รีวิวฉบับที่ 2576 พามาชม ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) คอนโด Low Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่ใจกลางรัชโยธิน ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* โครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 30 ขับรถเชื่อมต่อถนนพหลโยธินได้ง่าย ทั้งยังใกล้ BTS รัชโยธินในระยะ 1.2 กิโลเมตร ซึ่งหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับแบรนด์ “ชาโตว์ อินทาวน์” บนทำเลย่านนี้อยู่แล้ว เพราะโครงการนี้เปิดตัวมาเป็นโครงการที่ 5 สำหรับ Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง เราได้สรุปมาให้ชมดังนี้ค่ะ

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 30 ซึ่งใช้ถนนเสนานิคม 1 เป็นถนนหลักในการเข้า – ออก เชื่อมต่อถนนพหลโยธินและลาดพร้าววังหินได้ ทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เลือกใช้บริการ จัดเป็นทำเลที่เดินทางง่าย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกของคนเมืองแบบครบครัน
  • แปลนห้องหน้ากว้าง : ได้ Living Area ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศโปร่งโล่ง ฟังก์ชันภายในกั้นมาให้เป็นสัดส่วน ครัวปิดทุกยูนิต ห้อง 2 Bedroom ขนาด 44 – 48 ตร.ม. วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ทั้ง 2 ห้อง ในราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท* ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3 – 4 คน
  • เฟอร์ครบพร้อมอยู่ : รูปแบบการขายเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว อีกทั้งยังได้ Promotion เครื่องใช้ไฟฟ้า ฟูกนอนขนาด 5 ฟุต รางม่านพร้อมผ้าม่านทั้งทึบและโปร่ง Digital Door Lock ระบบ Home Automation และ IP Camera เรียกได้ว่าจัดเต็ม แค่หิ้วกระเป๋ามาก็เข้าอยู่ได้เลย

ข้อมูลโครงการ

ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2566

 ชื่อโครงการ  ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (กลุ่มบมจ. CMC)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยพหลโยธิน 30 เขตจตุจักร
 ที่ดิน  2 – 1 – 41.2 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
 จำนวนยูนิต  ห้องพักอาศัย 309 ยูนิต
– อาคาร A จำนวน 84 ยูนิต
– อาคาร B จำนวน 225 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   33 ยูนิต
 ที่จอดรถ   124 คัน คิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคันและ Automatic Parking)
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.50 – 36.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.00 – 48.00 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.40 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  2.39 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a บาท
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center 1172 กด 30 / 094-464-2121

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.832259 , 100.578991
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการแสดงตำแหน่งของ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) โดยที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยพหลโยธิน 32 หรือซอยเสนานิคม 1 แยก 12 ห่างจาก BTS สถานีรัชโยธินประมาณ 1.2 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถขับไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง โดยใช้ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ผ่านอารีย์ ไปจนถึงอนุสาวรีย์ฯได้ หรือจะใช้ถนนภายในซอยวิ่งทะลุไปออกลาดพร้าววังหินได้เลย

หากจะวิ่งออกนอกเมืองก็สามารถใช้ถนนวิภาวดีรังสิตวิ่งไปงามวงศ์วาน ดอนเมือง , หลักสี่ , สะพานใหม่ ไปรังสิตได้ หรือมุ่งหน้าเข้าเมืองใช้ถนนรัชดาภิเษก ขับเชื่อมต่อ พระราม 9 ไปอโศกได้ง่าย ถ้าไปโซนรามอินทรา , รามคำแหง , มีนบุรี ก็ใช้ถนนเกษตรนวมินทร์วิ่งสบายๆ จึงจัดเป็นทำเลที่เป็น Node หลักในการขับเชื่อมต่อเข้า – ออกเมืองได้หลากหลาย สะดวกสบายมากทีเดียวค่ะ

แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าการจราจรในย่านนี้ค่อนข้างจะติดขัด จึงอาจต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักหน่อย หรือใครอยากเลี่ยงปัญหาการจราจร ตัวโครงการก็อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่าง BTS สถานีรัชโยธิน โดยรอบๆก็มีรถ 2 แถว รถแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซต์ให้เลือกใช้บริการอยู่เยอะแยะเลยนะคะ และโครงการก็มีรถตุ๊กๆวิ่งรับ – ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าด้วย สามารถเลือกใช้บริการได้อย่างสะดวกเลย

ย่านนี้จัดว่าเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว ทั้งอยู่ใกล้อาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง และใกล้กับมหาวิทยาลัยอย่างเกษตรศาสตร์อีกด้วย จึงทำให้รอบๆมีร้านค้า ร้านอาหารขึ้นให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะบริเวณเส้นพหลโยธินที่ติดกับแนวรถไฟฟ้า หรือจะเป็นฝั่งลาดพร้าววังหิน ก็มี Community Mall และ Hypermarket ให้ออกไปเลือกจับจ่ายใช้สอยกันได้ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆในย่านนี้เช่น Major รัชโยธิน , Central ลาดพร้าว , Union Mall หรือในวันหยุดชิวๆอยากจะไปเดินตลาดหรือออกกำลังกาย ก็มีสวนจตุจักรที่นั่งรถไฟฟ้าไปแค่ไม่กี่สถานีก็ถึงแล้วค่ะ

การเดินทางไปโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง ด้วยที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยที่เชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายสาย อาทิ จากถนนพหลโยธินขับทะลุไปลาดพร้าววังหินได้เลย โดยเส้นทางที่เราเลือกใช้วันนี้จะมาจากถนนงามวงศ์วานผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก ขับไปตามแนวรถไฟฟ้าแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนเสนานิคม 1 จากหน้าถนนประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะถึงทางเข้าโครงการค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

Image 1/9
ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยสูงตั้งแต่ 2 ชั้นจนถึงอาคารสูง 28 ชั้น และพื้นที่ดินเปล่า บรรยากาศในซอยค่อนข้างคึกคัก มีรถยนต์ขับผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ตรงจุดตัดซอยพหลโยธิน 32 และซอยพหลโยธิน 30 ทำให้มีถนนอยู่ด้านข้างโครงการทั้ง 2 แนว แต่โครงการมีทางเข้า – ออกทางเดียวติดกับซอยพหลโยธิน 30 เพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย

  • ทิศเหนือ ติดกับ ซอยพหลโยธิน 30 หรือซอยอาลาดิน ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสูง 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยพหลโยธิน 32 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้นและอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยส่วนบุคคล และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดบางเขน ~ 950 เมตร
  • เมเจอร์รัชโยธิน ~ 1.5 กิโลเมตร
  • ตลาดวังหิน ~ 1.7 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 2.9 กิโลเมตร
  • ยูเนี่ยนมอลล์ ~ 3.4 กิโลเมตร
  • สวนรถไฟ ~ 4.2 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 5.9 กิโลเมตร
  • ตลาดโชคชัยสี่ ~ 6.5 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเปาโล เกษตร ~ 1.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 4.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ~ 6.6 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทร์เกษม ~ 2.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนหอวัง ~ 3.0 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 3.1 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 3.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเซนต์จอห์น ~ 3.9 กิโลเมตร

อาคารสำนักงาน

  • กรมพัฒนาที่ดิน ~ 1.3 กิโลเมตร
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ~ 1.6 กิโลเมตร
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ~ 2 กิโลเมตร
  • กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ~ 2 กิโลเมตร
  • ศาลยุติธรรม ~ 2.8 กิโลเมตร
  • กระทรวงพลังงาน ~ 3.5 กิโลเมตร
  • สำนักงานใหญ่ ปตท. Energy Complex ~ 5.9 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • BTS รัชโยธิน ~ 1.2 กิโลเมตร
  • ทางด่วนอุตราภิมุข ~ 4.5 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 84 ยูนิตและอาคาร B 225 ยูนิต รวมเป็น 309 ยูนิต โดยการออกแบบโครงการมาในสไตล์ Modern – British ได้กลิ่นอายแบบอังกฤษ เพิ่มดีเทลการตกแต่งเล็กๆด้วยบัวปูนปั้นและกระเบื้องลายแพทเทิร์นที่ให้ความรู้สึกคลาสสิค ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ บรรยากาศของจริงจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันค่ะ

เริ่มกันที่ Masterplan ของโครงการ ทางเข้า – ออกหลักจะอยู่ด้านข้างติดกับซอยพหลโยธิน 30 เชื่อมต่อกับซอยเสนานิคม 1 ซึ่งใช้ขับออกไปถนนพหลโยธินและลาดพร้าววังหินได้ เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอกับพื้นที่ Drop off จอดส่งคนได้ด้านหน้า ก่อนไปวนจอดที่ด้านหลัง การสัญจรเป็นแบบทางเดียว โดยพื้นที่จอดรถจะมีทั้งแบบในร่มและ outdoor คิดเป็น 40% หรือ 124 คัน (รวม Auto Parking , จอดซ้อนคัน) และมี EV Charger มาให้ด้วย 2 Slots ที่ด้านหน้าอาคารเลย ไม่ต้องขับเข้าไปจอดรวมด้านใน

Lobby ของอาคาร A และ B จะแยกใช้งานเป็น 2 จุด อาคารที่อยู่ติดกับทางเข้าจะเป็นอาคาร A ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เป็นวิวส่วนกลางของอาคาร ซึ่งได้มาถึง 2 สระ ที่ชั้น 1 และชั้นดาดฟ้าของอาคาร A ได้วิวแบบเปิดโล่ง ส่วนอาคาร B ที่มีจำนวนยูนิตเยอะกว่า จะมีส่วนกลางให้ลูกบ้านใช้งานได้ที่ชั้น 8 ประกอบด้วย Active Fitness Room , Changing Room , Steam & Sauna แยกชาย – หญิง , Co – Kitchen Area , Co – Working Space , Living Area และชั้นดาดฟ้าที่มีสวนหย่อมไสตล์ British พร้อมโซนนั่งเล่นพักผ่อนได้

ทางเข้าโครงการแยกเป็น 2 ฝั่ง มีป้อมรปภ.อยู่ด้านหน้าคอยรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน การเข้า – ออกใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ โดยจะมีกล้อง CCTV คอยบันทึกภาพอยู่ด้วย

Image 1/4
พื้นที่จอดรถด้านหน้าโครงการ

พื้นที่จอดรถด้านหน้าโครงการ

พื้นที่จอดรถ outdoor จะอยู่ด้านหน้าอาคาร ถนนตรงกลางค่อนข้างกว้าง รถสามารถขับเข้า – ออกได้สะดวก ส่วน EV Charger จะจัดมาให้ 2 Slots อยู่ที่ด้านหน้าเช่นเดียวกัน พื้นที่จอดรถในร่มอยู่ใต้อาคารทั้ง A และ B รวม Auto Parking คิดเป็น 40% เมื่อเทียบกับโครงการที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า ก็ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะค่ะ

สระว่ายน้ำกลางโครงการ ได้เป็นระบบเกลือขนาด 4.50×20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย

Image 1/6
บรรยากาศพื้นที่สวนบริเวณชั้น 1

บรรยากาศพื้นที่สวนบริเวณชั้น 1

รอบๆเป็นพื้นที่สวน ตกแต่งมาในสไตล์ British Garden มีพุ่มไม้เป็นแนวช่วยบังสายตา เพิ่มความเป็นส่วนตัว ด้านข้างมี Pavilion จัดเป็นมุมพักผ่อน ได้บรรยากาศศาลาในสวนอังกฤษ

Image 1/3
Living Area ติดกับสระว่ายน้ำบริเวณอาคาร A

Living Area ติดกับสระว่ายน้ำบริเวณอาคาร A

ติดกับสระว่ายน้ำเป็น Living Area มีชุดโซฟาขนาดใหญ่และโต๊ะเก้าอี้จัดมาให้ลูกบ้าน ใช้นั่งเล่นระหว่างรอคนใช้งานสระ หรือใช้เป็นมุมรับแขกจากภายนอกก็สะดวก

Image 1/4
ทางเข้าอาคาร B เชื่อมต่อจากส่วนกลาง

ทางเข้าอาคาร B เชื่อมต่อจากส่วนกลาง

อาคาร A และ B มี Lobby , Mailbox แยกใช้งาน ลิฟต์โดยสารได้ 2 ตัวต่ออาคาร อาคาร A จำนวน 84 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 42 : 1 อาคาร B จำนวน 225 ยูนิต คิดเป็น 112 : 1 ถือว่าพอใช้งานได้ในคอนโดระดับ Low Rise ส่วนการใช้เข้า – ออกใช้ระบบคีย์การ์ด เพื่อความปลอดภัยค่ะ

ขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 8 จัดเป็น Facilites หลักของโครงการ ซึ่งก็ให้มาครบครันตามมาตรฐาน ทางเข้า – ออกแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ภายในมีทั้ง Co – Working Space , Co – Kitchen Area , Fitness โดยจากชั้นนี้จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปใช้งานสวนชั้นดาดฟ้าได้เลย

โถงลิฟต์ชั้น 8 ของอาคาร B มีประตูกั้นส่วนพักอาศัยแยกเป็นสัดส่วน ได้ความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง การจัดฟังก์ชันเป็นแบบ Open Plan สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้

ด้านหน้าจัดเป็นโซน Living ได้โซฟาขนาดใหญ่แบบ Private Pod ใช้นั่งเล่น , นอนเล่นได้บรรยากาศสบายๆ

Image 1/4
บรรยากาศส่วน Co - Kitchen Area

บรรยากาศส่วน Co - Kitchen Area

ส่วน Co – Kitchen Area ได้เคาน์เตอร์ และโต๊ะบาร์จัดมาให้พร้อมใช้งาน ชวนเพื่อนๆมานั่งเล่นสังสรรค์กันได้ หรือใครที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือจนล้า ก็แวะมาทานขนมเติมพลังกันที่โซนนี้ได้

Image 1/5
บรรยากาศส่วน Co - Working Space

บรรยากาศส่วน Co - Working Space

Co – Working Space จัดมาเป็นโต๊ะรูปตัว C ขนาดใหญ่ จะมาใช้งานแบบเดี่ยวหรือกลุ่ม ก็สามารถจับจองพื้นที่กันได้ ด้านหน้าเป็นผนังกระจก Frameless แบบเต็มบาน ได้บรรยากาศเปิดโล่ง มองไปเห็นส่วนกลางด้านล่าง และ Sky Walk ที่เดินเชื่อมต่อจากอาคาร A

Image 1/3
บรรยากาศส่วน Fitness

บรรยากาศส่วน Fitness

Fitness จัดอุปกรณ์มาให้ครบครันทั้ง Cardio และ Weight Trainning พื้นที่ในห้องได้มาค่อนข้างกว้าง แบ่งเป็นโซนจัดกิจกรรมเพิ่มได้หลากหลาย ทั้งคลาสโยคะหรือคลาสเต้นก็ได้

Image 1/6
ห้องน้ำส่วนกลางมาพร้อม Suana แยกชาย - หญิง

ห้องน้ำส่วนกลางมาพร้อม Suana แยกชาย - หญิง

ห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่ติดกับ Fitness ภายในมีตู้ Locker ไว้สำหรับเก็บเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ได้ มีห้องอาบน้ำและ Suana แยกชาย – หญิงมาให้ เลือกใช้งานได้ตามสบาย

จากชั้น 8 มีบันไดขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า ซึ่งด้านบนก็มี Sky Walk เชื่อมต่อไปที่อาคาร A ได้ ลูกบ้านสามารถเดินข้ามมาใช้งานง่าย

บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า ตกแต่งมาเป็น British Garden รอบๆมีแนวต้นไม้ให้ความสดชื่น และมีมุมนั่งเล่นที่ขึ้นมาทานอาหาร จัดปาร์ตี้ BBQ ในวันหยุดกันแบบชิลๆได้

Image 1/4
British Garden บริเวณชั้นดาดฟ้า

British Garden บริเวณชั้นดาดฟ้า

จากอาคาร B เดินผ่าน Sky Walk มายังอาคาร A ได้ง่าย โดยในอาคารนี้จะมี Facilities ที่น่าสนใจอย่างสะว่ายน้ำอยู่ด้วย

Image 1/4
สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าบนอาคาร A

สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าบนอาคาร A

สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าอาคาร A เป็นระบบเกลือ รูปทรงตัว L ความยาวรวม 40 เมตร มาพร้อมระบบ Jacuzzi ใช้นั่งแช่ชมวิวเมืองจากมุมสูง ก็ได้บรรยากาศพักผ่อนไปอีกแบบนะคะ

แปลนชั้นพักอาศัย

ส่วนพักอาศัยใน ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 – 8 ในอาคาร A ได้มาแบบเต็ม Floor ส่วนชั้น 8 ของอาคาร B จะมีส่วนกลางแทรกเข้ามาด้วย แต่จะมีประตูแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน โดยการจัดวางอาคารจะวางขนานไปกับทิศเหนือ – ใต้ ทำให้มีห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกอยู่บ้าง แต่ฝั่งที่ตรงกับทิศตะวันตกจะเป็นผนังทึบ จึงทำให้แดดไม่ได้ส่องผ่านเข้ามาในห้องโดยตรง

เริ่มที่อาคาร A ซึ่งมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า ก็จะได้จุดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัว การจัดทางเดินภายในอาคาร ยังเป็นแบบ Single Corridor คือจะไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน รูปแบบห้องมีให้เลือกครบทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom โดย 2 Bedroom จะเป็นห้องมุมทั้งหมด (กรอบสีแดง) สำหรับคนที่อยากได้วิวส่วนกลาง ก็มีห้องขนาดเริ่มต้น 26.50 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom 44.00 – 48.00 ให้เลือกค่ะ

อาคาร B มีลักษณะเป็นรูปทรงตัว L ห้อง 2 Bedroom จะเป็นห้องมุม (กรอบสีแดง) มีเพียง 2 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น โดยจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ ส่วนที่เหลือเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีให้เลือกตั้งแต่ไซต์เริ่มต้นไปจนถึง 36 ตร.ม.เลยค่ะ สำหรับฝั่งที่ไม่ได้วิวส่วนกลาง ติดกับโครงการเป็นที่ดินเปล่า และที่พักอาศัยแนวราบ ทำให้ได้วิวแบบเปิดโล่ง

ส่วนตัวเรามองว่าจุดเด่นของแต่ละอาคาารค่อนข้างชัดเจน สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ออกจากลิฟต์ไม่อยากเดินไกล ก็จะเลือกเป็นอาคาร A แต่สำหรับใครที่ชอบใช้ Facilities โครงการ ก็เลือกเป็นอาคาร B ที่สามารถเดินขึ้นไปใช้ส่วนกลางได้ง่าย แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัว

Image 1/3
บรรยากาศโถงทางเดินภายในอาคาร A

บรรยากาศโถงทางเดินภายในอาคาร A

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคาร A

  • Lobby / Mailbox
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.5×20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมมุม Living Area
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 40 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด ขนาด 3.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร , ระบบ Jacuzzi ชั้น Rooftop
  • British Garden ชั้น 1 และชั้น Rooftop

อาคาร B

  • Lobby / Mailbox
  • Active Fitness Room
  • Changing Room
  • Steam & Sauna
  • Co – Kitchen Area
  • Co – Working Space
  • Living Area
  • Tuk Tuk Shuttle Service รับ – ส่ง BTS รัชโยธิน
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 77 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 42 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 112 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 124 คันคิดเป็น 40% (จอดซ้อนคันและ Automatic   Parking)
  • EV Charger 2 Slots
  • Free Wireless Internet ที่ Lobby และสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคาร CCTV / Key Card
  • ระบบ Bluetooth เข้า – ออกโครงการ

 

แบบห้อง

รูปแบบห้องในโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน จะมีให้เลือก 2 แบบ โดยขายเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ เข้าอยู่ได้เลย มาพร้อม Promotion ของตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้า ในราคาแพคเกจเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* พื้นที่ใช้สอยของทั้ง 2 อาคารจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ

อาคาร A

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 – 34.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 44.00 – 48.00 ตร.ม.

อาคาร B

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 – 36.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 46 ตร.ม.

วัสดุในห้อง

  • วัสดุพื้นกระเบื้องไวนิลลายไม้
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished (ชั้นวางทีวี , โซฟา 2 ที่นั่ง , โต๊ะกลาง , โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง , ตู้เสื้อผ้า , ฐานเตียง 5 ฟุตพร้อมฟูก)
  • Digital Door Lock ระบบ Finger Scan / Key Card /Application / Password / กุญแจ
  • Home Automation
  • IP Camera 1 จุด
  • สวิตช์และปลั๊กไฟ จาก ยี่ห้อ Panasonic

ห้องครัว

  • วัสดุพื้นห้องครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว
  • หน้าบานปิดผิวด้วย HPL (Semi – Glosss)
  • Hob , Hood และ Sink จาก HAFELE
  • Promotion เครื่องใช้ไฟฟ้า (ไมโครเวฟ , เครื่องซักผ้า)

ห้องน้ำ

  • วัสดุพื้นห้องน้ำ เซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ COTTO / ฝักบัวจาก Schon
  • ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน
  • Promotion เครื่องทำน้ำอุ่น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 


1 Bedroom 26.50 ตร.ม. 

จุดเด่นของรูปแบบห้องในโครงการนี้คือ แปลนห้องหน้ากว้าง ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ซึ่งพบได้น้อยกว่าแปลนแบบตอนลึก ได้ข้อดีคือพื้นที่ใช้งานเช่น Corridor ในห้องได้ขนาดมาค่อนข้างกว้าง อย่างรูปแบบที่เราจะพามาชมกันคือ ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 ตร.ม. ด้านหน้าติดกับทางเข้าเป็น Common Area ขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมนั่งเล่นวางโต๊ะตรงกลางแล้วยังเหลือทางเดินรอบๆให้ใช้งานได้สะดวก โต๊ะรับประทานอาหารวางเข้ามุมเป็นสัดส่วนอยู่ติดกับห้องครัวแบบปิดเชื่อมต่อกับระเบียง ประตูห้องนอนเป็นบานเลื่อนกระจกอยู่เยื้องกับประตูทางเข้าห้อง ติดกันเป็นห้องน้ำที่โถงด้านนอกได้ความสะดวกและเป็นส่วนตัว

เริ่มที่ประตูทางเข้า บริเวณพื้นมีการทำขอบขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยปิดรอยต่อวัสดุให้ดูเรียบร้อย และช่วยป้องกันฝุ่นผงจากด้านนอกที่จะกระเด็นเข้ามาในห้องได้ มีตาแมวและ Digital Door Lock ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

เข้ามาในห้อง จะเจอส่วนนั่งเล่นเป็นอันดับแรก ด้วยลักษณะแปลนที่เป็นหน้ากว้าง ทำให้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาถึง 2 จุด ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว ช่วยให้บรรยากาศยิ่งดูโปร่งโล่ง

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่น

พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่น

จะเห็นได้ว่าพื้นที่ด้านหน้าโซฟากว้างมาก ระยะถึงหน้าทีวีได้มาประมาณ 4 เมตร ฝั่งพื้นที่นั่งเล่นจะได้เฟอร์ลอยตัวอย่างโซฟา 2 ที่นั่งและโต๊ะกลางด้านหน้ามาด้วย ส่วนฝั่งที่ตั้งทีวีจะได้ตู้วางทีวีและโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง โดยของจริงที่ได้ในห้องมาตรฐานจะมีรูปให้ชมด้านล่างนะคะ

พื้นถึงฝ้าสูง 2.40 เมตร วัสดุพื้นเป็นไวนิลลายไม้ มีคุณสมบัติยืดหยุ่น ทนต่อความชื้นได้ดี ทำความสะอาดง่าย รอยต่อแผ่นเรียบสนิท ช่วยลดปัญหาแบคทีเรียสะสมตามร่องยาแนวได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ เพราะเป็นวัสดุที่มีการยึดเกาะดี ทำให้ไม่ลื่นเมื่อพื้นเปียก และให้สัมผัสนุ่ม สบายเท้า

Image 1/3
ส่วนนั่งเล่น จัดเป็นมุมรับประทานอาหาร

ส่วนนั่งเล่น จัดเป็นมุมรับประทานอาหาร

ห้องมาตรฐานจะได้โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว วางไว้ติดกับห้องครัว ใช้งานสะดวก ภายในห้องได้ IP Camera 1 จุด ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งมาให้พร้อมไฟดาวน์ไลท์และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย

ห้องครัวและห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ช่วยนำแสงจากภายนอกให้ส่องเข้ามาในห้องได้อย่างทั่วถึง ทำให้ดูโปร่งและกว้างมากขึ้น

ห้องครัวแบ่งฟังก์ชันเป็น 2 ฝั่ง แยกพื้นที่วางตู้เย็น และเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารใช้งานได้สะดวก โดยส่วนครัวได้เป็นแบบปิดติดระเบียง เหมาะกับคนชอบทำอาหาร ที่นอกจากจะได้พื้นที่ใช้งานเยอะแล้ว ยังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นฟุ้งกระจายอีกด้วย

Image 1/6
เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

เคาน์เตอร์ครัวได้เป็น Built – in เต็มผนังจากโครงการ ท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว หน้าบานกรุด้วย HPL สีเดียวกัน โดยโครงการติดตั้ง Hob , Hood และอ่างล้างจานจากยี่ห้อ Hafele มาให้ ด้านบนเป็นตู้เก็บของติดตั้งชั้นและหน้าบานมาเรียบร้อย พร้อมช่องใส่ไมโครเวฟ

ด้านล่างเป็นตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน มีลิ้นชักและช่องใส่เครื่องซักผ้า ใช้งานได้ภายในห้อง ไม่ต้องออกไปนอกระเบียง โดยตอนนี้โครงการก็มีโปรโมชันเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ด้วย อย่างเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ ในราคาแพคเกจ 2.39 ล้านบาท* ก็ถือว่าให้มาคุ้มค่าพอสมควรเลย

Image 1/3
เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

ห้องครัวอีกฝั่งเป็นช่องใส่ตู้เย็นกว้างประมาณ 0.71×1.73 เมตร ด้านบน Built – in เป็นตู้เก็บของเพิ่มให้อีกจุด พื้นที่ใช้งานตรงกลางกว้าง 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 เซนติเมตร ใช้งานและเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานส่วนระเบียง

พื้นที่ใช้งานส่วนระเบียง

ระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน พื้นที่ด้านนอกขนาด 0.81×1.47 เมตร พอเอาเครื่องซักผ้าไว้ด้านใน ก็ใช้งานได้แบบเต็มที่เลย จะใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง วางราวตากผ้าก็ง่าย มีก็อกน้ำติดผนังและชั้นวางติดตั้งมาให้เรียบร้อย

ห้องน้ำอยู่บริเวณส่วนนั่งเล่น แยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ชัดเจน กระจกในห้องได้มาแบบเต็มบาน ช่วยทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น

Image 1/5
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ

การตกแต่งและสุขภัณฑ์ได้มาแบบครบชุดจากยี่ห้อ COTTO เหมือนในห้องตัวอย่าง อ่างล้างมือเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ ทำให้รอบๆมีพื้นที่ให้วางของใช้เล็กๆได้ ด้านหลังยังมี Low Wall และช่องเก็บของบนผนังมาให้ เหมาะกับคนที่มีของใช้กระจุกกระจิกในห้องน้ำเยอะ

ส่วนอาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกเปลือยเป็นแบบบานเปิด มือจับใช้เป็นราวไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ โดยโครงการติดตั้งมาให้ทุกยูนิตเลย

Image 1/4
อุปกรณ์ภายในส่วนอาบน้ำ

อุปกรณ์ภายในส่วนอาบน้ำ

ฝักบัวได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จากยี่ห้อ Schon เลือกใช้งานได้ตามชอบเลย ส่วนยืนอาบได้ขนาด 0.79×0.95 เมตร บริเวณพื้นมีการทำขอบเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลออกสู่ภายนอก ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาว มีไฟดาวน์ไลท์ 2 จุด และพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้

ห้องนอนมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้เป็นสัดส่วน ภายในได้ฐานเตียงมาพร้อมฟูกนอนขนาด 5 ฟุต ด้านข้างติดกับหน้าต่างขนาดใหญ่ มีผ้าม่านมาให้ทั้งทึบและโปร่งจากโครงการ ส่วนปลายเตียงเป็นพื้นที่แต่งตัว ได้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดมาด้วย

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

ห้องตัวอย่างวางเตียงชิดกับหน้าต่างเหลือพื้นที่ด้านข้าง 18 เซนติเมตร อีกฝั่งวางตู้ข้างเตียงได้กว้างประมาณ 77 เซนติเมตร ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นแบบบานเปิด มาให้เสมอกับผนัง ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ด้านหน้าได้เต็มที่ ไม่มีมุม มีช่อง ดูเรียบร้อย

Image 1/3
ระบบ Home Automation

ระบบ Home Automation

เทคโนโลยีภายในห้องที่แถมมายังมี Home Automation ที่ได้มา 2 จุด ที่ภายในห้องนอนและส่วนนั่งเล่น ใช้ควบคุมระบบไฟภายในห้อง ส่วนสวิตช์และปลั๊กได้จากยี่ห้อ Panasonic

สำหรับภาพเฟอร์นิเจอร์จริงในห้องมาตรฐาน สามารถเลือนดู Gallery ด้านล่างได้เลยค่ะ

Image 1/7
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จากโครงการภายในห้อง 1 Bedroom

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จากโครงการภายในห้อง 1 Bedroom

 


1 Bedroom 34.26 ตร.ม.

ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 34.26 ตร.ม. ซึ่ง Layout จะแตกต่างกับขนาดเริ่มต้นชัดเจน ตั้งแต่ส่วนครัวและห้องน้ำที่จะขยับมาอยู่ด้านหน้าติดกับทางเข้า แยกพื้นที่พักผ่อนและ service เป็นสัดส่วน พื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้เรามองว่าอยู่ที่ระเบียง ที่ได้มาเป็นหน้ากว้างเท่ากับขนาดห้อง ทำให้เปิดรับลมและแสงได้แบบเต็มที่

ด้านหน้าเป็นห้องครัวแบบปิด ได้มาขนาดค่อนข้างกว้าง ฝั่งนึงเป็นเคาน์เตอร์ครัว Built – in จากโครงการ อีกฝั่งจัดเป็นมุมเก็บของวางตู้รองเท้า หรือใครอยากจะ Built – in เพิ่มแบบเต็มผนังเหมือนกับอีกฝั่ง จัดเป็นมุมเตรียมอาหารหรือตู้เก็บของเพิ่มก็สะดวกเลยค่ะ

เคาน์เตอร์ครัว Built – in จากทางโครงการได้มาแบบเต็มผนัง มีชั้นวาง ลิ้นชัก และตู้เก็บของพร้อมหน้าบานติดตั้งมาให้เรียบร้อย ด้านข้างเป็นช่องใส่ตู้เย็นขนาด 0.75×1.73 เมตร ได้อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ Hafele พร้อมเครื่องซักผ้าด้านในมาด้วย

Image 1/7
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ

ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง การตกแต่งและวัสดุก็จะเหมือนกับห้องที่แล้วเลย ภายในแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ทำความสะอาดและใช้งานได้ง่าย ติดกับอ่างล้างมือมีปลั๊กพร้อมกรอบกันน้ำมาให้ ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.80×1.11 เมตร เปิด – ปิดใช้งานประตูกระจกได้สะดวก

ส่วนนั่งเล่น ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีกว้างประมาณ 3.88 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาด 50″ ได้เลย ตรงกลางวางโซฟา Shape ตัว L ขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะด้านหน้าสบายๆ

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่น

พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่น

ติดกับส่วนนั่งเล่นเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกัน ทั้งแสงและอากาศสามารถถ่ายเทภายในห้องได้อย่างทั่วถึง

ภายในห้องนอน ตรงกลางวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ สำหรับใครที่อยากเหลือพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งไว้วางชั้นหรือตู้ข้างเตียง ด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนกระจกคู่ ที่ใช้เปิดออกไปใช้งานระเบียงด้านนอกได้ ให้ความรู้สึกเปิดโล่งและวิวที่กว้างมากขึ้น

Image 1/4
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

ปลายเตียงติดตั้งตู้เสื้อผ้ามาให้ ด้านข้างจะวางทีวีหรือจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานเลย โดยพื้นที่ปลายเตียงได้มากว้างประมาณ 1 เมตร ยืนใช้งานได้อย่างสะดวก

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

ด้านนอกเป็นระเบียงขนาดใหญ่ได้พื้นที่มา 1.02×3.80 เมตร ซึ่งถือเป็นขนาดที่กว้างเท่ากับความกว้างห้อง สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถจัดพื้นที่ระเบียงให้เป็นส่วนนั่งเล่นเพิ่มอีกจุดของห้องก็ได้นะคะ

 


2 Bedroom 44.43 ตร.ม.

Image 1/2
2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 44.43 - 44.47 ตร.ม.

2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 44.43 - 44.47 ตร.ม.

รูปแบบ 2 Bedroom ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.49 ล้านบาท ในอาคาร A จะได้เป็นห้องมุมทุกยูนิต การจัด Layout จะแตกต่างกันเล็กน้อยที่ตำแหน่งของระเบียง ส่วนในห้องตัวแปลนจะได้มาเป็นแบบกว้าง ส่วนนั่งเล่นติดกับหน้าต่าง ตรงกลางเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4 ที่นั่ง ในห้องนอนทั้ง 2 ห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ ภายในมีส่วนแต่งตัวและมุมอเนกประสงค์ รองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 2 – 4 คนได้เลย

Image 1/7
ภายในห้องมาตรฐาน : 2 Bedroom 44.43 - 44.47 ตร.ม.

ภายในห้องมาตรฐาน : 2 Bedroom 44.43 - 44.47 ตร.ม.

 


แปลนห้องพักอาศัยอาคาร B

Image 1/4
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.13 - 26.88 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.13 - 26.88 ตร.ม.

รูปแบบห้องพักอาศัยในอาคาร B จะมีห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom เหมือนกับอาคาร A เลย แตกต่างกันที่บางห้องจะปรับเปลี่ยนไปตามรูปทรงของอาคาร ซึ่งมีลักษณะเป็นตัว L แต่ฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยจะใกล้เคียงกับอาคาร A เลย

 

ราคา

ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) ราคา ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2566

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.50 – 36.00 ตร.ม.
    – ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท*
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.00 – 48.00 ตร.ม.
    – ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท*
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • มีรถ Tuk Tuk Shuttle Service รับ – ส่ง BTS รัชโยธิน
  • จอง 5,000 บาท *ฟรีทำสัญญา
  • ค่ากองทุน 250 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
  • Promotion ลงทะเบียน รับส่วนลด 200,000 บาท

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) อยู่ในทำเลเมืองโซนรัชโยธิน ที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยเสนานิคม 1 แยก 12 เชื่อมต่อถนนพหลโยธินและลาดพร้าววังหินได้ การเดินทางจัดว่าสะดวกสบาย เพราะเป็นทำเลที่สามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนนหลักได้อีกหลายสาย อาทิ ถนนงามวงศ์วาน , ถนนเกษตรนวมินทร์ , ถนนรัชดาภิเษก เข้า – ออกเมืองไปโซน CBD ได้ง่าย

มีตัวเลือกเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เลือกใช้บริการ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS รัชโยธิน นั่งไปเรียน , ทำงานหรือหาของกินได้อย่างสะดวก ใกล้โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย สำนักงาน และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของย่านอย่าง Major รัชโยธิน , Central ลาดพร้าว เหมาะกับวัยทำงานที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า อยู่ในโซนเมือง แต่มีราคาที่จับต้องง่ายค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

จัดว่าเหมาะกับทำเลในย่านนี้ทีเดียวค่ะ ด้วยทำเลที่อยู่ถัดเข้าไปในซอย การใช้รถส่วนตัวจึงค่อนข้างสะดวกกว่า ที่ตั้งของโครงการอยู่บริเวณจุดตัดระหว่าง 2 ซอย คือซอยเสนานิคม 1 แยก 12 และซอยพหลโยธิน 30 ซึ่งสามารถใช้เป็นทางลัดไปเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าวได้ง่าย โดยที่จอดรถของโครงการจัดมาให้ 40% มีทั้งแบบในร่มและด้านนอกอาคาร ซึ่งก็ถือว่าจัดมาให้ค่อนข้างเยอะสำหรับคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางโดยรถสาธารณะก็ทำได้ง่าย ด้วยทำเลโครงการที่อยู่ในเมือง จึงมีทั้งรถสองแถว แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซต์ให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้งยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS รัชโยธิน 1.2 กิโลเมตร เดินทางเข้า – ออกเมืองไปสยาม อโศก สีลม ได้ง่าย ซึ่งทางโครงการก็มีรถ Tuk Tuk Shuttle Service วิ่งรับ – ส่งที่สถานีเลย

วัสดุ :

โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอย่างเครื่องซักผ้า , ไมโครเวฟ , Hob&Hood จาก Hafele เคาน์เตอร์ได้ท็อปหินสังเคราะห์ ติดตั้งหน้าบานมาให้ดูเรียบร้อย ห้องนอนได้ฟูกนอนขนาด 5 ฟุต ผ้าม่านทึบและโปร่ง ในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์จาก COTTO พร้อมฉากกั้นอาบน้ำต เทคโนโลยีในห้องยังมี Home Automation , IP Camera และ Digital Door Lock

การออกแบบโครงการ :

การออกแบบมาในสไตล์ Modern British ได้กลิ่นอายคลาสสิคแบบอังกฤษ โครงการแบ่งเป็น 2 อาคาร ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกันชัดเจน โดยอาคาร A มีจำนวน 84 ยูนิต เน้นความเป็นส่วนตัว การออกแบบภายในได้ทางเดินแบบ Single Corridor โดยใน 1 ชั้นมีเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น อาคาร B จำนวน 225 ยูนิต รูปทรงอาคารเป็นตัว L ทางเดินเป็น Double Corridor  ซึ่งจุดเด่นของอาคารนี้ อยู่ที่สามารถเดินมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้าของอาคาร B

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

รูปแบบห้องใมีให้เลือก 2 แบบ คือ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 – 36.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 44.00 – 48.00 ตร.ม. ลักษณะแปลนได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ฟังก์ชันจัดมาให้เป็นสัดส่วน รอบๆยังเหลือพื้นที่ใช้งานได้แบบหลวมๆ ไม่อึดอัด ส่วนครัวได้เป็นแบบปิดทุกยูนิต รูปแบบห้อง 2 Bedroom ส่วนนั่งเล่นอยู่ติดหน้าต่าง ห้องนอนได้มาขนาดใหญ่ วางเตียง 5 ฟุตได้ทั้ง 2 ห้อง เทียบกับราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท* ก็จัดว่าคุ้มค่าเลยนะคะ

สาธารณูปโภค :

ส่วนกลางให้มาค่อนข้างครบเลยสำหรับคอนโด Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก รองรับได้ทั้งกิจกรรมแบบ indoor และ outdoor สระว่ายน้ำก็ได้มาถึง 2 สระ จากชั้นดาดฟ้าสามารถใช้ Sky Walk เดินเชื่อมต่อกันได้ โดย Facilities หลักจะอยู่ที่ชั้น 8 ของอาคาร B ประกอบด้วย ​Co – Kitchen , Co – Working และ Fitness ใช้งานร่วมกันได้ทั้ง 2 อาคาร ซึ่งก็จัดว่าเพียงพอต่อจำนวนยูนิตค่ะ

 


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 80,000 บาท/ตร.ม. , 19 กรกฎาคม 2566

  • ทำเล 7.75/10 – เดินทางง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – เชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายสาย
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 1.2 กิโลเมตร มีรถรับ – ส่งจากโครงการ
  • วัสดุ 8.25/10 – ให้มาค่อนข้างดี เหมาะสมกับราคา
  • แบบ 8/10 – แปลนห้องหน้ากว้าง ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – เหมาะสมกับการใช้งาน ได้สระว่ายน้ำ 2 สระ

  • MAIN CLASS
  • 7.95 / 10.00

ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน เหมาะกับใคร

โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านรัชโยธิน เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย ราคายังสามารถจับต้องได้ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ออกไปหาของกินง่าย ต้องการตึกเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ได้เฟอร์ครบ มีงบประมาณ 2 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 15,981 – 23,336 บาท / เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc