รีวิวฉบับที่ 2088 …  เรามาดู The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ คอนโดภายใต้แบรนด์  The Origin ที่สร้างเสร็จเป็นตัวแรกกันค่ะ โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีสายหยุดประมาณ 700 เมตร  Facilities ถือว่าเค้าให้มาจัดเต็มน่าใช้งาน  ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ โดยจะมีห้องที่เป็นไฮไลท์อย่าง 1 Bedroom (Smart Closet) ที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ , ห้องแบบ DUO ฝ้าเพดานสูง และห้องที่สามารถเดินออกจากระเบียงไปข้างๆสระว่ายน้ำได้ด้วย ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่  1.89 ล้านบาทค่ะ

ข้อมูลโครงการ

16 June 2020

  • The Origin Phahol – Saphanmai (ดิ ออริจิ้น พหลฯ – สะพานใหม่)
  • บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : บนถนนเทพรักษ์ เขตสายไหม
  • ที่ดินประมาณ 3-3-60.6 ไร่
  • คอนโด High Rise 14 ชั้น 1 อาคาร 536 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 46 ยูนิตที่ชั้น 5-13
  • ที่จอดรถประมาณ 262 คัน คิดเป็น 49% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • 1 Bedroom  23.5-24.5 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom  26.0 – 34.0 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom (Smart Closet) 26.0 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom DUO 30.0-49.0 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 34.0-65.5 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท (1 Bedroom 26 ตรม.) ราคา Promotion
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 75,000 บาท/ตร.ม.
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-030-0000

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.888432 , 100.610427
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ ตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์ช่วงต้น โดยถนนเส้นนี้จะเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธิน วัชรพล สุขาภิบาล 5 และสามารถใช้เส้นทางไปยังถนนรามอินทรา วิภาวดีรังสิต สายไหม และ ลำลูกกาได้สะดวก สำหรับ การเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถใช้เส้นทางได้หลากหลาย ถ้าใช้ถนนพหลโยธินจะสามารถวิ่งไปยังรัชโยธิน ลาดพร้าวได้ หรือจะใช้วิ่งไปรังสิตก็ได้เหมือนกัน แต่จะมีการจราจรที่ติดบ้างตามเวลาเร่งด่วนซึ่งทำให้ต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางพอสมควร และจากโครงการยังสามารถเดินทางไปยังถนนรามอินทรา ถนนแจ้งวัฒนะซึ่งสามารถใช้ไปยังปากเกร็ดหรือมีนบุรีได้ นอกจากนั้นยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งบริเวณนั้นจะใกล้กับสนามบินดอนเมือง สำหรับทางด่วนสามารถเลือกใช้ได้ทั้งดอนเมืองโทลล์เวย์และรามอินทรา-อาจณรงค์ค่ะ

และอีกหนึ่งความสะดวกในการเดินทางคือการตัดถนนเทพรักษ์เพื่อแก้ปัญหารถติดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งตามแผนการพัฒนาในอนาคต (ถ้าสร้างเสร็จทั้งหมด) ถนนเส้นนี้จะยาวเชื่อมตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิต ผ่านถนนพหลโยธิน ถนนวัชรพล ถนนสุขาภิบาล5 ถนนกาญจนาภิเษก ถนนหทัยราษฎร์ ไปจนถึงถนนนิมิตรใหม่ โดยจะมีการต่อขยายออกไปด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งได้แก่

  • ช่วงแรก : ฝั่งแรกคือถนนวิภาวดีรังสิตเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธิน ลักษณะถนนเป็นถนน 4-6 เลน ซึ่งถ้าถนนเส้นนี้สร้างเสร็จจะทำให้การเดินทางไปถนนวิภาวดีรังสิตสะดวกขึ้นเยอะค่ะ
  • ช่วงที่ 2 : คือช่วงที่เชื่อมจากถนนสุขาภิบาล5 ไปจนถึงถนนนิมิตรใหม่

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ในบริเวณใกล้ๆโครงการจะมี BTS สถานีสายหยุด อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร และโครงการจะมี Shuttle Bus วิ่งรับส่งให้ที่สถานีรถไฟฟ้า แต่จะเป็นสถานีอะไรและเส้นทางการวิ่งจะเป็นอย่างไรนั้นต้องรอสรุปจากโครงการและนิติบุคคลอีกทีค่ะ ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆก็สามารถเดินทางได้สะดวกเนื่องจากสามารถเรียกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์หรือ Taxi ได้ง่าย และถ้าไปยังถนนพหลโยธินจะมีรถประจำทางผ่านถนนเส้นนี้อยู่หลายสายค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการถือว่ามีพอสมควรทั้งมหาวิทยาลัยหลายแห่ง , โรงเรียน ,โรงพยาบาล , วัด , เขตพื้นที่ราชการ รวมถึงยังใกล้กับสนามบินดอนเมืองอีกด้วย ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้ชีวิตอยู่อาศัยคงต้องคำนึงถึงแหล่งของกิน ซึ่งบริเวณใกล้ๆโครงการจะมีห้างสรรพสินค้า และ Hypermarket อยู่หลายที่ เช่น ห้างเซ็นทรัล รามอินทรา , Foodland , Tesco Lotus , Big C สะพานใหม่  นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับตลาดใหญ่ๆอย่างตลาดยิ่งเจริญ ตลาดออเงิน เป็นต้นทำให้หาของกินได้ง่ายพอสมควร อย่างตลาดยิ่งเจริญเป็นตลาดใหญ่ในย่านนี้มีครบเลยทั้งของแห้ง ของสด ของใช้ และ ร้านอาหาร มีลานจอดรถที่สามารถไปจอดได้สะดวก และยังใกล้กับโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล เวลาเจ็บป่วย ไม่สบายก็สามารถไปพบแพทย์ได้ทันท่วงที ถ้าไปยังถนนแจ้งวัฒนะจะเป็นแหล่งรวมของสำนักงานเช่น ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และมีห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัลด้วยค่ะ

สำหรับบรรยากาศของสองฝั่งถนนพหลโยธิน บริเวณใกล้ๆกับโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ด้านล้างเปิดเป็นร้านค้าร้านอาหาร ง่ายต่อการจับจ่ายใช้สอย ซอยทั้งสองฝั่งข้างทางเป็นชุมชนพักอาศัย มีบริษัทเล็กๆ ห้องพัก  Apartment บ้างประปราย โดยรวมแล้วค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์และคึกคักตลอดทั้งวัน

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากวงเวียนหลักสี่ตรงไปเรื่อยๆบนถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าไปยังสะพานใหม่ จากนั้นให้เราเลี้ยวขวาเข้าถนนเทพรักษ์และตรงมาเรื่อยๆก็จะถึงโครงการค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

Image 1/9
การเดินทางในวันนี้เริ่มจากบริเวณวงเวียนหลักสี่มุ่งหน้าไปยังสะพานใหม่

การเดินทางในวันนี้เริ่มจากบริเวณวงเวียนหลักสี่มุ่งหน้าไปยังสะพานใหม่

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการคอนโดมิเนียมที่มาขึ้นบนทำเลสะพานใหม่จะมีลักษณะเฉพาะตัวอยู่คือในบางพื้นที่จะสร้างสูงได้ไม่เกิน 45 เมตร เนื่องจากอยู่ในเขตปลอดภัยทางอากาศเพราะใกล้กับสนามบินดอนเมือง ทำให้เราจะเห็นคอนโดที่เป็น High Rise แต่สูงไม่เกิน 15 ชั้นในย่านนี้ค่ะ ทำให้สภาพแวดล้อมไม่มีอาคารที่สูงมากๆมาบดบังวิว ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถวและบ้านพักอาศัยแนวราบมากกว่า สรุปสถานที่ข้างเคียงโครงการได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือ – ติดกับถนนเทพรักษ์ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยและ Apartment
  • ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย
  • ทิศใต้ ติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก  – ติดกับที่ดินเปล่าและชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ

ทิศเหนือ  ติดกับถนนเทพรักษ์ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยและ Apartment

ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย

ทิศใต้  หรือด้านหลังโครงการติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบและหมู่บ้าน

ทิศตะวันตก  ติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ สลับกับที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (รวมระยะกลับรถ)

  • โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล ∼ 800 เมตร
  • ตลาดยิ่งเจริญ ∼ 1.5 กิโลเมตร
  • Big C สะพานใหม่ ∼ 1.6 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus หลักสี่ ∼ 2 กิโลเมตร
  • Central รามอินทรา ∼ 3.1 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกริก ∼ 3.1 กิโลเมตร
  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร ∼ 3.5 กิโลเมตร
  • กรมทหารราบที่ 11 ∼ 3.5 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ∼ 5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารวิทยา ∼ 5.7 กิโลเมตร
  • ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ∼  6.9 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ∼ 8.6 กิโลเมตร
  • สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ∼ 8.7 กิโลเมตร
  • Major รัชโยธิน ∼ 8.9 กิโลเมตร
  • สนามบินดอนเมือง ∼ 14 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

ก่อนจะเข้าไปชมรายละเอียดของโครงการ เราจะขอเกริ่นเกี่ยวกับแบรนด์กันสักเล็กน้อยค่ะ โดย “ดิ ออริจิ้น” (The Origin) เป็นแบรนด์คอนโดน้องใหม่จาก บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ทำออกมาเจาะตลาด “Gen Z” หรือกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) และกลุ่มที่กำลังต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นทรัพย์สินชิ้นแรก (First Condo Buyer) โดยเริ่มเปิดตัวทั้งหมด 6 โครงการ 6 ทำเล ทั่วกรุงเทพฯ โดย The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ ถือเป็นคอนโดภายใต้แบรนด์นี้ตัวแรกที่สร้างเสร็จค่ะ

ถ้าสนใจรีวิวตัวอื่นๆสามารถคลิกตามชื่อได้เลยค่ะ

แบรนด์ The Origin ได้มีการออกแบบโครงการให้สอดคล้องกับกลุ่ม “Gen Z” ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัย อย่างพื้นที่ส่วนกลางเองก็จะให้ความสำคัญกับ Co-Working เป็นพิเศษเพราะเป็นที่นิยมของกลุ่มวัยเรียน วัยทำงาน และมีการเพิ่มเติมส่วนกลางที่เป็น Lifestyle ใหม่ๆในตอนนี้อย่าง Private Studio สำหรับให้แม่ค้าออนไลน์มาถ่ายรูปรีวิวสินค้า SMART LOCKER ที่รับของแทนคุฯได้ หรือ Shelves Storage ให้เช่าพื้นที่ ฝากของ กรณีมีสต๊อกสินค้าเป็นต้น และยังมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆมาเพิ่มความสะดวกสบายอีกด้วย ส่วนห้องพักอาศัยก็มีห้องที่มีดีไซน์ใหม่ๆเข้ามาเช่นห้อง 1 Bedroom (Smart Closet) ที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เป็นต้น

The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ เป็นคอนโด High Rise 14 ชั้น ที่มีจำนวนยูนิต 536 ยูนิต โดยสาเหตุที่เป็น High Rise 14 ชั้นนั้นก็เพราะว่าทำเลนี้มีลักษณะเฉพาะตัวอยู่คือในบางพื้นที่จะสร้างสูงได้ไม่เกิน 45 เมตร เนื่องจากอยู่ในเขตปลอดภัยทางอากาศเพราะใกล้กับสนามบินดอนเมืองค่ะ

ด้านหน้าจะมีร้านค้ามาให้อีก 2 ยูนิต โดยทางโครงการมองเอาไว้ว่าอยากให้เป็นร้านสะดวกซื้อแต่จะเป็นแบรนด์ไหนต้องรอดูอีกทีค่ะ ซึ่งคนในโครงการจะสามารถเดินลงมาซื้อของเล็กๆน้อยๆได้สะดวก ไม่ต้องออกไปไหนไกล

สำหรับชั้นล่างจะเป็นที่จอดรถ Lobby และMeeting Room ส่วนชั้นที่ถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักคือชั้น 3 ซึ่งจะประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ฟิตเนส  Co-Working Space Office Supply และMulti – Function Studio โดยมีการวางผังให้พื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยแยกออกเป็น 2 ฝั่ง โดยจะมีการกั้นประตูแยกเป็นสัดส่วน ใครจะผ่านต้องใช้คีย์การ์ดจึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ส่วนโถงลิฟต์จะกระจายออกเป็น 2 ส่วน มีลิฟต์โดยสารรวมทั้งหมด 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมเท่ากับ 178 :  1 ซึ่งก็ถือว่าเยอะพอสมควร ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องรอกันนิดนึงค่ะ

ด้วยการที่วาง Facilities เอาไว้ตรงกลางทำให้ในชั้นนี้จะมีห้องที่มีระเบียงติดกับพื้นที่ส่วนกลางเช่นห้องที่อยู่บริเวณสวนหย่อมและสระว่ายน้ำค่ะ

ถ้าสังเกตจะเห็นว่าอาคารเป็นรูปตัว Z และมีการวางผังตัวอาคารในแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ลมสามารถพัดผ่านได้ดีตลอดปี บริเวณชั้นส่วนกลางมีการเจาะช่องเปิดแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 2 ฝั่งช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดี

พอเข้าโครงการมาจะเจอกับป้อมรปภ.อยู่ทางฝั่งซ้าย ส่วนชั้นจอดรถจะอยู่ในชั้น 1-2

ทางเข้า Lobby อยู่บริเวณหน้าอาคาร ตกแต่งด้วยโทนสี Earth Tone

พอเข้ามาจะเจอกับ Lobby ก่อน โดยจะมีที่นั่งมาให้หลายจุด การตกแต่งเน้นโทนสีขาว ทอง เพิ่มลูกเล่นด้วยการดีไซน์ฝ้าเพดานและการติดโคมไฟค่ะ บริเวณนี้จะมี Meeting Room อยู่ด้วยนะคะ

ถัดเข้าไปด้านในจะเจอกับทางไปสำนักงานนิติบุคคล โถงลิฟต์+ห้องจดหมายและทางไปที่จอดรถ

ที่จอดรถจอดได้ประมาณ 262 คัน คิดเป็น 49% แบบรวมซ้อน

บริเวณด้านหลังที่ติดอยู่กับที่จอดรถจะมีห้องน้ำสำหรับแขกที่มาติดต่อ

ห้องไม่ใหญ่มาก มีอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์มาให้ค่ะ

ส่วนห้องจดหมายและโถงลิฟต์จะอยู่ด้านใน ใครจะเข้าโถงลิฟต์ต้องมีคีย์การ์ดนะ ถึงจะเข้าไปได้

ห้องจดหมายจะอยู่รวมกันตรงนี้ 536 ยูนิตเลย ในตู้จะมีการซ่อนไฟแทรกมาด้วย ซึ่งทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้น หยิบของ หาของได้สะดวก

เข้ามาในโถงลิฟต์นี้จะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว เราชอบพื้นที่ตรงนี้อย่างหนึ่งคือมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูโปร่งและสว่าง อีกทั้งการตกแต่งยังใช้กระจกเป็นส่วนใหญ่ซึ่งช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้

เราขึ้นมาดูกันที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยกัน บริเวณหน้าโถงลิฟต์มีการนำเอาเก้าอี้มาวางให้นั่งรอลิฟต์กันได้ ส่วนประตูที่อยู่ด้านในสุดคือทางเดินออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางค่ะ ชั้นนี้ก็จะเริ่มมีห้องพักอาศัยแล้วนะ

ส่วนของพื้นที่พักอาศัยจะมีการกั้นประตูมาให้เป็นสัดส่วน แยกออกจากพื้นที่ส่วนกลางเลย

แต่จะมีห้องพักอาศัยอยู่ 2 ห้องแยกออกมาอยู่บริเวณที่ใกล้กับโถงลิฟต์ จากการสอบถามทางโครงการแจ้งว่าอาจจะมีการกั้นประตูเพิ่มตรงส่วนนี้ให้ ซึ่งถ้ากั้นจะกลายเป็นว่าโซนนี้มีความเป็นส่วนตัวสุดๆไปเลย แถมยังใกล้กับลิฟต์ด้วย

เดินออกมาบริเวณพื้นที่ส่วนกลางจะเจอกับพื้นที่ Semi-Outdoor ที่วางชุดเก้าอี้พักผ่อนอยู่ตรงนี้จะพอมีระยะอยู่หน่อย ก่อนจะถึงประตูที่กั้นระหว่างพื้นที่ส่วนกลางกับตัวอาคาร  ทำให้เวลาฝนตกจะไม่สาดเข้ามาด้านในค่ะ

ชั้นนี้ถือว่าเป็นชั้น Facilities หลัก มีส่วนกลางมาให้ใช้หลากหลาย อย่างสระว่ายน้ำของที่นี่จะเป็นระบบเกลือมีขนาด 8 x 25 เมตร (Half Olympic) เป็นสระที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับคอนโดในย่านนี้ ทางฝั่งขวาเราจะสังเกตเห็นห้องที่สามารถออกจากระเบียงมาด้านข้างสระได้เลย ซึ่งทางโครงการก็มีทำไม้พุ่มสูงบังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวมาให้ค่ะ

พื้นที่ข้างสระจัดเป็นสวนหย่อม บรรยากาศ Chill ดี มีที่นั่งให้เอนตัวพักผ่อน

ส่วนมุมด้านในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนท่ามกลางไม้ใหญ่ มุมนี้ถ้าลงมานั่งเล่นช่วงเช้าหรือเย็นที่แดดร่มลมตก ถือว่าบรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียว

ติดๆกับสวนจะมีห้องที่เปิดประตูระเบียงมาเจอสวนเลย แยกออกมา 1 ห้องค่ะ

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ในอาคารด้วยนะ เดี๋ยวเราเข้าไปชมกันค่ะ

ด้านข้างสระอีกมุมหนึ่งก็มีพื้นที่นั่งพักผ่อนมาให้ มุมนี้มีหลังคาคลุมดังนั้นจึงจะร่มหน่อย สามารถมานั่ง Chill ชมวิวสระได้

พื้นที่ล้างตัวก่อน-หลังลงเล่นน้ำ และ ห้องน้ำแยกชาย-หญิงจะอยู่บริเวณนี้ค่ะ

ห้องน้ำจะมีให้ครบทั้งตู้ล็อคเกอร์ อ่างล้างหน้า ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ ถ้าออกกำลังกายเสร็จก็สามารถมาใช้แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนกลับไปที่ห้องได้

บรรยากาศให้ห้องอาบน้ำและห้องน้ำเน้นโทนสีขาวค่ะ

ห้องฟิตเนสขนาดค่อนข้างใหญ่ มีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบทั้งคาร์ดิโอและเวท ฝั่งที่เป็นเครื่องวิ่งจะเป็นผนังเป็นกระจกทั้งแนวสามารถมองออกไปเห็นวิวสวนได้

เวลากลางคืนถ้าเปิดไฟจะมีดีไซน์เป็นเส้นๆ ได้บรรยากาศประมาณนี้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งด้านในผนังเป็นกระจกเงาถูกจัดให้เป็นมุมโยคะ มีบอลและเสื่อมาให้พร้อม

พอออกจากห้องฟิตเนสมาทางฝั่งซ้ายคือ Co-Working Space  ส่วนทางฝั่งขวาคือ Multi – Function Studio

Multi – Function Studio เป็นห้องสำหรับให้แม่ค้าออนไลน์ลงมาใช้สตูดิโอสำหรับถ่ายภาพรีวิวสินค้า ซึ่งเดี๋ยวนี้ถือเป็นงานของคนรุ่นใหม่ไปแล้วค่ะ

อีกฝั่งเป็น Co-Working Space มุมนั่งทำงานที่บรรยากาศดีทีเดียวเพราะตรงนี้ฝ้าเพดานค่อนข้างสูงและอยู่ติดกับสวนหย่อม เวลาลงมานั่งทำงานก็ดูร่มรื่นสบายตาดี

ที่นั่งเค้าจัดมาให้หลากหลาย มีทั้งแบบที่กั้นคอกเป็นส่วนตัวกับนั่งรวมกันเป็นกลุ่มๆ

ถ้านั่งทำงานจนเหนื่อยก็สามารถเดินออกมาพักที่สวนด้านนอกได้ ซึ่งจะมีมุมสำหรับนั่งเล่นมาให้ด้วย

ด้านหลังจะมีทางเดินและที่นั่งมาให้ ตรงนี้เราว่าพอจะมาออกกำลังกายแบบ Outdoor ได้อยู่นะ แถมห้องพักที่อยู่บริเวณนี้มองออกมาก็จะเห็นวิวสวนด้วยค่ะ

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 แต่จะมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนไปเป็นพื้นที่ส่วนกลาง จึงทำให้ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยโถงลิฟต์ที่ขึ้นมาจาก Lobby จะอยู่ทางทิศเหนือด้านล่างของแปลน ส่วนใครที่อยู่ห้องทางฝั่งทิศใต้ก็ไม่ต้องตกใจว่าจะเดินไกลนะคะ เพราะทางโครงการทำลิฟต์โดยสารตรงช่วงกลางอาคารมาให้อีกตัวหนึ่ง อยู่ติดกับลิฟต์ Service ซึ่งจะเริ่มมีตั้งแต่ชั้น 3 หรือชั้นของพื้นที่ส่วนกลางเป็นต้นไป

ห้องพักอาศัยของโครงการนี้มีหลายแบบให้เลือก ส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 1 Bedroom 26.0 – 34.0 ตารางเมตร ส่วนห้องที่อยู่บริเวณมุมของอาคารจะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus กับ 2 Bedroom ค่ะ และสำหรับห้องที่อยู่มุมด้านในอาคารจะมีการออกแบบให้ไม่มีการหันชนกันตรงๆ ช่วยให้เวลามองออกไปที่ระเบียงไม่เห็นห้องฝั่งตรงข้ามในระยะประชิดค่ะ

ชั้น 5-13 จะเป็น Typical Floor Plan ที่มีจำนวนยูนิตเต็มพื้นที่แล้ว โดยจะมี 46 ยูนิตต่อชั้น เวลาขึ้นลิฟต์ให้เลือกเอาเลยว่าใกล้ฝั่งไหน ส่วนชั้น 14 จะมี Facilities อยู่อีกจุดหนึ่งคือ  Private Party Room และ Co-Kitchen ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถชมวิวมุมสูงได้รอบ ห้องพักบนชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ DUO  (ฝ้าเพดานสูง)ทั้งหมดค่ะ

ขึ้นมาที่โถงลิฟต์ชั้น 14 ก็ยังคงได้ความโปร่งจากช่องแสงรอบด้าน ชั้นนี้จะมีฝ้าเพดานสูงยกชั้นทำให้บรรยากาศค่อนข้างโปร่งค่ะ

ทางเข้าส่วนห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางอยู่แยกส่วนกันนะคะ

บริเวณนี้เป็น Private Party Room  ที่มองเห็นวิวได้รอบด้าน

ส่วนด้านหลังจะเป็นห้อง Co-Kitchen และห้องน้ำ สามารถจองขึ้นมาจัดปาร์ตี้บนนี้ได้แบบยกชั้น

ห้อง Co-Kitchen คือห้องที่เราสามารถขึ้นมาใช้พื้นที่ทำอาหารหรือจัดปาร์ตี้ได้ โดยทางโครงการจะมีครัวพร้อมอุปกรณ์และที่นั่งมาให้ครบ

พื้นที่ส่วนกลางชั้นนี้มีห้องน้ำมาให้ด้วยนะคะ เป็นแบบห้องรวม เราจะได้ใช้งานได้เลยไม่ต้องกลับไปใช้ที่ห้อง

ส่วนบริเวณ Outdoor จะเป็นมุมนั่งเล่นชมวิว สามารถออกมาทำ Bar B Q ได้ด้วยค่ะ

สำหรับวิวต้องบอกก่อนว่าทำเลนี้ส่วนใหญ่จะยังเป็นบ้านพักอาศัยและ Apartment เป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีตึกสูงเราจึงได้วิวค่อนข้างเปิดโล่ง โดยทิศเหนือจะเป็นฝั่งหน้าโครงการ มองออกไปเห็นถนนเทพรักษ์และชุมชนบนถนนเพิ่มสิน ถนนสายไหม

ทิศตะวันออกจะเป็นวิวชุมชนบนถนนเทพรักษ์ค่ะ ส่วนมากเป็นที่ดินเปล่าและบ้านแนวราบ

ทิศใต้เห็นวิวบ้านพักอาศัยและหมู่บ้าน ฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางถนนรามอินทรา

ทิศตะวันตกเป็นวิวมุ่งหน้าไปทางถนนพหลโยธิน ช่วงที่ใกล้ๆถนนใหญ่จะเห็นกลุ่มก้อนของคอนโดซึ่งสูงไม่เกิน 14 ชั้น นอกนั้นเป็น Apartment สลับกับชุมชนที่อยู่อาศัยแนวราบ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Ground Floor

  • Visitor Lobby Hall
  • Meeting Room
  • Mailbox & Smart Locker

  • 3th Floor
    • Co-Working Space
    • Office Supply
    • Multi – Function Studio (Co Passion)
    • Swimming Pool ระบบเกลือ แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด ….. สระเด็กขนาด…….
    • Fitness

  • 14th Floor
    • Private Party Room
    • Co-Kitchen

    • สวนหย่อมที่ชั้น 1 , 3
    • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 178 :  1
    • Service Lift : 1 ตัว
    • ที่จอดรถประมาณ 262 คันคิดเป็น 49% (รวมจอดซ้อนคัน)
    • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ

    • กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
    • ระบบควบคุมการเข้าออกอาคารอัจฉริยะ

    แบบห้อง

    ห้องพักอาศัยของโครงการนี้มีมาให้เลือกหลายแบบทั้ง 1 – 2 Bedroom และห้องแบบ Duplex (DUO) รูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted ให้ครัว สุขภัณฑ์ แอร์มาครบ และมีเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางรายการให้มาเพิ่มด้วยเช่น ตู้รองเท้า ตู้วางทีวี ตู้เสื้อผ้า และ ฐานเตียงค่ะ

    นอกจากรายการวัสดุมาตรฐานและเฟอร์นิเจอร์บางรายการแล้ว ทางโครงการยังมี Digital Door Lock และ Home Automation ซึ่งสามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟ แอร์ Smart Mirror ผ่านทาง Application ในมือถือมาให้ทุกห้องอีกด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน

    และยังมีบริการอื่นๆที่มีการนำเทคโนโลยีมาช่วย Support ในเรื่องการอยู่อาศัยมาให้เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น

    • Hotel Service On demand บริการทำความสะอาดฟรี 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นงานแม่บ้าน งานซักรีด งานทำความสะอาดห้องน้ำ
    • Facility Booking บริการจองพื้นที่ส่วนกลาง ผ่าน Mobile Application เพื่อให้ลูกบ้านสามารถจัดสรรเวลาได้
    • Super Maintenance Service บริการเรียกช่างเทคนิค ช่างซ่อม ช่างล้างแอร์ ช่างไฟ
    • Dine in Service บริการ SNACK และเครื่องดื่ม ผ่าน Machine ภายในโครงการ
    • Smart Bill Pay บริการส่งบิลออนไลน์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่าน Mobile Application

    สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมห้องแรกคือ 1 Bedroom 26 ตารางเมตร เป็นห้องฟังก์ชันใหม่จาก Origin ที่มีชื่อว่า Smart Closet ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ชอบแต่งตัว มีเสื้อผ้าเยอะหรืออยากได้พื้นที่เก็บของแบบเน้นๆ ซึ่งเป็นปัญหาในคอนโดปัจจุบันที่มีพื้นที่เก็บของน้อย โดยจัดให้มีห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่อยู่หน้าห้องน้ำและเชื่อมต่อกับระเบียงไปเลย และอย่างที่บอกไปว่าตู้เสื้อผ้านี้ทางโครงการก็แถมมาให้ด้วยนะคะ ซึ่งจะมีมุมที่แบ่งมาทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย แต่ห้องนอนจะไม่ได้กั้นผนังมาให้ จึงเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารไปเลย โดยโซฟาจัดได้ประมาณ 3 ที่นั่งซึ่งการใช้งานถือว่ากำลังพอดี ไม่กว้างไม่แคบจนเกินไป สามารถปรับให้เหลือ 2 ที่นั่งแล้วทำเป็นโต๊ะทานข้าวก็ได้ ส่วนห้องครัวเป็นครัวปิดอยู่บริเวณหน้าห้อง ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นตู้รองเท้าที่จัดวางได้หลายคู่มากๆ ฟังก์ชันรวมๆค่อนข้างครบครัน เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องกันค่ะ

    ประตูเข้าห้องทางโครงการให้มาแบบนี้เลย ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้

    โครงการนี้มี Digital Door Lock มาให้ทุกห้องนะคะ สามารถใช้งานได้ทั้งการตั้งรหัส คีย์การ์ด กุญแจ

    เข้ามาในห้องเราจะเจอกับห้องครัวที่มีการกั้นประตูระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนทำเป็นครัวปิด ทำให้สามารถกันกลิ่นเวลาทำอาหารได้บางส่วน พื้นบริเวณนี้จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ซึ่งมีคุณสมบัติในการซักล้างทำความสะอาดได้ง่ายเหมาะกับการใช้งานในครัว

    การใช้งานพื้นที่ครัวบริเวณหน้าห้องจัดได้เป็นสัดส่วน ขนาดเหมาะสมกับการใช้งานในห้อง 1 Bedroom เฟอร์นิเจอร์ Built-in ตรงส่วนนี้ทางโครงการให้มาครบค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว เราจะได้ตู้เก็บของและตู้วางรองเท้าทั้งแผงแบบนี้เลยค่ะ สามารถเก็บรองเท้าได้ค่อนข้างเยอะ โดยฝั่งขวาสุดจะมีการแบ่งพื้นที่เอาไว้สำหรับวางตู้เย็น

    เคาน์เตอร์ครัวเราได้ตามนี้เลย หน้าบานกรุด้วยลามิเนต Top เป็นหินสังเคราะห์ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆและ Soft Close พื้นที่วางเครื่องซักผ้าจะอยู่บริเวณนี้ด้วยนะคะ ข้อดีคือไม่ไปกินพื้นที่ของระเบียง

    อ่างล้างจานได้เป็นแบบหลุมเดียวของ Hafele ดีไซน์มาให้วางอยู่ด้านล่าง Top

    เตาไฟฟ้าก็เป็นของ Hafele เช่นเดียวกัน แบบ 2 หัวซึ่งเหมาะกับการใช้งานในห้องแบบ 1 Bedroom

    เครื่องดูดควันเป็นของ Hafele เช่นเดียวกันค่ะ

    ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบาน Aluminium 3 ตอนแบบนี้นะคะ นอกจากเอาไว้กันกลิ่นและควันเวลาทำอาหารแล้วยังถือเป็นการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานด้วย

    ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนต่อเนื่องกันยาวๆเลย ซึ่งข้อดีคือเราจะได้ความโปร่งโล่ง ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.40 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนตค่ะ

    ระยะดูทีวีของห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.1 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 46″

    ตู้วางทีวีนี้ทางโครงการให้มาด้วยนะคะ ขนาดกำลังพอดี และเนื่องจากเป็นแบบแขวนผนังทำให้ด้านล่างมีพื้นที่เหลือสามารถหากล่องมาวางเพิ่มพื้นที่เก็บของได้

    ถัดมาเป็นพื้นที่นอนพักผ่อนซึ่งเราจะได้ฐานเตียง (Queen Size) มาอย่างเดียว ตำแหน่งของเตียงจะอยู่ด้านข้างหน้าต่าง นอนชมวิวได้สบายๆเลย

    ด้านข้างเตียงทางฝั่งขวาสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ ส่วนฝั่งขวาจะมีระยะพอให้ผ้าม่านพาดผ่าน

    ทางโครงการจะมีแถมที่ชาร์จมือถือ แบบ WiFi ติดมากับโต๊ะข้างเตียงด้วย

    พื้นที่ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 33 เซนติเมตรค่ะ เดินผ่านได้สบายๆ

    สำหรับแอร์จะได้ของ Daikin แบบ Inverter นะคะ จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง อย่างห้องนี้จะได้ 12,000 BTU

    ส่วนปลายเตียงจะเป็นทางไปห้อง Walk-in Closet ที่เป็นไฮไลท์ของห้องนี้ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบาน Aluminium แบบ 3 ตอน

    ห้องนี้ออกแบบให้บริเวณหน้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่แบ่งออกเป็นชั้นวางของ ราวแขวนชุดสั้น ชุดเดรสยาว พื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ด้านบน ให้มาทั้งตู้แบบนี้เลย โดยกระจกเงาบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งจะการซ่อนไฟที่สามารถเปลี่ยนสีได้ด้วย ถือว่าเก็บของมาได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ

    Walk-in Closet จะติดกับพื้นที่ระเบียง สามารถออกไปยืนสูดอากาศได้ค่ะ

    เนื่องจากเครื่องซักผ้าถูกจัดวางให้อยู่บริเวณครัวแล้ว เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มๆ โดย Condensing Unit ของแอร์จะถูกแขวนเป่าเข้าด้านข้าง แต่เนื่องจากระยะอยู่ค่อนข้างสูงจึงไม่น่าโดนตัวเราเวลาออกมาใช้งาน

    พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1 x 1.13 เมตร พร้อมปูกระเบื้อง Ceramic มาให้เหมาะกับการใช้งาน

    ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย สุขภัณฑ์และกระเบื้องที่กรุตามพื้นและผนังได้ตามนี้เลยค่ะ

    อ่างล้างหน้าได้เป็นทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard

    โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ติดตั้งมาพร้อมสายฉีดชำระ และ ที่วางกระดาษทิชชู่

    พื้นที่อาบน้ำหรือส่วนเปียกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำเป็นสัดส่วน

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.77×1.14 เมตร แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน มีธรณียกสูงขึ้นมากันน้ำไม่ให้ไหลไปโดนส่วนแห้ง

    ทางโครงการจะมีการติดตั้งงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วยค่ะ สามารถซื้อมาติดตั้งเพิ่มเติมได้เลย

    ฝักบัวจะได้เป็นของ American Standard นะคะ

    ปลั๊กและสวิตช์ เป็นของ Siemens ค่ะ

    ห้องตัวอย่างอีกห้องที่เราพาไปดูคือ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. ตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom Plus ขึ้นไปทางโครงการจะมี Smart Mirror ในห้องน้ำเพิ่มขึ้นมาให้ ลักษณะแปลนจะถูกจัดเป็นสัดส่วนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เข้ามาเจอส่วน Common Area ก่อน ส่วนถัดเข้าไปเป็นส่วน Private หรือส่วนพักอาศัย ที่ติดหน้าต่างทำให้มองวิว+รับแสงได้เต็มที่ สำหรับส่วนของ Common Area จะไม่ได้วิว แต่ก็ไม่ได้มืดทึบ เพราะยังได้แสงสว่างที่มาจากห้องนอนและบานหน้าต่างตรงโซฟาอยู่ ส่วน Service จะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดที่ไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจัง  ห้องน้ำเข้าสามารถเข้าจาก Common Area ได้เลยข้อดีคือเวลาแขกมาจะได้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนค่ะ ส่วนไฮไลท์เลยคือห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ ที่ปกติเขาจะเลือกใช้ผนังทึบกัน แต่สำหรับโครงการนี้เลือกใช้ประตูบานเลื่อนกระจกที่พอเปิดมาแล้วจะได้ Space ที่กว้างขึ้นทันตาเลย ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาก็สามารถติดตั้งม่านเพิ่มเติมได้ค่ะ

    เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Common Area ก่อน ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าบรรยากาศโปร่ง โล่งไม่มืดทึบเพราะได้แสงธรรมชาติจากห้องนอนและบานหน้าต่างด้านข้างโซฟา ส่วนวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆจะได้เหมือนกับห้องก่อนหน้านะคะ

    ระยะดูทีวีของห้องนี้ค่อนข้างกว้างถึง 2.7 เมตร เหมาะกับวางทีวีขนาดประมาณ 52″-60″ นิ้วและสามารถวางโซฟาได้ 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางด้านหน้า พวกตู้ Built-in บริเวณนี้ทางโครงการมีให้ทั้งหมดนะคะ

    เฟอร์นิเจอร์ Built-in โซนหน้าห้องเราจะได้ตู้วางรองเท้า ชั้นวางทีวีและเคาน์เตอร์ครัว สำหรับแอร์ห้องนี้จะได้ 3 ตัวขนาด 9,000 BTUค่ะ

    ตู้รองเท้ามาแบบนี้ ถือเป็นฟังก์ชันที่ดีเหมาะกับการอยู่อาศัยในคอนโดนะคะ เพราะช่วยให้เราไม่ต้องวางรองเท้าเกะกะได้ และชั้นด้านบนยังใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้อีก ส่วนตรงกลางจะมีตะขอสำหรับแขวนกุญแจด้วยค่ะ เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่น่ารักดี

    ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามครัว มุมนี้จะค่อนข้างสว่างเลยเพราะได้รับแสงจากทั้งฝั่งห้องนอนและหน้าต่างด้านข้าง

    ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดซึ่งจะเหมาะกับการเตรียมอาหารง่ายๆหรือซื้อเข้ามาทาน แต่ถ้าใครจะทำอาหารหนักๆเลย กลิ่นอาจจะฟุ้งออกมาได้

    เคาน์เตอร์ครัวเราได้ตามนี้เลย หน้าบานกรุด้วยลามิเนต Top เป็นหินสังเคราะห์ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆและ Soft Close เหมือนกับห้องก่อนหน้า

    นอกจากเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้เคาน์เตอร์อันนี้ด้วยค่ะ ซึ่งมีฟังก์ชันคือเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและสามารถดึงแผ่นไม้ที่พับอยู่ขึ้นมาเป็นพื้นที่วางของหรือใช้ทานข้าวง่ายๆได้

    ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย ส่วนสุขภัณฑ์ , กระเบื้องที่กรุตามพื้นและผนังได้ตามนี้เลยค่ะ ห้องน้ำของห้องนี้เราจะได้ Smart Mirror เพิ่มมาด้วยนะคะ

    สุขภัณฑ์เหมือนห้องก่อนหน้าของ American Standard

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.80 x 1.40 เมตร กั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยเป็นสัดส่วน

    สำหรับห้องนอนและห้องอเนกประสงค์จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน มีความเป็นสัดส่วนพอสมควร ข้อดีคือเราจะได้ความโปร่ง โล่งและแสงธรรมชาติเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดตั้งม่านเพิ่มเติมได้ค่ะ

    ห้องอเนกประสงค์สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้สบายๆเลย ห้องนี้ของจริงจะเป็นห้องเปล่าๆนะ เผื่อคนที่อยากทำเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆ ให้เหมาะกับ Lifestyle ตัวเอง และห้องนี้จะเป็นห้องที่มีระเบียงด้วยค่ะ

    ห้องนอนเหมาะกับวางเตียงขนาด 5 ฟุต กำลังดีเลย มีพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้สบายๆ พร้อมหน้าต่างที่รับแสงธรรมชาติและวิวภายนอกได้

    พื้นหน้าตู้กว้างประมาณ 1.00 เมตร เป็นระยะที่เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวได้สบายๆเลย ส่วนทางฝั่งขวาของเตียงจะมีระยะประมาณ 0.70 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ค่ะ

    ตู้เสื้อผ้าตามห้องตัวอย่างทางโครงการให้เป็นมาตรฐานเลยนะคะ หน้าบานขวามือสุดจะเป็นกระจกเงาสำหรับแต่งตัวได้ ส่วนบานอื่นจะเป็นบานทึบปิดผิวด้วยลามิเนต

    ห้องนี้เป็น 1 Bedroom 34 ตารางเมตร (พื้นที่ห้องขนาด30ตรม.+พื้นที่ระเบียง4ตรม.) โดยห้องนี้จะมีระเบียงขนาดใหญ่ที่เปิดออกไปเป็นด้านข้างของสระว่ายน้ำได้ ห้องนี้จะมีเฉพาะแค่ชั้น 3 เท่านั้น สำหรับฟังก์ชันในห้อง เริ่มต้นจากทางเข้าห้องมาเป็น Common Area ที่วางชุดโซฟาและโต๊ะทานข้าวได้กำลังพอดี  ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามายัง Common Area ได้  ภายในห้องนอนได้ขนาดกำลังดี วางตู้เสื้อผ้าและเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ส่วนครัวได้แบบครัวปิด ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเพราะประตูจะสามารถกันกลิ่นได้พอสมควร และครัวยังเชื่อมต่อกับระเบียง สามารถเปิดประตูระบายอากาศหรือออกไปซักล้างได้สะดวก สุดท้ายคือบริเวณหน้าห้องน้ำมีจัดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ให้นั่งแต่งหน้าแต่งตัวได้ค่ะ

    Image 1/10
    เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วน Common Area ก่อนนะคะ โดยพื้นที่นี้เชื่อมทั้งพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารเลย ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อน

    เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วน Common Area ก่อนนะคะ โดยพื้นที่นี้เชื่อมทั้งพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารเลย ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อน

    ห้อง 2 Bedroom ขนาด 41.5 ตร.ม. จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเหมาะกับกลุ่มครอบครัว วางผังแบ่ง Common Area และพื้นที่พักผ่อนชัดเจน พอเข้าห้องมาจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียง ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องครัวปิดที่สามารถทำอาหารได้เต็มที่ ถัดเข้าไปด้านในจึงจะเป็นห้องนอนเล็ก ห้องน้ำรวม และห้องนอนใหญ่อยู่ด้านในสุด ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวและมีช่องแสงอยู่หลายจุดทำให้บรรยากาศโปร่งโล่งค่ะ

    Image 1/12
    พอเข้าห้องมาเราจะเจอกับห้องนั่งเล่นอยู่ตรงข้ามกับห้องครัว ห้องนี้จะดูใหญ่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวมากขึ้น

    พอเข้าห้องมาเราจะเจอกับห้องนั่งเล่นอยู่ตรงข้ามกับห้องครัว ห้องนี้จะดูใหญ่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวมากขึ้น

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    16 June 2020

    • 1 Bedroom  23.5  ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.85 ล้านบาท
    • 1 Bedroom  26 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
    • 1 Bedroom (Smart Closet) 26.0 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท
    • 1 Bedroom 34.5 ตรม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
    • 2 Bedroom 41.5 ตรม. ราคาเริ่มต้น 3.45 ล้านบาท
    • 1 Bedroom DUO 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท

    • รูปแบบการขาย  Fully Fitted + Built-in Furniture
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
    • Kitchen & Sink / Top หินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ HAFELE
    • มีรถ Shuttle Bus รับส่งไป-กลับ
    • จอง 500 บาท
    • ทำสัญญา 25,000 บาท
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 53 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเล : The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ ตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์ เป็นคอนโดที่อยู่ในกลุ่มทำเลสะพานใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเกาะกลุ่มอยู่ใกล้กับถนนพหลโยธินและรถไฟฟ้า ส่วนโครงการนี้จะอยู่ถัดเข้าไปหน่อย มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าแต่อาจจะเดินทางไปรถไฟฟ้าไกลหน่อย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่นั้นถือว่าดีเลยเพราะเป็นทำเลที่มีทุกอย่างครบทั้ง มหาวิทยาลัยหลายแห่ง , โรงเรียน ,โรงพยาบาล , วัด , เขตพื้นที่ราชการ , สนามบินดอนเมือง , ตลาด , ห้างสรรพสินค้า และ Hypermarket  มีร้านค้า ร้านอาหารแบบ Street Food ให้ออกมาหาอะไรทาน

    การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวก มีเส้นทางให้เลือกหลากหลาย ถนนเทพรักษ์จะสามารถเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธิน วัชรพล สุขาภิบาล 5 และสามารถใช้เส้นทางไปยังถนนรามอินทรา วิภาวดีรังสิต สายไหม และ ลำลูกกาได้สะดวก และในอนาคตจะมีการต่อขยายถนนเทพรักษ์ให้ยาวเชื่อมตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิต ผ่านถนนพหลโยธิน ถนนวัชรพล ถนนสุขาภิบาล5 ถนนกาญจนาภิเษก ถนนหทัยราษฎร์ ไปจนถึงถนนนิมิตรใหม่ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกให้กับคนย่านนี้ได้มาก สำหรับทางด่วนสามารถเลือกใช้ได้ทั้งดอนเมืองโทลล์เวย์และรามอินทรา-อาจณรงค์ค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการนี้อยู่ห่างจาก BTS สถานีสายหยุดประมาณ 700 เมตร ซึ่งถ้าเดินอาจจะไกลหน่อย  แต่ทางโครงการก็จะมี Shuttle Bus วิ่งรับส่งให้ที่สถานีรถไฟฟ้าส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆสามารถเดินทางได้สะดวกสามารถเรียกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์หรือ Taxi ได้ง่าย บนถนนพหลโยธินก็มีรถสาธารณะให้เรียกครบค่ะ

    วัสดุ : ถือว่าให้ค่อนข้างดีนะ เมื่อเทียบกับคอนโดในระดับราคาใกล้ๆกัน เช่น ให้ Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ อุปกรณ์ครัวของ Hafele ถึงแม้ว่าจะขายแบบ Fully Fitted แต่ก็ให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เพิ่มเข้ามาหลายชิ้น มี Digital Door Lock และ Home Automation มาให้ และในห้อง 1 Bedroom Plus ขึ้นไปจะมี Smart Mirror เพิ่มมาให้ด้วยค่ะ

    การออกแบบ : ดีไซน์อาคารทำได้มี ชอบตรงที่มีการออกแบบโดยคำนึงถึงแดด ลมและความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางได้สวยตรง Concept ส่วนห้องพักอาศัยทำแบบมาให้เลือกหลากหลาย มีห้อง Smart Closet ที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่เก็บของเยอะๆ ห้อง DUO ฝ้าเพดานสูง ห้องระเบียงใหญ่ที่เดินออกไปที่ด้านข้างสระว่ายน้ำได้ ส่วนห้องอื่นๆ ก็จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วนแยก Common Area และ พื้นที่พักผ่อนได้ดี

    สาธารณูปโภค : ให้มาหลากหลายแบ่งออกเป็นชั้น 1 ชั้น 3 และชั้น 14 สามารถแยกการใช้งานออกเป็นหลายๆส่วน ทำให้ลูกบ้านไม่มาอัดแน่นกันอยู่ชั้นใดชั้นหนึ่ง มีส่วนกลางที่ออกแบบมาสำหรับคนวัยเรียนและวัยทำงานเช่น Meeting Room Co-Working Space Multi – Function Studio มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และเป็นคอนโดในย่านนี้ที่มีพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้าให้ใช้ (Private Party Room , Co-Kitchen) สามารถชมวิวมุมสูงในย่านนี้ได้ อีกทั้งยังมีบริการแม่บ้านทำความสะอาด และบริการผ่าน Application ในมือถือต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 75,000 บาท/ตร.ม., 16 June 2020

    • ทำเล 7.5/10 – อยู่บนถนนเทพรักษ์ มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างดี
    • เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – ใช้เส้นทางได้หลากหลาย ที่จอดรถ 49%
    • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ห่าง BTS สายหยุดประมาณ 700 เมตร เรียกรถสาธารณะได้สะดวก มี Shuttle Bus
    • วัสดุ 8.25/10 – ให้มาค่อนข้างดี ขายแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์บางรายการ + Home Automation และ Smart Mirror
    • แบบ 8.25/10 – ออกแบบได้ดี น่าใช้งาน ฟังก์ชันครบ มีห้องให้เลือกหลากหลาย
    • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาค่อนข้างหลากหลาย ออกแบบน่าใช้งาน เมื่อเทียบกับคอนโดในระดับราคานี้

    • MAIN CLASS
    • 7.71/ 10.00

    BOTTOM LINE

    The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดงบประมาณ 2-3 ล้าน ที่สามารถไปใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้สถานีในระยะเดิน ชอบทำเลย่านสะพานใหม่ อยากได้คอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะ มีห้องที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ห้อง 1 Bedroom Plus หรือ ห้อง 2 Bedroom ให้เลือก มีบริการต่างๆเพิ่มเข้ามาทำให้สะดวกสบาย 


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving