ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ( Complete Aged Society ) ตั้งแต่เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนการเกิดของประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 ในขณะที่อัตราผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นแบบสวนทาง จากสำนักงานสถิติแห่งชาติคาดว่าในปี 2583 จะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นผลมาจากแนวคิดที่คนอยากอยู่เป็นโสดมากขึ้น หรือคู่รักบางคู่ที่ไม่มีแพลนจะมีลูก จึงทำให้สังคมในปัจจุบันเริ่มหันมาสนใจชีวิตหลังเกษียณกันมากขึ้น

ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนอายุ 50 – 60 ปีสมัยนี้ ยังเป็นกลุ่มที่มีความ Active สูง ร่างกายแข็งแรง สามารถดูแลตัวเองได้ ประกอบกับเป็นช่วงวัยที่มีอิสระและเวลาว่าง ทำให้ผู้สูงอายุบางกลุ่มยังมีความต้องการที่จะเข้าสังคม และอยากทำกิจกรรมที่หลากหลายไม่แพ้คนวัยหนุ่ม – สาวเลย จึงเกิดเป็นเทรนด์บ้านและคอนโดสำหรับผู้สูงอายุ ที่ภายในโครงการจะมี Facilities รองรับไว้อย่างครบครัน พร้อมกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกกระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังมีบริการเสริมด้านสุขภาพ และบุคลากรทางการแพทย์ที่คอยดูแลแบบ 24 ชั่วโมงเลย

โดยที่ผ่านมาคนทั่วไปมักคุ้นชินกับคำว่า “บ้านพักคนชรา” หรือ “Nursing Home” กันอยู่แล้ว แต่บ้านและคอนโดผู้สูงอายุนี้จัดอยู่ในหมวด “Retirement Community” หรือ “ชุมชนผู้สูงอายุ” เป็นกลุ่มที่พักอาศัยที่ออกแบบฟังก์ชันมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงวัยโดยเฉพาะ สำหรับคนที่มองหาที่พักอาศัย หรือวางแผนก่อนเกษียณก็ต้องพิจารณาว่าตัวเองเหมาะสมจะอยู่ในหมวดหมู่ไหน โดยสามารถวิเคราะห์จากเงื่อนไขเบื้องต้นที่แตกต่างกันดังนี้

กล่าวโดยสรุป “บ้านพักคนชรา” เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีรายได้สม่ำเสมอต่อเดือน เช่น ผู้ที่ได้รับเงินบำนาญ , เงินปันผล เป็นผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพจำเป็นต้องได้รับการดูแลใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วน “บ้านและคอนโดผู้สูงอายุ” จะเหมาะกับผู้สูงอายุที่ร่างกายยังแข็งแรง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่เน้นการดูแลแบบใกล้ชิด ชอบความเป็นส่วนตัว และเป็นผู้ที่มีเงินเก็บเป็นก้อน เนื่องจากเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อยาก หรือปล่อยได้ในอัตรา 70% ซึ่งก็จำเป็นต้องมีเงินเก็บขั้นต่ำที่ 30% เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการซื้อ – ขาย

โดยราคาบ้านพักคนชราจะเริ่มต้นที่ 1,500 – 25,000 บาท / เดือน ( *ไม่รวมค่าบริการเพิ่มเติมอื่นๆ* ) ส่วนบ้านและคอนโดผู้สูงอายุราคาจะเกาะกลุ่มอยู่ที่ 2 – 4 ล้านบาท รูปแบบการขายก็จะมีทั้งการขายขาดเหมือนการซื้อบ้านและคอนโดโดยทั่วไป หรือการขายสิทธิ์การเช่า ( Leasehold ) ซึ่งส่วนใหญ่ทางโครงการจะให้เช่าระยะยาว 30 ปี หากผู้เช่าอายุยืน ในปีที่ 30 จะขายบ้าน – คอนโดคืนให้กับโครงการ หรือจะต่ออายุการเช่าก็ได้ โดยบางแห่งยังขายในรูปแบบสิทธิ์การอยู่อาศัยตลอดชีพ เพื่อให้เราไม่ต้องกังวลว่าหากอายุเกินเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกค่ะ

ซึ่งส่วนใหญ่สิทธิ์การอยู่อาศัยแบบตลอดชีพหรือเช่าระยะยาว 30 ปี จะมีราคาถูกกว่าการซื้อแบบขายขาด แต่ในแง่ของการลงทุน หรือการส่งต่อกรรมสิทธิ์ให้คนรุ่นหลัง การขายขาดก็จะคุ้มค่ามากกว่า ซึ่งบ้านพักคนชราที่เช่าแบบรายเดือน จะไม่ตอบโจทย์ในด้านนี้

แต่ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักคนชราหรือที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุ สำหรับคนที่เตรียมตัวจะเกษียณก็ยังต้องสำรองเงินไว้เผื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ ค่ายา ค่าหมอ ค่าเดินทางไปโรงพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดในชีวิตประจำวัน ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ได้รวมอยู่ในค่าเช่าหรือราคาที่อยู่อาศัยนะคะ

บ้าน – คอนโดผู้สูงอายุที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยควรเป็นแบบไหน…?

ในแง่การออกแบบที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุก็ย่อมต้องแตกต่างกับที่พักอาศัยแบบทั่วไปอยู่แล้ว ด้วยลักษณะการใช้งานที่ต้องคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยเป็นพิเศษ ทั้งภายในห้อง – บ้านพักและพื้นที่ส่วนกลาง ตามหลัก “Universal Design” ทั้งการออกแบบทางลาด , ราวจับ ขนาดลิฟต์ , บันไดและระยะภายในห้องที่ต้องกว้างกว่าปกติ เพื่อให้รถเข็นสามารถเข้า – ออกได้ ที่สำคัญอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุ อาทิ วัสดุปูพื้น ที่ช่วยลดแรงกระแทก ป้องกันการลื่นล้ม และช่วยถนอมข้อต่อของผู้สูงอายุได้ดี เฟอร์นิเจอร์ในห้องต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ไม่อยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป จะได้ไม่ต้องเอื้อมหรือก้มเพื่อหยิบจับ นอกจากนี้หลายๆโครงการยังมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่น เครื่องติดตามตัวที่เฝ้าระวังการล้ม สามารถใช้ขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้

โดยทำเลก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือก จากข้อมูลแบบสอบถามความคิดเห็นผู้บริโภคโดย DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study แสดงให้เห็นสถิติว่า เชียงใหม่ถือเป็นเมืองยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคต้องการไปใช้ชีวิตหลังเกษียณ ( 24% ) ตามมาด้วยเชียงราย และชลบุรี ( 10% และ 8% ตามลำดับ ) โดยมากกว่าครึ่ง ( 52% ) สนใจทำเลที่ได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ ( 49% ) และทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งสถานพยาบาล และระบบขนส่งมวลชน ( 44% )

ซึ่งวันนี้ Think of Living ก็ได้รวบรวมตัวอย่าง 10 โครงการบ้านและคอนโดเพื่อผู้สูงอายุ อัพเดตปี 2024 มาให้ได้ชมกัน สำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยในช่วงวัยเกษียณ หรือคนที่กำลังเตรียมตัววางแผน เพื่อเป็นตัวอย่างในการคำนวณค่าใช้จ่ายและเลือกที่พักอาศัยที่เหมาะสมในบั้นปลายกันค่ะ โดยรายละเอียดจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลย

 


 

Wellness World Sanctuary Khao Yai ( เวลเนส เวิลด์ แซงค์ทัวรี่ เขาใหญ่ )

  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 4 ชั้น 12 อาคาร ( 1,000 ยูนิต )
  • รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 1.28 ล้านบาท*
  • ค่าส่วนกลาง : 2,880 บาท / ปี
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 091 – 990 – 0355 , 094 – 948 – 3848

Wellness World Sanctuary Khao Yai ( เวลเนส เวิลด์ แซงค์ทัวรี่ เขาใหญ่ ) เป็นโครงการที่พักอาศัยเพื่อสุขภาพที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดกว่า 1,000 ยูนิต ภายในมีฟังก์ชันทั้ง อาคารโรงแรม , ร้านอาหาร , ศูนย์กีฬา , อาคารสโมสร ( Chiva Legend ) , อาคารแสดงงานศิลป์ และ ศูนย์การแพทย์แบบองค์รวม ที่ให้บริการทั้งผู้ป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยนอก ( OPD ) ผู้ป่วยใน ( IPD ) และผู้ป่วยติดเตียง เป็นจำนวน 60 เตียง จัดเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ นอกจากมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ยังมีบุคลากรทางการแพทย์คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเลย

 

Wellness World Ayutthaya ( เวลเนส เวิลด์ อยุธยา )

  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : บ้านพร้อมที่ดิน ( บ้านสั่งสร้าง )
  • ขนาดที่ดิน : 83.5 – 179 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น : 21,200 บาท / ตร.วา
  • ค่าส่วนกลาง : 1,500 บาท / เดือน
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Wellness World Ayutthaya ( เวลเนส เวิลด์ อยุธยา ) เป็นอีกหนึ่งโครงการในเครือ Wellness World เดิมมีขายทั้งคอนโดและบ้านพร้อมที่ดิน แต่ปัจจุบันคอนโดได้ Sold out ไปหมดแล้วนะคะ จะเหลือเป็นที่ดินเปล่าขนาด 83.5 – 179 ตร.วา รูปแบบการขายเป็นบ้านสั่งสร้าง มีแบบให้เลือกจากโครงการ โดยลูกบ้านสามารถไปใช้บริการ Facilities อื่นๆภายในโครงการ Wellness City ได้ ซึ่งก็จะมีทั้ง ร้านค้า , ร้านอาหาร , ห้องสัมนา  และศูนย์การแพทย์ รองรับผู้ป่วยแบบ OPD

 

Baan Lalisa Active Living ( บ้านลลิสา แอคทีฟ ลีฟวิ่ง )

  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 8 ชั้น
  • รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 32 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 2 ล้านบาท*
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : เช่าระยะสั้น 1 – 6 เดือน 30,000 บาท / เช่าตลอดชีพ ( อายุ 50 ปีขึ้นไป )
  • ค่าบริการรายเดือน : 6,000 บาท
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Baan Lalisa Active Living ( บ้านลลิสา แอคทีฟ ลีฟวิ่ง ) เป็นโครงการที่รองรับทั้งผู้เข้าพักรายวัน , ระยะสั้น ( 1 – 6 เดือน ) และแบบตลอดชีพ ( ต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป ) โดยจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ทำเลซึ่งอยู่ติดหาดส่วนตัว ได้บรรยากาศผ่อนคลาย สไตล์รีสอร์ท โดยภายในโครงการจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลด้านสุขภาพ มีทีมแพทย์และพยาบาลที่จะมาตรวจสุขภาพและประเมินอาการของลูกบ้านทุกวัน พร้อมจัดทำโปรแกรมต่างๆที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ทั้งโปรแกรมออกกำลังกาย , โปรแกรมกายภาพบำบัด และกิจกรรมสันทนาการต่างๆให้แบบครบวงจร

 

Villa Meesuk Residences ( วิลล่า มีสุข เรสซิเดนท์เซส )

  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise / วิลล่า
  • รูปแบบห้อง : คอนโดมิเนียม พื้นที่ใช้สอย 48 ตร.ม. / วิลล่า 144 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 3.4 – 6.7 ล้านบาท*
  • ค่าส่วนกลาง : 50 บาท / ตร.ม. / เดือน
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Villa Meesuk Residences ( วิลล่า มีสุข เรสซิเดนท์เซส ) ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกจังหวัดท่องเที่ยวชื่อดังที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศแบบธรรมชาติ ภายในโครงการมีทั้งคอนโดห้อง 1 Bedroom และวิลล่าขนาด 144 ตร.ม. ( 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ ) ให้เลือก ซึ่งรูปแบบการขายจะเป็นแบบขายขาด เวลาลูกหลานมาเยี่ยมก็สามารถมาพักด้วยได้ ทำเลยังอยู่ใกล้ห้างอย่าง Central Festival เชียงใหม่และตลาดอีกหลายแห่ง จากโครงการจะมี Shuttle Van คอยวิ่งรับ – ส่งด่วยนะคะ

 

Supalai Wellness Valley ( ศุภาลัย เวลส์เนส วัลเลย์ )

  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : บ้านแถวชั้นเดียว ( 144 ยูนิต )
  • รูปแบบห้อง : บ้านแถว พื้นที่ใช้สอย 55 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
  • ราคาเริ่มต้น : 1.3 – 1.9 ล้านบาท*
  • ค่าส่วนกลาง : 2,000 บาท / เดือน ( จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี )
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : เช่าระยะยาว 30 ปี / เช่าตลอดชีพ ( อายุ 50 ปีขึ้นไป )
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Supalai Wellness Valley ( ศุภาลัย เวลส์เนส วัลเลย์ ) หรือ ศุภวัฒนาลัย เป็นบ้านแถวชั้นเดียวจำนวน 144 ยูนิตในสระบุรี ใกล้โค้งแม่น้ำป่าสัก ภายในโครงการได้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิ สระว่ายน้ำ , ห้องอาหาร , ห้องสันทนาการ , Spa & Suana  , Minimart , สนามพัตต์กอล์ฟ , Organic Farm เป็นต้น โดยในบ้านจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบ  พร้อมเข้าอยู่ และมีพยาบาลวิชาชีพคอยดูแล 24 ชั่วโมง โดยมีทั้งสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี และแบบตลอดชีพ

 

Senior Complex Project ( ซีเนียร์ คอมเพลกซ์ โปรเจค )

  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 8 ชั้น 7 อาคาร ( เฟส 1 : 891 ยูนิต )
  • รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 31.71 – 49.66 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 1.82 – 3.05 ล้านบาท*
  • ค่าส่วนกลาง : 2,000 บาท / เดือน ( ชำระเป็นรายปี ล่วงหน้า 3 ปี )
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : เช่าระยะยาว 30 ปี ( อายุ 58 ปีขึ้นไป ผ่านการตรวจคัดกรองสุขภาพ )
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Senior Complex Project ( ซีเนียร์ คอมเพลกซ์ โปรเจค ) เป็นโครงการจากภาครัฐที่ต้องการสร้างศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจรเพื่อประชาชนทั่วไป โดยเป็นการเช่าสิทธิการพักอาศัยระยะยาว 30 ปี มีผู้รับผิดชอบหลักคือ กรมธนารักษ์ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จัดเป็นโคงการขนาดใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร ทั้งยังใกล้ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เพียงแค่ 800 เมตร พร้อมรองรับเหตุฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คุณสมบัติของผู้พักอาศัย จะต้องมีอายุตั้งแต่ 58 ปีขึ้นไป มีรายได้หลังเกษียณอย่างน้อย 30,000 บาท / เดือน ไม่มีโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ผ่านการคัดกรองสุขภาพจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และต้องเปิดบัญชีเงินฝาก ในลักษณะเงินฝากประจำ 300,000 บาท กับธนาคารพันธมิตร เพื่อเป็นทุนสำรองในการดำรงชีพขณะอยู่ในโครงการ จากรายละเอียดข้างต้นจะเห็นว่ามีข้อกำหนดค่อนข้างเยอะกว่าโครงการเอกชนทั่วไป แต่ก็มีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการมีส่วนร่วมของภาครัฐกับสังคมผู้สูงอายุในนปัจจุบัน

 

Jin Wellbeing County ( จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ )

  • ที่ตั้งโครงการ : ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 7 ชั้น 5 อาคาร ( เฟส 1 : 494 )
  • รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 43 – 44 ตร.ม. / 1 Bedroom Plus 63 – 66 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 4 ล้านบาท*
  • ค่าส่วนกลาง : 60 บาท / ตร.ม. / เดือน
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Jin Wellbeing County ( จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ) เป็นโครงการคอนโดแห่งแรกที่อยู่ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลธนบุรี โดยเป็นโครงการ Mixed Use ที่มีทั้ง Condominium + Wellness Center + Hospital ( โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ) และ Community Mall รวมอยู่ด้วยกัน ภายในยังมีWellness Center และ Retreat Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก 55 เตียง รองรับการรักษาโรคทั่วไป และกิจกรรมกายภาพบำบัด โดยมีอายุรแพทย์อยู่ดูแลประจำตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะกับทั้งบุคคลทั่วไป , ผู้สูงอายุ , ผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะโรค และผู้ป่วยที่ต้องฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัดที่ต้องการเน้นการกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยภายในโครงการจะมีอาคารแบบ Pet Friendly สำหรับคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยนะคะ

 

Naya Residence ( นายา เรสซิเดนซ์ )

  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด High Rise ( 70 ยูนิต )
  • รูปแบบห้อง : 1 Bedrom พื้นที่ใช้สอย 76 ตร.ม. / 2 Bedrooom พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 6.xx ล้านบาท* ( 1 Bedroom )
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : เช่ารายเดือน 50,000 บาท / เช่าระยะยาว 15 ปี 6,000,000 บาท
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Naya Residence ( นายา เรสซิเดนซ์ ) เป็นคอนโด High Riise ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยโครงการนี้จัดเป็นโครงการที่พักผู้สูงอายุแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตสถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุประเภท Independent Living มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและพยาบาลวิชาชีพดูแล 24 ชั่วโมง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องบริการสุขภาพ , ห้องนันทนาการ , ห้องออกกำลังกาย , สระว่ายน้ำความยาวกว่า 50 เมตร , สวนหย่อม และสนามเทนนิส เป็นต้น โดยทำเลของโครงการจัดว่าเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้ทั้งทางด่วน , ท่าเรือ  , รถไฟฟ้า  และสนามบินดอนเมือง มีรูปแบบห้องไซส์ใหญ่ 2 Bedroom ได้พื้นที่ใช้สอยกว่า 120 ตร.ม.

 

Origin Wellness Residence Sukhumvit  107 ( ออริจิ้น เวลส์เนส เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 107 )

  • ที่ตั้งโครงการ : ซอยแบริ่ง 10 อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
  • จำนวนยูนิต : 137 ยูนิต
  • รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22 – 27 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น : 1.8 ล้านบาท*
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : Leasehold
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 1498

Origin Wellness Residence Sukhumvit  107 ( ออริจิ้น เวลส์เนส เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 107 ) เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเครือ Origin , KIN Rehabilitation & Homecare และ โรงพยาบาลศิครินทร์ เพื่อต่อยอดการเป็นโครงการที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุแบบครบวงจร มีบริการเสริมด้านสุขภาพ ทั้งเวชศาสตร์การฟื้นฟูและกายภาพบำบัด , เวชศาสตร์ผิวพรรณ และความงาม , บริการตรวจสุขภาพและกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมพยาบาลประจำและบริการรถพยาบาลฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยปัจจุบันตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ แต่ไม่ได้มีหน้าเว็บไซต์ หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อที่ Call Center ได้เลยนะคะ

 

The Aspen Tree ( ดิ แอสเพน ทรี )

  • ที่ตั้งโครงการ : ถนนบางนา – ตราด กม.7 อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด High Rise 3 อาคาร สูง 13 ชั้น , 18 ชั้น , 22 ชั้น
    ( Active Living Condominiums ) คอนโด Low Rise 2 อาคาร สูง 5 ชั้น ( Sky Villa Residences )
  • จำนวนยูนิต : 290 ยูนิต
  • รูปแบบห้อง :

Active Living Condominiums 250 units
– 1 Bedroom ขนาด 83 ตร.ม.
– 1 Bedroom plus Den ขนาด 85 ตร.ม.
– 2 Bedrooms ขนาด 123 ตร.ม.
Sky Villa Residences 40 units
– 2 Bedrooms plus Den ขนาด 184-203 ตร.ม.
– 2 Bedrooms plus Den & Private Garden ขนาด 213 – 250 ตร.ม.

  • ราคาเริ่มต้น : 30 ล้านบาท*
  • เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ตลอดชีพ ( อายุ 50 ปีขึ้นไป )
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

The Aspen Tree ( ดิ แอสเพน ทรี ) เป็นคอนโดระดับ LUXURY สำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยเป็น 1 ในโครงการ Mixed-Use ภายใน The Forestias เป็น Mega Project ที่ภายในประกอบด้วย ผืนป่าขนาดใหญ่ 30 ไร่ พร้อมระบบนิเวศแบบยั่งยืน (Sustainable System) , โรงพยาบาล , ออฟฟิศ , ห้างสรรพสินค้า , คอมมูนิตี้มอลล์ , Service Apartment , โรงแรม , คอนโดมีเนียม และอาคาร Clubhouse พื้นที่กว่า 6,000 ตร.ม.

โดยแต่ละท่านที่เข้าพักอาศัยในโครงการ เมื่อแรกเข้าจะได้รับการวางแผน Life Planning Program ซึ่งเป็นโปรแกรมตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคลจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจัดการวางแผนด้านอาหาร , การออกกำลังกาย และกิจกรรมที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งที่ลูกบ้านจะได้เพิ่มเติมแตกต่างจากโครงการอื่นๆก็คือ

  • โครงการมอบประกันสุขภาพให้กับเจ้าของห้องพักอาศัย ดูแลระยะยาวด้วยความคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี
  • ความคุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ในช่วงระหว่างการก่อสร้างโครงการฯ
  • เพิ่มความคุ้มครองสูงสุดเป็น 40 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ เมื่อโครงการฯแล้วเสร็จ และโอนสิทธิการเช่าสำเร็จ
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางรายปีตลอดการอยู่อาศัย
  • มีบริการอาหารเช้าฟรีตลอดชีพ
  • หากเจ้าของห้องพักอาศัยไม่ประสงค์จะพักอาศัยต่อในโครงการแล้วและยังอยู่ในระยะที่กำหนด เจ้าของห้องพักอาศัยจะได้รับเงินคืน ( Refund ) ตามเงื่อนไขของสัญญา

จากตัวอย่าง 10 โครงการที่นำมาให้ได้ชม จะเห็นว่าตลาดอสังหาฯในปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น โดยรูปแบบโครงการจะมีทั้งทำมาเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุโดยเฉพาะ และกลุ่มคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยเพื่อสุขภาพ ( Wellness Residence ) อันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID – 19 ที่ผ่านมา การมีศูนย์การแพทย์หรือเจ้าหน้าที่วิชาชีพประจำอยู่ภายในโครงการ ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจและปลอดภัยได้มากขึ้นนะคะ

โครงการไหนเหมาะกับใคร…?

  • กลุ่มคนที่มีงบประมาณไม่เกิน 2 ล้านบาท

มีให้เลือก 5 โครงการก็คือ Wellness World Sanctuary Khao Yai , Baan Lalisa Active Living , Supalai Wellness Valley , Senior Complex และ Origin Wellness Residence Sukhumvit 107 ซึ่งราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1.20 – 2.00 ล้านบาท มีให้เลือกทั้งแบบขายขาด , ตลอดชีพและ Leasehold

  • กลุ่มคนโสดหรือคู่รักที่ไม่มีแพลนมีลูก

เหมาะกับโครงการประเภท Leasehold และ ตลอดชีพ ซึ่งเมื่อเสียชีวิตก็จะไม่มีภาระผูกพันในภายหลัง มีให้เลือก 5 โครงการ คือ Supalai Wellness Valley , Senior Complex , Naya Residence , Origin Wellness Residence Sukhumvit 107 และ The Aspen Tree

  • กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการส่งต่อกรรมสิทธิ์

นอกจากคนโสดหรือคู่รักที่ไม่มีแพลนจะมีลูก กลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายแบบไม่ต้องการพึ่งพาลูกหลาน ก็สามารถเลือกซื้อที่พักอาศัยแบบขายขาดได้ ซึ่งเงื่อนไขก็จะน้อยกว่ารูปแบบอื่นๆ เมื่อเสียชีวิตก็ยังสามารถส่งต่อให้ลูกหลานเป็นทรัพย์สินได้ โดยมีให้เลือก 5 โครงการด้วยกัน คือ Wellness World Sanctuary Khao Yai , Wellness World Ayutthaya , Baan Lalisa Active Living , Villa Meesuk Residence และ Jin Wellbeing County

สำหรับคนที่กำลังวางแผนเกษียณ เราก็มีตัวอย่างการคำนวณคร่าวๆ (*ใช้ข้อมูลปัจจุบัน ไม่รวมอัตราเงินเฟ้อ* ) เพื่อสำรองเงินไว้ใช้จ่ายในการอยู่อาศัยระยะเวลา 30 ปี ดังนี้

ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเช่าคอนโด A เพื่ออยู่อาศัย 30 ปี

  • ค่าคอนโดเริ่มต้น 3,000,000 บาท จ่ายเมื่อวันที่เข้าอยู่ ( ห้องขนาด 30 ตร.ม. )
  • ค่าส่วนกลางเดือนละ 60 บาท / ตร.ม.
  • แพคเกจเสริมต่อเดือน ( ค่าบริการด้านสุขภาพ + ค่าอาหาร + ค่าแม่บ้าน เป็นต้น ) 30,000 บาท*
  • รวมค่าใช้จ่ายในคอนโด A ระยะเวลา 30 ปี = 11,448,000 บาท
  • ดังนั้นก่อนเกษียณต้องมีเงินเก็บขั้นต่ำประมาณ 15 ล้านบาท*   

ปัจจุบันแนวคิดเกี่ยวกับที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ด้วยสภาพสังคมจึงทำให้คนที่วางแผนจะโสดยาว คู่รักที่ไม่ต้องการมีลูก หรือแม้แต่คนที่ไม่อยากจะเป็นภาระของลูกหลาน ก็หันมาเลือกซื้อบ้านและคอนโดเพื่อชีวิตหลังเกษียณกันมากขึ้น ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และความปลอดภัยในโครงการที่สูงกว่าอยู่อาศัยในบ้านเดิม การเลือกซื้อบ้านและคอนโดผู้สูงอายุจึงถือเป็นการเลือกไลฟ์สไตล์ชีวิตบั้นปลายของตัวเองได้นั่นเอง

สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย แล้วติดตามเนื้อหาดีๆที่เราจะหยิบมาแชร์กันได้อีกที่ Think of Living นะคะ 🙂