รีวิวฉบับที่ 2087 … จัดเป็นโครงการที่สร้างเสร็จรวดเร็วตามเวลามากครับ สำหรับ Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโด Low Rise 3 อาคาร ที่มีบรรยากาศภายในสวยงามน่าใช้งานมากๆ กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมไปถึงแบบห้องพักอาศัยที่จัดมาให้เลือกถึง 4 แบบ 4 ขนาด ในราคาเริ่มต้นที่ 1.44 ล้านบาท เท่านั้น ลองเข้าไปชมกันเลยครับ

ข้อมูลโครงการ

12 June 2020

  • Atmoz Chaengwattana (แอทโมซ แจ้งวัฒนะ)
  • บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถ.เลียบคลองประปา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
  • ที่ดินประมาณ 4-2-0 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 625 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิตที่อาคาร B
  • ที่จอดรถประมาณ 165 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 43%
  • Studio 20.10-21.56 ตร.ม. จำนวน 126 ยูนิต
  • 1 Bedroom 22.98-25.89 ตร.ม. จำนวน 197 ยูนิต
  • 1 Bedroom Exclusive 29.04-31.64 ตร.ม. จำนวน 187 ยูนิต
  • 1 Bedroom Plus 33.12-34.99 ตร.ม. จำนวน 115 ยูนิต
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.44 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 69,000 บาท/ตร.ม.
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-168-0000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.896856, 100.554430
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา บริเวณใกล้กับสี่แยกคลองประปาที่ตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ จัดเป็นโครงการที่อิงทำเลแจ้งวัฒนะพอสมควร ซึ่งต้องบอกว่าย่านนี้ในปัจจุบันถือว่าเป็นย่านสำคัญย่านหนึ่งของนนทบุรีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่จำนวนผู้เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ มีแหล่งงานทั้งราชการและเอกชน อาคารสำนักงาน รวมไปถึงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็จัดว่าครบครันเพราะมีห้างและร้านค้าต่างๆ

อีกทั้งทำเลโครงการก็ถือเป็นทำเลที่น่าสนใจในการเดินทางเพราะเป็นถนนที่ตัดกับถนนสายสำคัญอย่าง ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นถนนใช้เชื่อมเข้าอีกถนนหลากหลายเส้น อีกทั้งมีทางด่วนศรีรัชผ่านให้เลือกใช้งานได้เช่นกัน

ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกไม่นานก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านบนถนนแจ้งวัฒนะ จะช่วยให้การเดินทางของคนจากทางฝั่งนี้เข้า-ออกเมืองและเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการจะอยู่ระหว่าง สถานีศรีรัช และสถานีแจ้งวัฒนะ 14 แต่ระยะห่างยังยังไม่ชัดเจนนะครับ ต้องดูตำแหน่งสถานีพร้อมขาขึ้น-ลงอีกที หากวางตำแหน่งดูคร่าวๆจะอยู่ห่างจากโครงการไปราวๆ 700 ม.-1 กม.

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ในระยะเดินจะมีร้านค้าและร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ และโรงแรม บนถนนเลียบคลองประปา ทำให้สามารถมาฝากท้องกันได้ง่ายๆ เดินออกจากตัวโครงการไม่กี่เมตรเท่านั้น ส่วนสถานที่สำคัญอิงไปบนถนนแจ้งวัฒนะ ที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนย่านนี้หลักๆเลยก็จะมีศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประจำย่าน นอกจากนั้นยังมี Big C, Lotus, The Avenue, แม็คโคร และ IT Square ค่อนข้างครบครันนะ และก็ยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองทองธานี ซึ่งเป็น Hub ของคนในย่านนี้ ภายในมีทั้งศูนย์แสดงสินค้าและสถานที่จัดคอนเสิร์ตอีกด้วย

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางไปโครงการ ก็จะใช้เส้นทางมาตรฐานนะครับ เริ่มต้นกันที่บริเวณบนถนนพหลโยธินช่วงใกล้วงเวียนหลักสี่ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าตรงไปบริเวณสี่แยกคลองประปา จุดตัดกับถนนเลียบคลองประปา ตรงมาอีกหน่อยเพื่อเตรียมกลับรถ และกลับรถมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบคลองประปา จากนั้นตรงมาเพียง 80 ม. ก็จะเห็นที่ตั้งโครงการแล้ว

Image 1/11
เริ่มต้นกันที่บริเวณวงเวียนหลักสี่ ซึ่งแยกนี้ในอนาคตอันใกล้ก็จะเป็นจุด Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ

เริ่มต้นกันที่บริเวณวงเวียนหลักสี่ ซึ่งแยกนี้ในอนาคตอันใกล้ก็จะเป็นจุด Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ตัวโครงการมีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่กว่าๆ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา ภายในโครงการแบ่งออกเป็น 3 อาคาร โดยจะมีทั้งหมด 8 ชั้น มีพื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่ตรงกลางพื้นที่โครงการ และกระจายกันไปตามพื้นที่ชั้น 2 ของแต่ละอาคาร ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ง่าย และแบ่งการใช้งานออกเป็นหลายจุด ไม่หนาแน่นจนเกินไป

ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะเห็นว่ามีห้องพักอาศัยที่หันออกไปทุกทิศทั้งภายในและภายนอกโครงการเลย ซึ่งส่วนของภายในโครงการจะไม่ต่างกันมากนัก เพราะจะเป็นวิวพื้นที่ส่วนกลาง และแนวอาคารฝั่งตรงข้าม ส่วนวิวภายนอกแต่ละฝั่งจะมีบริบทที่แตกต่างกันพอสมควร ลองไปดูกันแต่ละฝั่งเลยครับ

ทิศเหนือ – ภายในโครงการจะเป็นวิวของอาคาร B ที่หันเข้าด้านในนี้ครับ จะได้เป็นวิวพื้นที่ส่วนกลาง และแนวอาคาร A ทางฝั่งตรงข้ามและทางขวามือ ส่วนทางซ้ายจะเป็นอาคาร C / วิวภายนอกโครงการจะเป็นอาคาร C และ A ซึ่ง ฝั่งนี้จะได้วิวค่อนข้างโล่ง เพราะไม่ได้มีอาคารสูงมาบังทางฝั่งนี้ แต่จะมีเสาไฟฟ้าแรงสูงทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือเล็กน้อย (มีผลกับอาคาร C มากกว่าอาคาร A) ซึ่งเอาจริงๆแล้วก็ไม่ได้ดูน่ากลัวขนาดนั้นนะครับ เพราะมีระยะห่างและความสูงกว่าตัวอาคารของเราพอสมควร

ทิศตะวันออก – เป็นทิศที่รับแดดตอนช่วงเช้า ภายในโครงการจะเป็นวิวของอาคาร C ที่หันเข้าพื้นที่ส่วนกลาง และเห็นแนวอาคาร A ซึ่งจะเป็นทางฝั่งทางเข้าออกของโครงการอยู่ตรงข้าม โดยจะมีแนวอาคาร C และ A ทางฝั่งซ้าย และอาคาร B ทางฝั่งขวาครับ / ส่วนวิวภายนอกโครงการจะเป็นของอาคาร A หลักๆเลย หันไปทางคลองประปา มองเห็นวิวค่อนข้างโล่ง ในระยะใกล้จะเป็นถนนหน้าโครงการ ชั้นล่างๆอาจจะได้ผลกระทบเรื่องเสียงของรถวิ่งไปมาบ้างเล็กน้อย ส่วนชั้นบนจะมองเห็น Tesco Lotus ฝั่งตรงข้ามครับ

ทิศใต้ – ภายในโครงการจะเป็นวิวของอาคาร A, C ที่หันเข้าพื้นที่ส่วนกลาง และเห็นแนวอาคาร B อยู่ตรงข้าม โดยจะมีแนวอาคาร C และ A ทางฝั่งซ้ายและขวา / วิวภายนอกฝั่งนี้จะเป็นของอาคาร B จะได้วิวเป็นโครงการ High Rise เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งเรียกว่าเป็นฝั่งเดียวที่โดนบล็อควิวก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ได้บล็อคทั้งหมดขนาดนั้นนะครับ มีบางส่วนของอาคาร B ที่ไม่โดนบังวิวเหมือนกัน แถมยังมีระยะห่างที่เป็นช่องลมให้ตรงนี้พอสมควร

ทิศตะวันตก – เป็นทิศรับแดดทางช่วงบ่าย ซึ่งจะทำให้ห้องพักอาศัยทางฝั่งนี้ร้อนหน่อย ภายในโครงการจะเป็นวิวของอาคาร A ที่หันเข้าพื้นที่ส่วนกลาง และเห็นแนวอาคาร C อยู่ตรงข้าม โดยจะมีแนวอาคาร B และ A ทางฝั่งซ้ายและขวา / ส่วนวิวภายนอกโครงการจะเป็นของอาคาร C ที่หันไปทางทิศตะวันตก จะมองเห็นโครงการ High Rise เพื่อนบ้านอีกโครงการ แต่ไม่ได้ใกล้เท่ากับทางฝั่งทิศใต้ มีมุมมองที่โล่งเยอะเหมือนกัน วิวฝั่งนี้จะเห็นเสาไฟฟ้าแรงสูงด้วย แต่อย่างที่บอกไปว่าไม่ได้ดูน่ากลัวนักนะครับ

เราลองเดินไปดูทางฝั่งแยกคลองประปาที่เรามากันก่อนนะครับ จะมีแนวทางเดินริมถนนยกระดับไว้ให้ ซึ่งจะเป็นแนวเดียวกับเสาไฟฟ้าครับ

ด้านหน้าโครงการจะมีคลองเล็กๆยาวตามแนวถนน เป็นคลองระบายน้ำนิ่งตามที่เห็นในรูปนะครับ

แนวทางเดินด้านข้างก็มีปูกระเบื้องปิดผิวพื้นไว้ให้เรียบร้อย

ตรงนี้จะมองเห็นอาคารเพื่อนบ้านของเรา โครงการกรีนเน่คอนโด สูง 22 ชั้น ครับ

ซึ่งจริงๆมีระยะห่างจากโครงการเราพอสมควรนะครับ ไม่ได้ชิดขนาดนั้น

ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นถนนเลียบคลองประปาครับ มีรถวิ่งไปมาตลอด รอแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซต์ง่ายเหมือนกัน

ลองเดินไปดูอีกฝั่งกันบ้างครับ สังเกตทางฝั่งหน้าโครงการจะมีการตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวที่มีการดูแลรักษาค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว ทางฝั่งแนวทางเดินก็มีต้นไม้ปลูกให้เป็นระยะๆ

แต่บางต้นก็ใหญ่ไปหน่อย ทำให้แนวทางเดินนี้อาจจะเหลือพื้นที่ทางเดินแคบไปหน่อย ตอนกลางคืนก็อันตรายเหมือนกันนะครับ ส่วนตัวอยากให้มีแนวรั้วกั้นระหว่างทางเดินกับคลอง จะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและน่าเดินขึ้นอีกเยอะเลยครับ

เดินออกมานิดเดียว จะมีพื้นที่ที่รวมร้านอาหาร และคาเฟ่ที่หลากหลายไว้ภายใน เดินมากินกันง่ายๆ ไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น

ภายในมีทั้งร้านก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง อาหารญี่ปุ่น ร้านกาแฟ บาร์ ร้านตัดผมครับ

เข้ามาภายในก็จะเห็นว่าเป็นอาคารที่รวมหลายๆร้านไว้ด้วยกัน มีพื้นที่จอดรถให้ด้วย

ไหน ๆ ก็มาแล้วผมเลยต้องลองชิมกันซักหน่อย จะได้มาแนะนำเพื่อน ๆ ได้ถูกนะ ผมทานข้าวราดกระเพราเนื้อ + ไข่ดาว ราคา 60 บาท ก็ถือว่ากำลังโอเคเลย มีน้ำซุปให้ด้วยนะครับ ปริมาณก็ถือว่าไม่มากไม่น้อย กำลังพอดีอิ่ม มีเมนูอื่นๆให้เลือกอีกด้วยนะครับ ตอนกลางคืนก็มีบาร์ให้มานั่งผ่อนคลายกันด้วย ส่วนกาแฟและชาต่างๆ ก็เริ่มต้นที่ประมาณ 55-60 บาท ครับ

ลองเดินกันต่อไปอีกหน่อยครับ จะมีแนวทางเดินเหมือนเดิมเลย

เดินถัดมาจะมีลักษณะพื้นที่คล้ายๆกันอีกจุด ซึ่งจะเป็นพวกร้านชาบู ซูชิ บาร์ รวมไปถึงโรงแรม

ถัดมาอีกก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นอีกร้านครับ มีบาร์ให้เลือกอีกด้วย

เดินมาอีกล็อคนึงจะเป็นร้านซูชิอีกร้านครับ ตอนแรกผมก็นึกว่าเลียบคลองประปาตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่นไปแล้วรึป่าว เพราะแอบงงเหมือนกันว่าทำไมมีร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิเยอะขนาดนี้  ฮ่า ๆ ซึ่งสำหรับใครที่ชอบทานก็น่าจะเป็นเรื่องดีเลย เพราะมีตัวเลือกให้เยอะเลยทีเดียวครับ

ลองขึ้นมาดูวิวบนตึกกันบ้างครับ แต่จะเข้าได้เพียงแค่บางฝั่งเท่านั้นเพราะห้องพักอาศัยบางส่วนไม่สามารถเข้าได้แล้วนะครับ

เริ่มที่ฝั่งแรกเลยเป็นวิวจากชั้น 8 ทางทิศเหนือของอาคาร A จะมองเห็นคลองประปาครับ สังเกตได้ว่าจะค่อนข้างมีระยะห่างจากถนนเหมือนกันนะครับ จะเห็นเป็นวิวกว้างซะมากกว่า

ยังอยู่ที่ชั้น 8 ของอาคาร A นะครับ เป็นทิศตะวันออกฝั่งหน้าโครงการ จะมองเห็นถนนเลียบคลองประปา คลองประปา และ Tesco Lotus ฝั่งตรงข้าม เป็นวิวโล่งดีเหมือนกันครับ

ขยับมาที่ชั้น 8 ของอาคาร C ฝั่งทิศเหนือ จะโล่งคล้ายๆกับวิวทิศเหนือของอาคาร A เมื่อสักครู่ แต่จะไม่ค่อยเห็นถนนเลียบคลองแล้ว และทางฝั่งซ้ายมือที่เป็นทิศตะวันตก จะมีแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงตั้งอยู่ครับ

ย้ายมาที่ชั้น 8 ของอาคาร B กันบ้างครับ ฝั่งที่มองไปเห็นโครงการกรีนเน่คอนโด สูง 22 ชั้น ด้วยแนวอาคารเพื่อนบ้านของเราไม่ได้เป็นแนวตามเหมือนอาคาร B จึงทำให้วิวฝั่งนี้ไม่ได้โดนบล็อคทั้งหมดซะทีเดียว จะได้วิวด้านข้างอยู่ด้วยเช่นกันครับ

ส่วนวิวภายในโครงการของแต่ละอาคารจะไม่ต่างกันมากครับ เพราะเป็นแนวอาคารที่มีพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางและล้อมรอบด้วยอาคารครบทั้ง 4 ด้านเช่นกันหมด จัดเป็นวิวที่สวยงามเหมือนกันนะครับ อีกทั้งพื้นที่ตรงกลางก็ค่อนข้างกว้าง ทำให้ระยะห่างแต่ละอาคารไม่ได้ชิดกันมากนักครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ ~ 400 m.
  • บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ ~ 900 m.
  • Major Cineplex แจ้งวัฒนะ ~ 1 km.
  • Makro แจ้งวัฒนะ ~ 1.4 km.
  • ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ~ 1.9 km.
  • มหาวิทยาลัยสุโขทัย ~ 2.9 km.
  • Software Park ~ 3 km.
  • เมืองทองธานี ~ 3 km.
  • สถาบันการจัดการ ปัญญาภิวัฒน์ ~ 3.3 km.
  • เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ~ 3.5 km.
  • โรงพยาบาล เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ ~ 4 km.
  • โฮมโปรแจ้งวัฒนะ ~ 5.2 km.

รายละเอียดโครงการ

เรามาดูในส่วน Master plan กันก่อนเลยครับ สำหรับชั้นล่างสุดของแต่ละอาคารนั้นทางโครงการจัดให้เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดเลย โดยจะสามารถจอดได้ทั้งหมดทุกช่อง ไม่ได้แยกอาคาร ภายในจะเป็นการเดินรถทางเดียวทั้งหมด เริ่มจากเข้ามาแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าอาคาร B วนไปทางอาคาร C และ วนกลับมาที่อาคาร A ก่อนจะออกจากโครงการ ซึ่งแต่ละอาคารก็จะได้ความได้เปรียบในการจอดรถแตกต่างกันไป เช่น ใครที่อาศัยในอาคาร B จะเข้ามาแล้วจอดใต้อาคารและขึ้นได้ง่าย แต่ถ้าหากที่จอดรถใต้อาคาร B เต็ม อาจจะต้องวนเข้าไปที่อาคารอื่น และขึ้นอาคารยากหน่อย ส่วนใครที่อาศัยอยู่บนอาคาร C ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ตรงกลางพื้นที่ ทำให้ไม่ว่าจะจอดรถตรงไหนก็ไม่ต้องเดินไกลนัก ส่วนใครที่อาศัยอยู่ที่อาคาร A ที่อยู่ตรงช่วงสุดท้ายของการวนรถในพื้นที่จอดรถโครงการ ทำให้สามารถเลือกจอดได้เยอะ และถ้าได้จอดใต้อาคาร A ก็จะสามารถออกโครงการได้ง่าย

ส่วนพื้นที่ตรงกลางของโครงการเป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยที่จอดรถนั้นให้มาอยู่ที่ 43% รวมซ้อนคัน คิดในแง่ของการเดินทางแล้ว ส่วนตัวผมมองว่าที่จอดรถอาจจะน้อยไปสักหน่อยถ้ามองจากทำเลที่ตั้งโครงการที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวซะมากกว่า แต่หากรถไฟฟ้าสายสีชมพูสร้างเสร็จได้ใช้งาน ก็มีตัวเลือกในการเดินทางที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น แถมยังพอจะลดกลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้รถภายในโครงการได้น้อยลงไป แต่ละอาคารจะมีโถงลิฟต์และบันไดหนีไฟให้ขึ้นไปจากพื้นที่จอดรถได้ง่ายด้วย

ตัวอาคารจะอยู่หลังคลองนะครับ ต้องข้ามสะพานจากถนนเลียบคลองประปาเข้าไป ซึ่งเขาก็ทำทางเข้าออกเป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย พร้อมแนวทางเดินด้านข้างให้ ถือว่าสะดวกและปลอดภัยครับ สำหรับเดินออกมาภายนอก เพราะด้านข้างโครงการก็มีแหล่งของกินให้ออกมาฝากท้องกันได้ง่ายๆเหมือนกัน

เมื่อข้ามสะพานเข้ามาจะเจอกับแนวถนนที่ปิดผิวด้วยคอนกรีตพิมพ์ลายยาวต่อเข้ามาภายในโครงการครับ ส่วนด้านหน้าสุดจะเป็นอาคาร B และมีป้อมรปภ.คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

เข้าออกโครงการด้วยรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ ด้วยระบบ Keycard Access แบบ Easy Pass แยกทางเข้าและทางออกชัดเจน มี CCTV ให้ด้วยทั้งทางเข้าและทางออก พร้อมป้อม รปภ. อยู่ทางฝั่งซ้ายมือใต้อาคาร B ครับ

เมื่อเข้ามาจะบังคับเลี้ยวซ้ายเข้าใต้อาคาร B ครับ จากนั้นก็วนรถทางเดียวไปเรื่อยๆเลย

พื้นที่ใต้อาคารเป็นที่จอดรถทั้ง 3 อาคารแบบที่บอกไป ข้อดีคือได้ช่องแสงทั้งสองฝั่งครับ ทำให้ช่วยให้ปลอดภัย แถมยังเป็นช่องลมช่วยให้เกิดการไหลเวียนของลมได้ดี แถมยังช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวันด้วย ซึ่งจะไปมีผลกับค่าส่วนกลางด้วยครับ

ย้อนกลับออกมาดูที่ตัวอาคารกัน เราไปดูพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้กันเลยดีกว่า

สำหรับชั้น 2 นี้จะมีทั้งส่วน Facilities และห้องพักอาศัย โดยสำหรับ Facilities ของอาคาร A และ B จะเน้นอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ จะเป็นพวกพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาสำหรับเป็นพื้นที่ต้อนรับ หรือจุดนัดพบของลูกบ้านกับ Visitor ได้ ประกอบด้วย ส่วน Lobby, Meeting Room, Library, Co-Working Space และ Shop ในขณะที่ Facilities บริเวณอาคาร C ที่อยู่ด้านในของโครงการจะเน้นเป็น Facilities สำหรับลูกบ้านใช้งานโดยเฉพาะ อย่างสระว่ายน้ำ, Fitness และ Co-Kitchen ก็จะเป็นพวก Facilities ที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ

แต่ละอาคารจะมีโถงลิฟต์ 1 จุด มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และบันไดหนีไฟ 2 จุด ในส่วนการจัดวางผังโดยรวมแล้วลงตัวดี มีเพียงอาคาร B ที่วางตำแหน่งลิฟต์ค่อนไปทางด้านหน้าอาคาร ทำให้โซนห้องฝั่งด้านหลังจะเดินไกลหน่อย แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่วุ่นวายเท่าช่วงใกล้โถงลิฟต์ ส่วนอาคาร C, A จะวางตำแหน่งโถงลิฟต์ไว้กลางอาคาร ทำให้เข้าถึงง่ายจากทุกพื้นที่ ส่วนแนวทางเดินจะเป็น Single Corridor และเปิดช่องแสงที่ปลายแนวทางเดินทุกอาคาร พื้นที่พักอาศัยของชั้นนี้จะเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิต/อาคาร น้อยที่สุด และถูกแบ่งกั้นสัดส่วนแยกออกจากพื้นที่ส่วนกลางไว้เป็นอย่างดี ไม่มีการรบกวนกัน สำหรับวิวพื้นที่ห้องพักอาศัยที่หันออกภายนอกโครงการของชั้นนี้จะไม่ได้รับวิวมากนัก จะเป็นสวนรอบโครงการและรั้วโครงการ ส่วนห้องที่หันเข้าภายในโครงการ ก็จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลาง แต่แต่อาจได้ยินเสียงเวลาคนใช้ส่วนกลางสระว่ายน้ำในบางช่วงเวลาบ้างนะครับส่วนรายละเอียดเรื่องประเภทห้องจะไปลงในชั้น Typical Floor Plan (4-8) อีกทีนะครับ

มาดูที่อาคาร B ก่อนเลยครับ เป็นส่วนแนว Corridor ยาว ที่มีห้องพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านข้างครับ เข้าไปดูทีละห้องกันเลย

ภายในจะเป็นส่วน Lobby ที่เป็นพื้นที่รับรองของโครงการครับ สามารถนัดเพื่อนมาพบ หรือพักคอยก็ได้ ปัจจุบันจะเป็นพื้นที่ Sale Gallery นะครับ ภายในจะมี Laundry ให้ใช้บริการด้วยครับ

ด้านในเป็นแนวทางเดินยาว รับวิวสวนส่วนกลาง ส่วนด้านข้างเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของอาคาร B ครับ

บรรยากาศสวนส่วนกลางจากมุมนี้ก็จะประมาณนี้นะครับ นี่ขนาดต้นไม้เพิ่งลง ยังไม่โตมาก ก็ดูเขียวไปทั่วแล้ว ต่อไปต้นไม้โตกว่านี้น่าจะยิ่งให้บรรยากาศที่ร่มรื่นกว่านี้อีกเยอะเลย

เข้ามาดูพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร B กันต่อเลย ห้องแรกของช่วงนี้จะเป็นห้อง Library นะครับ ภายในจะจัดมาให้หลายมุม จะมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือพักผ่อนในมุมเงียบๆก็ได้เลย

มีมุมที่นั่งรับวิวสวนให้ด้วย พร้อมประตูด้านข้างที่เชื่อมไปยังห้อง Meeting Room เป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ กดปุ่มด้านข้างครับ

เข้ามาจะเป็นโซนที่มีความสงบยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยแนวโต๊ะประชุมใหญ่ตรงกลาง ด้านในแยกพื้นที่ออกเป็นหลายส่วน ลองไปดูกัน

มีมุมที่แบ่งความเป็นส่วนตัวย่อยๆไว้ให้ด้านใน ซึ่งจะเหมาะกับการคุยกันกลุ่มเล็กลงหน่อย

หรือจะเป็นมุมนั่งสบายๆ ที่ริมหน้าต่างรับวิวสวนก็ได้ เป็นแสงสว่างและสร้างบรรยากาศให้กับห้องนี้ได้อย่างดี

หลังจากหมดพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร B แล้ว เรามาต่อกันที่อาคาร A เลยครับ

ด้านล่างจะเป็นพื้นที่จอดรถเช่นกัน เปิดพื้นที่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งรับแสงและลมได้เยอะเช่นเดิม

ที่พื้นที่จอดรถใต้อาคารทุกอาคารจะมีโถงลิฟต์ให้เชื่อมขึ้นไปด้านบนได้ง่ายเลย มีส่วนของ Mail Box ให้ด้วยครับ สะดวกดี

นอกจากจะเชื่อมกับพื้นด้านบนได้ง่าย ส่วนของที่จอดรถก็ยังสามารถเข้าส่วนของสวนสาธารณะส่วนกลางได้เช่นกัน แต่เราเดินขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร A กันก่อนครับ

เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอพื้นที่ Semi-Outdoor เหมือนระเบียงหน้าโครงการครับ จะเห็นรถที่เข้าออกโครงการและหน้าโครงการ เห็นพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร B และเห็นพื้นที่ภายในโครงการด้วย ดังนั้นพื้นที่นี้จึงเหมาะกับการเป็นระเบียงรับรองและร้านค้าของโครงการนั่นเองครับ

พื้นที่ส่วนนี้จะเป็น Shop ของโครงการครับ ที่จะเปิดขายพื้นที่ให้กับลูกบ้าน 1 ยูนิต ส่วนด้านข้างจะเป็นห้อง Cool Shop ส่วนของห้องที่วางตู้หยอดเหรียญไว้ภายในเปิดให้ใช้งานได้ง่าย และสะดวกครับ

พร้อมพื้นที่รับรองด้านข้างที่ใช้เป็นส่วนรับรอง นัดพบ พักคอย รับลมชมบรรยากาศรอบๆได้ดีทีเดียว

ส่วนด้านในห้องจะมี Meeting Room ให้อีกห้องครับ สำหรับอาคาร A เปิดรับช่องแสงด้านหน้าโครงการวิวคลองประปาครับ

ลงมาจากพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร A แล้ว เราไปดูสวนส่วนกลางกันต่อเลยครับ

ภายในจะมีแนวทางเดินให้รอบๆสวน มีต้นไม้ปลูกค่อนข้างเต็มพื้นที่ ภายในแยกพื้นที่พักผ่อนออกเป็นหลายจุด

Landscape ถูกจัดออกมาค่อนข้างสวยงามเลยครับ มีแนวทางเดินที่แบ่งพื้นที่สวนออกเป็นหลายส่วนครับ

มีทั้งส่วน Kid’s Forest Playground สนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก, สวนเล่นระดับ, Amphitheatre พื้นที่หลายระดับสำหรับนั่งเล่น, ศาลาพักคอย, พื้นที่พักคอยมุมต่างๆ

นอกจากนั้นยังมีทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังส่วนสระว่ายน้ำ และพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร C อีกด้วยครับ ลองเดินขึ้นไปดูกันนะ

ส่วนตัวผมชอบบริเวณนี้เป็นพิเศษเลย เขาออกแบบแนวทางเดินซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดที่เชื่อมต่อระหว่างสระว่ายน้ำและสวนได้ดี โดยออกแบบให้เป็น free form เข้ากับส่วนดีไซน์ของสวนและสระว่ายน้ำ แถมยังเจาะช่องลมด้านข้างให้มีการไหลเวียนอากาศได้ดีด้วย

เมื่อขึ้นมาจะเจอกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่รูปทรง Free Form ขนาด 27 x 13 เมตร ซึ่งเป็นระยะ Half-Olympic เลยนะครับ เป็นสระที่มีจุดเด่นตรงที่ได้วิวสวนด้านล่างและรอบๆ มีพื้นที่ริมสระให้พักผ่อนด้วย แต่ด้วยความที่เป็นสระกลางแจ้งจึงทำให้อาจจะร้อนหน่อย และเหมาะกับการใช้งานในช่วงเวลาเช้าๆ-เย็นๆ ซะมากกว่า โดยเขาเลือกตั้งไว้หน้าอาคาร C ซึ่งจะได้แนวอาคาร C ช่วยบังแดดช่วงบ่ายทางฝั่งทิศตะวันตกให้ด้วยครับ

ภายในสระก็แยกพื้นที่ออกมาหลายส่วนเช่นกัน ทั้งมีแนวยาวไว้ออกกำลังกาย มีส่วนสำหรับนอน/นั่ง แช่พักผ่อน และแยกสระเด็กภายในให้ด้วย

แถมด้านข้างเขาให้พื้นที่ริมสระมาด้วยสำหรับให้ผู้ติดตามมาพักคอย หรือใครไม่อยากว่ายน้ำก็มานั่งพักผ่อนก็ได้ครับ

ด้านข้างจะมีแนวอาคาร C ซึ่งมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ภายในด้วย

เข้ามาดูกันเลย ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องออกกำลังกาย ซึ่งความพิเศษของห้องออกกำลังกายที่นี่ เขาจะมีห้อง Health Center ที่มีอุปกรณ์ Tytocare ที่เป็นนวัตกรรมที่รวมชุดอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้น สามารถใช้งานได้ง่าย เพื่อส่งข้อมูลให้แก่คุณหมอที่ให้คำปรึกษาออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถให้เราติดต่อกับแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องสุขภาพได้โดยตรงเลย

มีห้องแยกสำหรับเป็นเตียงรับรองด้วย สามารถไว้ใช้เป็นห้องพยาบาลในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุเบื้องต้นได้ด้วย

Fitness ติดกับสระว่ายน้ำ วิ่งออกกำลังกายไปก็ได้วิวสระว่ายน้ำและสวนได้ ภายในจัดให้มีมุมทั้งแบบ Active, Weight Training ในพื้นที่ค่อนข้างโล่ง ไม่อึดอัด

สำหรับอุปกรณ์ Cardio จะรับวิวสระและสวนประมาณนี้ครับ ค่อนข้างโล่งเลย

ส่วนด้านในจะมีส่วนอุปกรณ์ Weight Training ที่มาพร้อมแนวกระจกเงาขนาดใหญ่ เหมือนพวกห้องออกกำลังกายชั้นนำต่างๆ

นอกจากนั้นส่วนด้านข้างจะเชื่อมต่อกับ Lobby ทำหน้าที่เป็นเหมือน พื้นที่รับรองหลักของอาคารนี้ครับ ภายในจัดพื้นที่รับรองให้เยอะเลย มีหลายมุมให้เลือกพักผ่อน

และก็ไม่ลืมพื้นที่ริมกระจกที่ติดกับสระว่ายน้ำและรับวิวสวนด้วยครับ

ภายในจะมีส่วนของ Co-Kitchen ให้ด้วย ส่วนนี้เราสามารถใช้งานได้ทุกส่วนเลย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือถ้าอยากได้แบบส่วนตัวก็สามารถจองกับนิติบุคคลได้ด้วยครับ

ถัดมาจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนของห้องพักอาศัย ด้านข้างมีห้องน้ำที่แยกชายหญิงไว้ให้ด้วย สำหรับใช้งานคู่กับสระว่ายน้ำได้ง่ายเลย

ภายในก็เป็นห้องขนาดกลาง ใช้งานได้ร่วมกันหลายคนนะครับ

กระโดดขึ้นมาที่ชั้น 8 ของอาคาร A กันครับ เพราะยังมีพื้นที่ส่วนกลางของโครงการเหลืออยู่อีก ไปดูชั้นดาดฟ้ากันเลยครับ

ชั้น Roof Top เฉพาะของอาคาร A ได้มีการจัดฟังก์ชันให้ใช้งานเป็น Excercise Lawn Area ไว้เดินเล่น สูดอากาศและชมวิวมุมสูงได้ แถมยังมีพื้นที่พักผ่อนให้หลายมุมเลย

เขาจัดไว้ค่อนข้างสวยเลยครับ โดยหญ้าที่ใช้จะเป็นพื้นหญ้าเทียม ซึ่งจะดูแลง่ายหน่อย แต่ต้นไม้รอบๆเป็นของจริงนะครับ

ที่ผมชอบคือขนาดพื้นที่ด้านบนนี้จริงๆแล้วไม่ได้ใหญ่มากนะครับ แต่เขาจัดพื้นที่พื้นที่ด้านบนนี้ไว้เป็นมุมพักผ่อนที่ค่อนข้างหลากหลายเลย ทำให้เวลาหลายๆกลุ่ม หรือหลายๆท่านสามารถใช้งานร่วมกันได้โดยไม่รบกวนกัน แถมยังมีพื้นที่ให้เลือกเปลี่ยนบรรยากาศที่หลากหลายมุมด้วย

ก่อนอื่นเลยครับแต่ละอาคารจะมีโถงลิฟต์ 1 จุด มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และบันไดหนีไฟ 2 จุด แนวทางเดินเป็น Single Corridor และเปิดช่องแสงที่ปลายแนวทางเดิน เช่นเดียวกันกับชั้น 2 ชั้น โดยชั้น 3 นี้จะเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตน้อยรองลงมาจากชั้น 2 เพราะห้องพักอาศัยบางส่วนของห้องนี้จะหายไปเนื่องจากเป็นพื้นที่ Double Volume ของพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ครับ

  • อาคาร A : จะมีทั้งหมด 23 ยูนิต/ชั้น ตัวอาคารอยู่ด้านหน้าโครงการ หากเทียบกันแล้วในระหว่างอาคาร B และ C อาคารนี้จะสามารถเดินเข้าออกง่ายที่สุด และตำแหน่งห้องที่หันไปทางทิศเหนือก็จัดเป็นทิศไม่โดนแดดแรงในช่วงบ่าย รวมไปถึงสภาพแวดล้อมทิศนี้ไม่ติดกับอาคารสูง ดังนั้นถ้าเลือกห้องชั้น 4 ขึ้นไปก็จะได้วิวที่โปร่งโล่งนะครับ ส่วนทิศตะวันออกก็ยังน่าสนใจ เพราะได้วิวโล่งทางฝั่งคลองประปาที่การันตีได้ว่าไม่มีอาคารขึ้นในระยะประชิดแน่นอน อย่างเก่งก็คงขึ้นฝั่งข้างโลตัส ซึ่งก็มีระยะห่างพอสมควรครับ
  •  อาคาร B : จะมีทั้งหมด 26 ยูนิต/ชั้น ตัวอาคารอยู่ตำแหน่งหน้าโครงการเช่นกัน แต่หันไปทางทิศใต้สำหรับห้องฝั่งด้านนอกนะครับ ทั้งนี้จะไม่ใช่ประเด็นเรื่องแดดนะที่เป็นจุดที่ควรพิจารณา เพราะห้องบางส่วนจะได้โครงการข้างเคียงช่วยบังแดดให้ แต่อาจจะเป็นเรื่องวิวมากกว่าที่ไม่ได้โปร่งโล่งเท่ากับอาคาร A ทางทิศเหนือนะ แต่สำหรับห้องที่หันเข้าด้านในจะเป็นห้องที่หันไปทางทิศเหนือ ไม่โดนแดดช่วงบ่าย และได้วิวดีทีเดียวเพราะหันเข้า Main Facilities​ โดยตรงด้วย
  • อาคาร C : จะมีทั้งหมด 25 ยูนิต/ชั้น เป็นอาคารที่อยู่ด้านในโครงการมากที่สุด อาจจะไม่ได้ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการขนาดนั้น แต่แลกมากับความสงบมากกว่า เพราะไม่ต้องมีรถผ่านไปมาใกล้ๆอาคาร และชั้นล่างอาคารวางตำแหน่ง Main Facilities ไว้ให้ เช่น Fitness, Co-Kitchen และ ติดสระว่ายน้ำอีกด้วย ทำให้คนที่เลือกอาคารนี้ใช้งาน Facilities​ ได้สะดวกดีครับ วิวทางฝั่งทิศตะวันตกจะได้วิวค่อนข้างโล่ง มีแนวอาคาร 24 ชั้นให้เห็นบ้าง แต่ไม่ได้บังวิวอะไร แต่ที่จะเป็นปัญหาหน่อยคงจะเป็นเสาไฟฟ้าแรงสูงครับ ที่ทำให้วิวด้านนี้ดูไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่จริงๆก็มีระยะและความสูงที่ค่อนข้างห่างเหมือนกัน

มาถึงชั้น Typical Floor Plan กันครับ จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดของแต่ละอาคาร A = 29 ยูนิต และอาคาร B, C อยู่ที่ 33 ยูนิต ความหนาแน่นโดยรวมถือว่าใกล้เคียงกันครับ

โดยลักษณะการวางห้องของแต่ละอาคารจะคล้ายกัน จะวางแต่ละประเภทห้องคละกันไปโดยเน้นห้องไซส์ใหญ่อยู่ด้านในเพื่อให้ได้วิวพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนห้องไซส์เล็กลงมาจะอยู่ฝั่งด้านนอกโครงการนะครับ แต่ละ โดยเฉพาะอาคาร C ที่จัดห้อง Studio ขนาด 20.10-21.56 ตร.ม. ไว้ทางฝั่งทิศตะวันตกซึ่งเป็นวิวภายนอกโครงการทั้งแนวเลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Secret Garden
  • O2 Jogging Track
  • Seat & Sooth
  • The Oasis Pool (สระว่ายน้ำ)
  • Waterfall Kids Pool
  • Dining Terrace
  • Relax On The Roof
  • Lifebrary (Library)
  • Co-Creative Space
  • Adaptable Meeting Room
  • Tasty2party Space
  • Adaptive Function Room เช่น
    -ห้อง Co-Kitchen สามารถเปลี่ยนเป็น Party Room ได้
    -โต๊ะห้อง meeting room และ library สามารถปรับแยกเป็นแบบกลุ่ม,แบบคู่ หรือแบบเดี่ยว
  • Shop ภายในโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 104.16 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 43% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card

แบบห้อง

Product ของโครงการนี้มีหลากหลายขนาดเลยนะครับ แต่จะเน้นไปที่ห้องขนาดกะทัดรัดตั้งแต่ Studio 20.10 ตร.ม. ถึงห้องใหญ่สุดอย่าง 1 Bedroom Plus 34.99 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished พร้อม Smart Technology ต่างๆ อย่าง Thermostate, Bluetooth Sound System, Rescue Alarm, LED Lighting Motion Sensor ที่หลายๆคนคงทราบกันอยู่แล้วแหละครับ นอกจากนั้นวัสดุภายในห้องที่จะได้ก็เริ่มตั้งแต่ ประตูให้ Digital Door Lock จาก YALE พื้น Smart Vinyl ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ฉากกั้นกรอบบานอลูมิเนียม Hob & Hood ของ MEX Top ครัวจะเป็น Particle ลายหินอ่อนเคลือบเมลามีนกันน้ำ หน้าบานเคาน์เตอร์ลามิเนต ส่วนห้องน้ำจะใช้สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์อาบน้ำของ American Standard, อ่างมีเคาน์เตอร์ด้านใต้ของ Cotto มีฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน จาก Shower King ให้มาด้วย หน้าต่างจะใช้กรอบบานเป็นอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง สวิทช์ไฟจาก Siemens ครับ นอกจากนั้นก็แถมแอร์ Daikin ขนาด 9,000 BTU. มาให้ด้วย แล้วแต่ขนาดห้องนะ

มาดูห้องแบบแรกกันครับ จะเป็นห้อง Studio ที่มีขนาดเล็กที่สุดของโครงการ โดยจะมีขนาด 20.10-21.56 ตร.ม. ทั้งหมดจำนวน 126 ยูนิต ส่วน Furniture ที่จะได้ก็ตามที่เห็นในภาพเลยครับ 6 อย่าง โดยจุดเด่นของห้องนี้คือด้วยความที่เป็นห้อง Studio ทำให้มีพื้นที่กลางห้องเยอะ สามารถเลือกจัดได้หลากหลาย จะจัดแบบห้องตัวอย่าง หรือวางเป็นเตียงขนาดใหญ่กว่า king size ก็ยังได้สำหรับคนที่ชอบนอนที่กว้างๆ ส่วนจุดเด่นจริงๆคงจะเป็นพื้นที่ริมหน้าต่างครับ ที่เขาให้มาสำหรับเป็นมุมทำโต๊ะทำงาน หรือจะทำกิจกรรมอื่นๆได้ เช่น มุมออกกำลังกาย มาพร้อมกระจกเข้ามุมที่ช่วยเพิ่มมุมมองของห้องและดูโปร่ง ช่วยให้รับแสงได้มากยิ่งขึ้น

เข้ามาจะเจอกับส่วนของ Pantry ฝั่งซ้าย และด้านข้างเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อนของห้องอย่างที่บอกไปว่าจัดได้หลากหลาย ด้านในสุดของห้องเป็นระเบียงและพื้นที่เข้ามุมสำหรับจัดเป็นพื้นที่กิจกรรมต่างๆตามความชอบเลยครับ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าที่ 2.4 เมตร พื้นในห้องนี้เป็น Smart Vinyl ซึ่งมีคุณสมบัติในการกันน้ำและรอยขีดข่วนต่างๆ ได้ดีกว่าลามิเนตทั่วไปนะครับ ด้านซ้ายมือจะเป็นครัว ซึ่งห้องสตูดิโอส่วนใหญ่ก็จะวางครัวไว้ตำแหน่งนี้นะครับ ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจังนัก เพราะจะส่งกลิ่นและควันไปทั่วทั้งห้องได้ง่าย ส่วนด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำครับ เข้าใช้งานได้ง่าย เวลาเลอะจากข้างนอกมาก็เข้าห้องน้ำได้ก่อนเลย ไม่ต้องเข้าไปเลอะส่วนภายในห้อง

หน้าประตูห้องจะไม่มีพื้นที่สำหรับชั้นวางรองเท้าไว้ให้ อาจจะต้องวางไว้ฝั่งผนังห้องน้ำแทน จะทำให้แนวทางเดินต้องแคบลงไปหน่อย

ด้านข้างจะมี Thermostat หรือ แผงควบคุมอุณหภูมิห้อง การทำงานของแผงนี้จะเชื่อมต่อกับพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ เป็นระบบที่เราสามารถตั้งอุณหภูมิห้องที่ต้องการไว้ จากนั้นพัดลมดูดอากาศก็จะทำงานเองโดยอัตโนมัติจนกว่าอุณหภูมิจะลดลงเหลือตามที่เราตั้งไว้ครับ

ลักษณะครัวของห้องนี้จะเป็นครัวเปิดนะครับ จะกั้นเป็นครัวปิดเองก็อาจจะยากหน่อย เพราะติดตำแหน่งวางตู้เย็น ดังนั้นการทำอาหารก็ควรจะเน้นทำอาหารง่ายๆ มากกว่าทำแบบจริงจัง ด้านข้างเคาน์เตอร์เว้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาดประมาณ 8.5 คิวบิกฟุตกำลังพอดีๆ (ตามขนาดของห้องตัวอย่าง)

หน้าบานต่างๆจะเป็นลามิเนต ให้บานเปิดเป็น Soft Close ทั้งหมด มีช่องเก็บของเยอะเหมือนกัน Built-in ชั้นบนและชั้นล่างมาให้ครบ

ผนังเคาน์เตอร์ด้านหลังติด Backsplash เป็นกระเบื้องให้ ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนท็อปเคาน์เตอร์เป็น Particle ปิดผิวด้วยไวนิลเคลือบเมลามีนกันน้ำอีกที สามารถกันน้ำได้ระดับนึงนะ ไม่ควรมีน้ำขังทิ้งไว้ มาพร้อมอ่างล้างจานสเตนเลส และ Hob & Hood จาก MEX เตาเป็นไฟฟ้า 2 หัว ส่วน Hood ให้เป็นระบบหมุนเวียน

ฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสีให้ไฟ Downlight 1 ดวงครับ

เข้ามาภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกและแห้งไว้เป็นสัดส่วน เริ่มจากโซนแห้งจะมีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ก่อน ส่วนอาบน้ำจะเป็น Shower Box ภายใน

พื้นที่ภายในห้องน้ำแอบแคบไปนิด แต่ก็เหมาะกับพื้นที่ห้อง ทางเข้าห้องน้ำก่อธรณีขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ส่วนพื้นปูเป็นกระเบื้องเซรามิกสีครีมขนาด 30×30 ซม. ไซส์มาตรฐาน

อ่างล้างมือจาก Cotto ให้เคาน์เตอร์ด้านล่างมาด้วย โดยบริเวณอ่างล้างมือตรงส่วนผนังกรุกระจกเงาให้สูงตั้งแต่ตัวอ่างไปจนถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียว

ส่วนโถสุขภัณฑ์จาก American Standard ด้านข้างจริงๆจะมี Rescue Alarm มาให้นะ ลักษณะเป็นปุ่มกดเพื่อส่งสัญญาณฉุกเฉินในห้องน้ำ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อกดปุ่มเสียงจะดังขึ้น เพื่อที่ทางโครงการหรือเพื่อนบ้านสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงทีครับ

ส่วนอาบน้ำจะกั้นโซนเปียกและแห้งด้วยฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อน 3 ตอน เพื่อจะเปิดพื้นที่ทางเข้าห้องน้ำได้กว้างมากขึ้น ให้ Hand Shower จาก American Standard มาให้ ที่มุมห้องด้านในมีพื้นที่เหลือด้านข้างเล็กน้อยทำเป็นชั้นวางของเพิ่ม

ขนาดพื้นที่ภายในห้องน้ำที่สามารถใช้งานได้จริงจะอยู่ราวๆ 90 x 90 ซม. ถือว่าเป็นขนาดที่สามารถใช้งานได้สบายๆ ไม่แคบเกินไป

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง มีพัดลมดูดระบายอากาศและความชื้นให้

เข้ามาดูส่วนภายในห้องกัน จุดเด่นคือได้พื้นที่เดียวกว้างๆ จัดได้เยอะ อย่างในห้องนี้ก็จะมีระยะทีวีอยู่ประมาณ 3 เมตรเลย

เตียงวางชิดผนังก็จะวางโซฟาได้พอดี ซึ่งส่วนนี้ทางโครงการก็จัดมาให้ทั้งหมดเลยครับ

และด้านข้างผนังของพื้นที่นั่งเล่นนี้มีการติดตั้ง Bluetooth Sound System เป็นระบบลำโพงที่เชื่อมต่อสัญญาณด้วย Bluetooth พร้อมลำโพงติดตั้งไว้ให้ สามารถเชื่อมต่อโดยใช้ Bluetooth หรือ Micro SD Card ก็ได้ ส่วนลำโพงจะติดให้ 2 ตัวเลยภายในห้องนี้ จัดเป็น Function Signature ของ AssetWise แบบที่คุ้นเคยกัน

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาให้ขนาด 2 ที่นั่งกว้างเต็มพื้นที่ พร้อมโต๊ะกลาง ไม่ได้กว้างมากนักเป็นไปตามขนาดพื้นที่ของห้อง แต่เพราะได้กระจกบานเลื่อนด้านข้างจึงช่วยให้บรรยายกาศโปร่งโล่งดีทีเดียว

ฝั่งตรงข้ามก็ให้ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีมาตามมาตรฐาน เหมาะกับพื้นที่ห้อง

ที่ฝั่งริมผนังจะได้ช่องแสงเกือบเต็มแนวหน้ากว้างห้องเลยครับ ทำให้ภายในห้องสว่างในช่วงเวลากลางวัน

ที่ชอบคือเขามีมุมพื้นที่สำหรับจัดได้หลากหลายมาให้ ในห้องตัวอย่างจัดเป็นโต๊ะทำงาน ซึ่งจริงๆ พื้นที่ตรงนี้อาจจะเป็นมุมออกกำลังกาย เล่นโยคะ วางโซฟาตรงนี้อีกตัว หรือเป็นชั้นวางของสะสมก็ได้เหมือนกัน

เขาให้แนวกระจกมาเต็มพื้นที่เลย ได้แบบเข้ามุมมาด้วย จึงทำให้รับแสงได้เยอะ มีบานกระทุ้งที่ช่วยให้เปิดรับลมระบายอากาศได้ด้วย

ห้องนี้จะได้ไฟ Downlight 5 ดวง พร้อมลำโพงอีก 2 จุด จะได้แอร์ Daikin ขนาด 9,000 BTU. มาด้วย 1 ตัว

เปิดประตู 3 ตอนออกไปดูระเบียงกัน เป็นระเบียงขนาดประมาณ 2 x 0.7 เมตร

ด้านบนแขวน CDU. ด้านล่างวางเครื่องซักผ้า ให้ไฟกิ่งมา 1 ดวงครับ

มาต่อกันที่ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 29.04-31.64 ตร.ม. ที่มีจำนวน 187 ยูนิต ทั้งโครงการ เป็นห้องที่เหมาะกับจำนวนผู้อยู่อาศัย 2-3 คน ภายในห้องจะมีพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น จุดเด่นคือจัดพื้นที่ภายในค่อนข้างเป็นสัดส่วน ทั้งครัวปิด ห้องเสริมที่เป็นประตูทึบ และห้องนอนใหญ่แบ่งกั้นด้วยแนวกระจกบานเลื่อน มีพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารจริงจัง พร้อมดูทีวีไปด้วยได้

เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา จะเจอกับส่วน Living Room ก่อนเลย ประกอบไปด้วยโซฟา ชั้นวางทีวี และพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งทางโครงการก็ให้เฟอร์นิเจอร์ส่วนนี้มาครบเลยครับ ด้านข้างจะเป็นห้องน้ำ ขนาดและหน้าตาเหมือนกับห้องที่ผ่านมา และห้องครัว ที่จะได้มาเป็นแบบครัวปิดมีพื้นที่เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารจริงจังได้โดยไม่ต้องกังวลกลิ่นและควันจะไปรบกวนพื้นที่อื่นภายในห้อง ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อน แยกออกเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยแนวกระจกบานเลื่อน ด้านในติดแนวกระจกรับแสงได้เยอะ และสามารถส่องเข้ามายังพื้นที่ Living Room ภายในได้ด้วย ส่วนด้านข้างจะให้มาเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต ทำเป็นห้องนอนรองได้ด้วยครับ ภายในยังให้ระเบียงมาสำหรับออกไปยืนสูดอากาศได้ด้วย

เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลย เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร ไปสุดที่ประตูบานเลื่อนกระจกเข้าสู่ห้องนอนครับ พื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว

หน้าห้องจะมีชุดวางทีวีเหมือนห้องที่แล้วเลย แต่ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดกว้างมากขึ้น ก็จะมีพื้นที่เหลือด้านล่างที่สามารถวางตู้เก็บรองเท้า หรือเก็บของเพิ่มเติมได้

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีระยะทีวีอยู่ราวๆ 2 ม. เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 32″-42″

ห้องน้ำของห้องนี้จะพื้นที่กว้างกว่าห้องก่อนหน้านี้ แต่วัสดุโดยรวมจะเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยครับ

ขนาดพื้นที่ภายในจะกว้างมากยิ่งขึ้น แยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้ครบเช่นเดิม

อ่างล้างหน้าจาก Cotto แบบมีเคาน์เตอร์ใต้อ่างมาพร้อมกระจกเงาและสุขภัณฑ์จาก American Standard

ส่วนอาบน้ำจะกั้นโซนเปียกและแห้งด้วยฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อน 3 ตอน เพื่อจะเปิดพื้นที่ทางเข้าห้องน้ำได้กว้างมากขึ้น ให้ Hand Shower จาก American Standard มาให้ ที่มุมห้องด้านในมีพื้นที่เหลือด้านข้างเล็กน้อยทำเป็นชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.3 x 0.9 เมตร หมุนตัวร้องเพลงอาบน้ำได้สบายๆ

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีให้ไฟ Downlight 2 ดวง พร้อมพัดลมดูดอากาศ

ที่ด้านในห้องจะมีส่วนรับประทานอาหารไว้ให้ด้วยครับ เหมาะกับการนั่งรับประทานอาหารกัน 2 คน

ห้องนี้จะเป็นส่วนที่แบ่งไปยังส่วนอื่นๆภายในห้องครับ เป็นสัดส่วนดี เราดูจากห้องครัวไล่ไปเลยนะครับ

ห้องครัวขนาดไม่ใหญ่นักเหมาะกับการใช้งาน 1 คน เพราะพื้นที่นี้มีขนาดประมาณ 1.6 x 0.8 เมตร ครับ แต่ข้อดีคือเขาทำมาเป็นครัวปิดให้ ทำให้เวลาทำอาหารจริงจังก็ไม่ต้องกลัวกลิ่นและควันจะไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้องเลยครับ

ด้านในจะมีลักษณะอุปกรณ์ต่างๆของเคาน์เตอร์ครัวเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย แต่จะเป็นเคาน์เตอร์ตัว L เข้ามุม ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น และใช้งานได้ง่าย ชั้นบนก็เป็นเคาน์เตอร์หน้าบานเปิดวางของได้เยอะ ส่วนด้านล่างจะมีช่องเก็บของที่หลากหลาย แถมยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าให้ด้วยครับ ทำให้ระเบียงจะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากยิ่งขึ้น

มาต่อกันที่ห้องข้างๆ เริ่มต้นด้วยประตูเข้าห้องเป็นประตูบานทึบ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการเป็นห้องนอนที่ 2 หรือเป็นห้องนอนที่รับรองแขกได้เลย แต่ภายในห้องนี้ไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศมาให้นะ ถ้าจะติดก็ต้องต่อท่อลอยออกไปภายนอก ส่วนนี้ทางโครงการจะให้ฐานเตียงและตู้เสื้อผ้ามาให้

พื้นที่ใช้สอยภายในก็สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ เหลือทางเดินเข้าออกระเบียงแบบสบายๆ หรือบ้านไหนไม่อยากทำเป็นห้องนอนก็ทำเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องออกกำลังกายได้

ที่ด้านในจะมีแนวประตูกระจกบานเลื่อนให้ด้วย เป็นช่องแสงให้กับห้องนี้ ด้านบนเหลือพื้นที่สำหรับติดม่านได้ด้วย

ด้านนอกจะเป็นระเบียงที่ออกไปยืนใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าด้วย

ตรงนี้จะแขวน Condensing Unit ไว้ 2 เครื่องสำหรับภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลัก ถ้าจะติดแอร์ในห้องอเนกประสงค์เพิ่ม ก็วางที่พื้นด้านล่างได้อีกเครื่องครับ มาพร้อมไฟกิ่ง 1 ดวง เช่นเดิม

มองกลับเข้ามาภายในห้องจะมีตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้มาด้วย

เป็นบานเปิดที่มีพื้นที่หน้าตู้ยืนใช้งานได้สบายๆ ภายในมีพื้นที่เก็บของเหมาะสำหรับ 1 คนใช้งาน

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ได้ไฟ Downlight 1 ดวง

ด้านในมีห้องนอนหลักของห้องนี้ครับ กั้นด้วยแนวกระจกบานเลื่อน 3 ตอนสูงถึงฝ้าเลย ทำให้สามารถเปิดได้กว้าง และช่วยทำให้แสงสามารถส่องเข้ามาถึงส่วน Living Room นี้ด้วยครับ แต่ด้วยความที่สูงถึงฝ้าทำให้อาจจะไม่มีพื้นที่ด้านบนไว้สำหรับติดม่าน ต้องใช้เป็นฟิล์มหรือมู่ลี่แทนนะครับ

ภายในขนาดค่อนข้างกว้าง ได้ตู้เสื้อผ้าและฐานเตียงมาให้

ได้เตียง 5 ฟุต มาชิดผนังเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้ใช้งานตู้เสื้อผ้าได้สบายๆเลยครับ

ด้านล่างของฐานเตียงจะมีลิ้นชักไว้ใช้เก็บของด้วย เหมาะกับห้องที่มีขนาดไม่ได้เยอะนักแบบนี้ นอกจากนั้นที่จริงแล้วริมปลายเตียงมี LED Lighting Motion Sensor มาให้ เอาไว้ใช้สำหรับกลางดึก เราลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เมื่อผ่าน Sensor จะมีไฟติดบริเวณนี้ เอาไว้ดูทางเล็กๆน้อยๆครับ

ปลายเตียงติดทีวีเป็นแบบแขวนผนัง ก็จะมีทางเดินไปมาสบายๆครับ

อีกจุดเด่นหนึ่งของห้องนอนห้องนี้คือจะได้กระจกเข้ามุมครับ ทำให้เพิ่มมุมมองของวิวได้ แถมยังได้แสงเข้ามาภายในห้องมากยิ่งขึ้นด้วย มีกระจกบานกระทุ้งให้เปิดรับลมระบายอากาศถึง 2 บานเลย

มองกลับเข้ามาภายในห้องจะเจอกับตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาครับ เขาออกแบบพื้นที่การใช้งานมาแล้วเรียบร้อย

ภายในก็เป็นแบบห้อง Studio เลยครับ มีช่องด้านบนไว้เก็บกระเป๋าเดินทาง มีช่องแยกไว้เก็บของตามประเภทให้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

12 June 2020

  • Studio อาคาร C ชั้น 4 ห้อง C426 เนื้อที่ 21.51 ตร.ม. ราคา 1.64 ล้านบาท หรือ 76,465.12 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 8 ห้อง A813 เนื้อที่ 22.75 ตร.ม. ราคา 1.86 ล้านบาท หรือ 81,686.43 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive อาคาร A ชั้น 7 ห้อง A706 เนื้อที่ 29.25 ตร.ม. ราคา 2.4 ล้านบาท หรือ 82,397.26 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus อาคาร A ชั้น 7 ห้อง A702 เนื้อที่ 34.73 ตร.ม. ราคา 2.84 ล้านบาท หรือ 82,220.29 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อป Particle ลายหินอ่อนเคลือบเมลามีนกันน้ำ
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
  • จอง 999 บาท
  • ทำสัญญา 10,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา บริเวณใกล้กับสี่แยกคลองประปาที่ตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ จึงจัดเป็นโครงการที่อิงทำเลแจ้งวัฒนะพอสมควร สำหรับบรรยากาศและความอุดมสมบูรณ์โดยรอบถือว่ามีครบ เริ่มต้นแต่ในระยะเดินก็มีเวิ้งร้านอาหารแถวๆนั้นให้เป็นตัวเลือกเยอะเหมือนกัน และในระยะขับรถก็มีรอบๆหลายจุดไม่ไกลเลย ทั้ง Hyper Market ใกล้ๆ อย่าง Tesco Lotus หรือออกไปหน่อยก็มีห้างสรรพสินค้าอย่าง Central แจ้งวัฒนะแล้ว นอกจากนี้ทำเลนี้ยังใกล้กับทางเข้าเมืองทองธานี ชุมชนขนาดใหญ่ และมีศูนย์จัดแสดงสินค้า คอนเสิร์ตภายใน เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของย่านนี้ก็ว่าได้ และต้องบอกว่าในย่านนี้ขยับมาช่วงต้นแจ้งวัฒนะจัดเป็นทำเลศูนย์ราชการขนาดใหญ่ ดังนั้นทำเลโครงการจึงสามารถตอบโจทย์กลุ่มข้าราชการต่างๆ ที่เน้นเดินทางไปทำงานสะดวกอีกด้วย

การเดินทางโดยใช้รถ : เป็นทำเลที่น่าสนใจในการเดินทางเพราะเป็นถนนหน้าโครงการอย่างเลียบคลองประปา และอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกคลองประปาที่ตัดกับถนนสายสำคัญอย่าง ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งถนนแจ้งวัฒนะนี้จัดเป็นถนนใช้เชื่อมเข้าอีกถนนสายสำคัญอีกหลายเส้น ทั้งมีทางด่วนศรีรัชผ่านให้เลือกใช้งานได้สะดวกวิ่งเข้า-ออกตรงๆ ได้เลยด้วย ส่วนที่จอดรถจะมีประมาณ 165 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 43% ซึ่งอาจจะดูน้อยไปสักหน่อยสำหรับทำเลที่เน้นการใช้รถแบบนี้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : จากหน้าโครงการเองก็มีรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งไปมาอยู่ตลอด แต่ถ้าอยากให้ง่ายก็ต้องอาศัยเดินไปยังถนนแจ้งวัฒนะจะเรียกรถสาธารณะได้สะดวกขึ้น แถมในอนาคตก็มีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้งานด้วย โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการจะมีทั้ง สถานีศรีรัช และสถานีแจ้งวัฒนะ 14 แต่ระยะห่างยังยังไม่ชัดเจนนะครับ ต้องดูตำแหน่งสถานีพร้อมทางขึ้น-ลงอีกที หากวางตำแหน่งดูคร่าวๆจะอยู่ห่างจากโครงการไปราวๆ 700 ม.-1 กม. ก็เรียกพี่วินไปหรือกลับมาได้ไม่ยากเลย

วัสดุ : โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished พร้อม Smart Technology ต่างๆ อย่าง Thermostate, Bluetooth Sound System, Rescue Alarm, LED Lighting Motion Sensor ที่หลายๆคนคงทราบกันอยู่แล้ว นอกจากนั้นวัสดุภายในห้องที่จะได้ก็เริ่มตั้งแต่ ประตูให้ Digital Door Lock จาก YALE พื้น Smart Vinyl ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ฉากกั้นกรอบบานอลูมิเนียม Hob & Hood ของ MEX Top ครัวจะเป็น Particle ลายหินอ่อนเคลือบเมลามีนกันน้ำ หน้าบานเคาน์เตอร์ลามิเนต ส่วนห้องน้ำจะใช้สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์อาบน้ำของ American Standard, อ่างมีเคาน์เตอร์ด้านใต้ของ Cotto มีฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน จาก Shower King ให้มาด้วย หน้าต่างจะใช้กรอบบานเป็นอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง สวิทช์ไฟจาก Siemens ครับ นอกจากนั้นก็แถมแอร์ Daikin ขนาด 9,000 BTU. มาให้ด้วย แล้วแต่ขนาดห้องนะ

การออกแบบ : อย่างแรกเลยคือการวางผังของโครงการที่เขาออกแบบให้แนวอาคารล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางไว้ ข้อดีคือจะได้วิวส่วนกลาง และได้แนวอาคารช่วยบังแดดพื้นที่ส่วนกลางได้ด้วย แต่ข้อเสียคือจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างสำหรับการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง และห้องพักอาศัยที่ต้องหันหน้ามาเจอกัน ส่วนห้องชั้นที่อยู่ด้านล่างอาจจะได้รับผลกระทบเรื่องเสียงจากการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง แต่การแยกพื้นที่ส่วนกลางไปในหลายๆอาคาร จะช่วยให้กระจายจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละส่วนได้ดี ลดความหนาแน่น

ส่วนห้องพักอาศัย ถึงจะเน้นไปที่ห้องขนาดเล็กแต่ก็ออกแบบตัวเลือกออกมาให้เยอะ ทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย การออกแบบพื้นที่ภายในก็ทำได้ดี เช่น ห้องขนาดเล็ก แต่ก็ออกแบบพื้นที่ใช้งานออกมาได้ลงตัวทำให้บรรยากาศใช้งานจริงไม่เล็กมากนัก แถมสิ่งที่ผมชอบคือโครงการขายแบบ Fully Furnished ทำให้โครงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับพื้นที่ของห้อง ทำให้การใช้งานจริงออกมาเป็นไปตามที่ออกแบบไว้

สาธารณูปโภค : เป็นโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะเหมือนกัน มีทั้งภายนอกและภายในอาคาร เช่น ส่วนต้อนรับ ร้านค้า สวนขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ ห้องน้ำแยกชายหญิง ห้องประชุมหลายห้อง ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย ห้องทำอาหาร รวมไปถึงดาดฟ้ารับลมชมวิว ซึ่งในแต่ละพื้นที่ที่กล่าวมานี้เองก็มีมุมย่อยๆลงไปอีก เพื่อให้สามารถใช้งานพร้อมกันหลายๆคนได้โดยไม่รบกวนกัน ที่ผมชอบคือเขาคำนึงถึงการวางประเภทของกิจกรรมไว้ในแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสม เช่นส่วนกลางของอาคาร A, B ที่มีตำแหน่งหน้าทางเข้าออกโครงการ ก็จะเลือกวางพื้นที่ส่วนกลางที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ต้อนรับ พื้นที่รับรอง ส่วนพื้นที่ส่วนกลางประเภทที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย ก็จะมาอยู่ที่อาคาร C ที่อยู่ภายในพื้นที่ของโครงการ และที่สำคัญคือทุกพื้นที่จะได้วิวจากพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการด้วยครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 69,000 บาท/ตร.ม., 12 June 2020

  • ทำเล 7.5/10 – ติดเลียบคลองประปา ใกล้สี่แยกคลองประปาตัดแจ้งวัฒนะ
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนน ใกล้ทางด่วนศรีรัช
  • ไม่ใช้รถ
    (กรณียังไม่มีรถไฟฟ้า) 7/10 – เรียกรถสาธารณะหน้าโครงการหรือเดินไปเรียกบนถนนแจ้งวัฒนะได้
    (กรณีมีรถไฟฟ้า) 7.5/10 – มีตัวเลือกในการเดินใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช ห่างไป 700 m. – 1 km. ซึ่งไม่ได้อยู่ในระยะเดิน
  • วัสดุ 8/10 – ขาย Fully Furnished พร้อม Technology ครบพร้อมเข้าอยู่
  • แบบ 7.5 /10 – จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน น่าสนใจ
  • สาธารณูปโภค 8.25/10 – ให้มาหลากหลาย น่าสนใจและมีกระจายครบทุกอาคาร

  • ECONOMY CLASS
  • 7.65 (กรณียังไม่มีรถไฟฟ้า / 10.00)
  • 7.725 (กรณีมีรถไฟฟ้า / 10.00)

BOTTOM LINE

โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดแบบ 1 ห้องนอนเป็นหลัก ในราคาหยิบจับง่าย เริ่มล้านต้นๆ – 2 ล้านต้นๆ เน้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกเสริมในการเดินทาง มีพื้นที่ส่วนกลางให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ให้มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ ไม่ต้องเผื่อเงินตกแต่งเพิ่มมากนัก มีงบประมาณระดับ 1.5-2.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 15,000 – 20,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving