช่วยให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ภายในห้องได้หน้าต่างบานใหญ่อยู่ข้างเตียงนอน ซึ่งมีการตีตารางลูกฟักเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก แต่จะใช้เป็นอลูมิเนียมอบสีขาวแทนค่ะ

พื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งของห้องสามารถทำเป็น Walk-in Closet

ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะติดกับระเบียงทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามายังโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งสำคัญกับคุณผู้หญิงเวลาแต่งหน้านะคะ ><

สำหรับห้องนอนเล็กจะมีขนาดเท่าๆ กับบ้านหลังแรก ภายในมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้

พื้นที่ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือได้ครบถ้วน

ห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งก็มีขนาดพอๆ กับห้องที่แล้วค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กวัยรุ่นหรือเด็กเล็ก ที่ของใช้ยังไม่เยอะได้เพียงพอเช่นเดียวกัน

สุดท้ายคือห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 โดยรวมก็จะมีฟังก์ชันการใช้งานครบแต่ไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้ วัสดุและสเปคของสุขภัณฑ์ต่างๆ จะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างนะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

14 May 2020

  • แบบ New Jersey : ทาวน์โฮม 2 ชั้นหน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคา 2.79 ล้านบาท (แปลง D08)
  • แบบ Charleston : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.3 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 25.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 3.85 ล้านบาท (แปลง A14)
  • จองและทำสัญญา 15,000 – 30,000 บาท
  • ดาวน์ 12,000 บาท ผ่อนดาวน์ 2 งวด
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่หมายเลข 307 กรุงเทพฯ-ปทุมธานี ซึ่งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านนี้ก็จะตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้เช่นเดียวกัน ได้แก่ Big C Super Center, Tesco Lotus, The Tree Avenue เป็นต้น การเดินทางโดยรถยนต์ถือได้ว่าเป็นการเดินทางหลักของผู้พักอาศัยในย่านนี้เนื่องจากมีรถประจำทางวิ่งผ่านหน้าโครงการเพียงไม่กี่สายเท่านั้น เช่น สาย 33 สนามหลวง-ปทุมธานีวิ่งผ่านถนน 307 กรุงเทพฯ-ปทุมธานี แต่ด้วยที่ตั้งที่ใกล้ถนนใหญ่ก็ทำให้สามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ไม่ยากค่ะ

จากโครงการสามารถใช้ถนนหลัก 307 วิ่งเข้าตัวเมืองปทุมธานี ซึ่งเป็นแหล่งความเจริญและมีสถานที่ราชการหลายแห่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที และถนนสายนี้ยังยาวไปเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายสาย เช่น ถนนศรีสมาน, ถนนติวานนท์ หรือหากจะเข้าเมืองฝั่งรังสิตก็ใช้ถนนสาย 345  ซึ่งจะเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย เช่น ถนนราชพฤกษ์, วงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นต้น

สำหรับบริเวณโดยรอบโครงการเป็นย่านพักอาศัยและพื้นที่เกษตรกรรม ในลักษณะของชุมชนชานเมือง ไม่ได้มีโรงงานหรืออาคารที่จะส่งผลต่อการอยู่อาศัยในโครงการ ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการยังไม่เห็นร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆ ในระยะเดินนะคะ แต่ก็มีย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ไม่ไกลคือบริเวณชุมชนวัดไพร่ฟ้าที่มีทั้งร้านค้า ธนาคารและคลินิคต่าง ๆ รวมถึงร้านสะดวกซื้อเอาไว้สำหรับซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าบ้าน แต่หากต้องการเดินห้างฯ ก็มีตัวเลือกให้เยอะอยู่นะคะ ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งที่วิ่งเข้าตัวเมืองปทุมธานี หรือฝั่งที่วิ่งเข้านนทบุรีค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมี รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีประตูแบบเลื่อนไฟฟ้าที่ Main Gate เข้าออกผ่านระบบ Easy Pass และมี CCTV รอบโครงการ 32 จุด ส่วนความสูงรั้วรอบโครงการ 2.5 เมตร

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : โครงการนี้มีการออกแบบในรายละเอียดเป็นจุดเด่น อย่างแรกคือ การออกแบบช่องแสงตัวบ้านที่ให้มาแบบไม่มีกั๊ก บานใหญ่ เต็มผนังทั้งในส่วนของหน้าบ้านและหลังบ้าน ทำให้ภายในตัวบ้านได้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ ทำให้บ้านดูโปร่ง ส่วนที่ 2 คือฝ้าเพดานที่ให้มาสูงกว่าทาวน์โฮมทั่วไปคือ ชั้นล่าง 2.7 เมตร และชั้นบน 3 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่ทาวน์โฮมจะให้ฝ้าเพดานที่ความสูง 2.6 – 2.8 เมตรนะคะ สุดท้ายคือ การทำช่องแสงด้านบนฝ้าเพดานบริเวณบันได ในช่วงกลางวันถึงไม่เปิดไฟก็ยังสามารถขึ้นลงได้ แต่แอบเสียดายในเรื่องการออกแบบห้องน้ำ ที่ยังไม่ได้แบ่งพื้นที่ส่วนอาบน้ำ และส่วนแห้งออกจากกัน ทำให้เวลาใช้งานจริง อาจจะต้องมีการต่อเติมเพิ่มในส่วนนี้

พูดถึงแบบบ้านมีมาให้เลือก 2 แบบ คือแบบ New Jersey หน้ากว้าง 5.7 เมตร 1 ที่จอดรถ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งถือเป็นแบบมาตรฐานของทาวน์โฮมในละแวกนี้เลย ฟังก์ชันพอๆ กัน ขึ้นอยู่กับความชอบในทำเลและหน้าตาของตัวบ้านนะคะ ส่วนแบบ Charleston หน้ากว้าง 8.3 เมตร 2 ที่จอดรถ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นแบบที่ทำหน้ากว้างพิเศษ ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น นอกจากหน้าบ้านจะจอดรถได้ 2 คันแล้วยังมีพื้นที่ให้ทำสวนเล็กๆ หน้าบ้านเพิ่มได้ด้วย จะมีความคล้ายบ้านแฝดมากขึ้น แต่พื้นที่รอบบ้านยังไม่มากนัก แบบนี้เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการห้องนอนชั้นล่างให้ผู้สูงอายุหรืออยากมีห้องอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวค่ะ

เรื่องของหน้าตาบ้านออกแบบมาในสไตล์ Art Deco เราจะได้เห็นการใช้เส้นเรขาคณิตในการตกแต่ง ผสมกับการตกแต่งที่เป็นซุ้มทรงโค้ง และมีดีเทลของหน้าต่างที่ใช้ลูกฟัก โครงการใช้โทนบ้านสีขาวๆ ทำให้ดูหรูหราและสะอาดตา แต่เรื่องความสวยงามก็เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ที่ต้องตัดสินใจกันเองนะคะ^^

สุดท้ายคือ เรื่องการออกแบบโครงการถือว่าได้มาตรฐานดีทั้งขนาดถนนหลัก ถนนซอย และวางตำแหน่งของ Clubhouse และสวนไว้ช่วงกลางๆ ของโครงการ ทำให้ลูกบ้านทั้งหมด สามารถเดินมาใช้งานได้ อย่างซอยท้ายสุดก็ประมาณที่ระยะ 400 เมตร สำหรับซอยย่อยส่วนใหญ่จะมียูนิตไม่มากนัก ทำให้ยังมีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย

วัสดุ : วัสดุของโครงการเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป โครงสร้างผนังภายนอกอาคารใช้ Pre-Cast พื้นภายในบ้านชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นบนทั้งส่วนห้องนอนและโถงบันไดใช้พื้นลามิเนต บานกระจกเป็นแบบตัดแสงและวงกบอลูมิเนียมอบสีขาวและดำ สำหรับดวงโคมในบ้านเป็นไฟดาวน์ไลท์ ห้องน้ำทั้งชั้นบนและชั้นล่างเป็นกระเบื้องเซรามิค ใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำของ American Standard

ส่วนที่ดีคือ บันไดที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางประสาน และมีการลงเสาเข็มพื้นที่หลังบ้านมาให้เท่ากับตัวบ้าน และก่อกำแพงมาให้ทำให้ต่อเติมง่าย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สภาพโครงการโดยรวมดูเรียบร้อยดี โครงการมีพื้นที่รวมเกือบ 33 ไร่ กับจำนวนยูนิตทั้งหมด 333 ยูนิต ถือว่าจัดบ้านมาแบบเต็มพื้นที่เลย ถนนหลักจะมีเกาะกลางและปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ ช่วยให้โครงการดูร่มรื่นขึ้นได้บ้าง สำหรับพื้นที่สวนส่วนกลางวันที่ไปถ่ายรูปยังไม่เสร็จนะคะ แต่ดูจากผังก็จะอยู่ตรงกลางเลย ต้นไม้ใหญ่ใหญ่สวน และสระว่ายน้ำ ก็น่าจะช่วยให้บรรยากาศดูน่าอยู่ยิ่งขึ้นค่ะ

สาธารณูปโภค : ให้มาครบถ้วนตามมาตรฐาน คือ สวนส่วนกลาง Clubhouse, สระว่ายน้ำและ Fitness แลกมากับค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา และแชร์กับลูกบ้าน 333 หลัง ก็ถือว่าสมเหตุสมผล

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2.3 – 3.5 ล้านบาท, 14 May 2020

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ใกล้ถนนใหญ่กรุงเทพ-ปทุมประมาณ 50 เมตร (จากถนนใหญ่ถึงประตูโครงการ) ความอุดมสมบูรณ์ต้องขับรถไป
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตูเลื่อนไฟฟ้า, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, เข้าออกด้วยระบบ Easy Pass, รั้วรอบโครงการ 2.5 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – มีฟังก์ชันให้เลือก 2 แบบ ออกแบบรายละเอียดได้ดี ติดนิดเดียวคือเรื่องการแบ่งพื้นที่เปียกแห้งในห้องน้ำ
  • วัสดุ 8/10 – ส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานของทาวน์โฮมระดับนี้ และบางอย่างก็ดีกว่ามาตรฐาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – มีสวน 1 ตำแหน่งอยู่กลางโครงการ และมีต้นไม้บนถนนหลัก
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบทั้ง Clubhouse สระ สวน ฟิตเนส
  • 7.68 / 10.00 

BOTTOM LINE

ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน รองรับครอบครัวที่มีลูกและผู้สูงอายุ มีที่ทำงานอยู่ในย่านนี้หรือย่านใกล้เคียง เช่น ตัวเมืองปทุมธานี, ย่านติวานนท์ ที่ต้องเดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นหลัก ต้องการโครงการที่มีส่วนกลางให้ใช้ ชอบสไตล์บ้าน Art&Deco ภายใต้งบประมาณประมาณ 2.3-3.5 ล้านบาท หรือครอบครัวที่มีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 16,000-29,000 บาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving