รีวิว Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์) …หลักจากที่เราไม่ได้เห็นคอนโดเปิดใหม่ในโซนประดิพัทธ์มาสักพัก ซึ่งครั้งนี้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ เพราะเป็นโครงการ Mix-Used ระหว่างคอนโดฯ และสำนักงาน เริ่ม 2.99 ล้านบาท เบื้องต้นเราสรุปความน่าสนใจของโครงการไว้ตามลิสต์ด้านล่างนี้

  • โครงการ Mix-Used : ระหว่างคอนโดฯและออฟฟิศ ข้อดีของโครงการลักษณะนี้ก็สะดวกมากสำหรับกลุ่มเจ้าของกิจการหรือพนักงานที่อยากพักอยู่ในอาคารเดียวกับออฟฟิศ แต่ก็ต้องยอมรับว่าจะไม่ได้มีแต่เจ้าของร่วมเท่านั้นที่เข้า-ออกโครงการนี้ จะมีพนักงานต่างๆ ด้วย ซึ่งโครงการก็มีการแยกโซนคอนโดฯ ออกจากออฟฟิศอย่างชัดเจน หรือหากออฟฟิศไม่ได้อยู่ในโครงการนี้ก็จะได้ประโยขน์จากโซนร้านค้าที่มีรองรับไว้ 5 ยูนิต ช่วยให้มีร้านค้าไว้ฝากท้องยามหิวในโครงการเลย
  • มีห้อง Loft และห้องฝ้าเพดานสูงพิเศษ 3 m. ให้เลือก : นอกจากรูปแบบห้องตามปกติ โครงการยังมีห้อง Loft ซึ่งเป็นของหายากในโซนนี้ และห้องฝ้าเพดานสูงพิเศษ 3 m. ให้เลือก ซึ่งปกติฝ้าเพดานสูงแบบนี้จะอยู่ในโครงการ Luxury เลยนะคะ
  • ส่วนกลางจัดเต็ม : เป็นโครงการที่ให้ Facility ส่วนกลางเยอะเป็นลำดับต้นๆ ของย่าน ซึ่งให้พื้นที่ส่วนกลางทั้งโครงการเกือบ 2 ไร่ รวม 6 ชั้น
  • ออกแบบห้องได้น่าอยู่อาศัย : ห้องดูโปร่งดีทีเดียว เพราะโครงการเลือกใช้กระจกบานใหญ่ รับได้แสงธรรมชาติได้เยอะ เกือบทุก Type จะได้ห้องครัวปิดทำอาหารได้เป็นสัดส่วน และห้องน้ำก็มีพื้นที่กว้างกว่าโครงการอื่นๆ ในระดับเดียวกันอยู่เล็กน้อย เข้าไปแล้วส่วนตัวรู้สึกไม่อึดอัด ใช้งานได้สะดวกค่ะ
  • ไม่มีตึกสูงบล็อควิว : ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมือง แต่ไม่โดนบล็อควิว เพราะอยู่ติดเขตทหารส่วนหนึ่ง และที่ดินละแวกนี้ก็เป็นที่ดินอยู่อาศัยย่อยๆ รวมแปลงยากค่ะ
  • ทำเลเหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว : โครงการอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ในโซนที่อิงกับถนนพระราม 6 ใกล้ทางด่วนประมาณ 1 km. เท่านั้น  แต่หากต้องการใช้รถไฟฟ้าก็มี Shuttle Service ของโครงการคอยรับ-ส่งอยู่ค่ะ

รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามไปชมกันเลยค่า

ข้อมูลโครงการ

Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์) ณ วันที่ 3 มีนาคม 2567

 ชื่อโครงการ  Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์ )
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ปรีดา เรียลเอสเตส จำกัด
 SEGMENT CLASS  MAIN-UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนประดิพัทธ์ เขตพญาไท
 ที่ดิน  3-3-59 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 50 ชั้น
 จำนวนยูนิต  ห้องพักอาศัย 524 ยูนิต, สำนักงาน 29 ยูนิต และร้านค้า 5 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  22 ยูนิต
 ที่จอดรถ  รวมทั้งโครงการคิดเป็น 60 % แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking และที่จอดแบบปกติ
 เริ่มก่อสร้าง  ธันวาคม ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปลายปี 2569
 ประเภทห้องพัก
  • Studio  พื้นที่ใช้สอย 29.9 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.49-35.90 ตร.ม.
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 45.82-54.78 ตร.ม.
  • Loft 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 28.49 ตร.ม.(+ชั้นลอย 10 ตร.ม.) – พื้นที่โฉนด 38.90 ตร.ม.(+ชั้นลอย 16 ตร.ม.)
  • Loft 2 Bedroom พื้นที่โฉนด 45.82 ตร.ม.(+ชั้นลอย 19 ตร.ม.) – พื้นที่โฉนด 54.49 ตร.ม.(+ชั้นลอย 15 ตร.ม.)

 ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร ในแบบห้องปกติ / 3.00 ในห้อง High Ceiling และ  4.60 เมตร ในแบบห้อง Loft
 ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ 120,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) 106,900 – 135,000 บาท
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center 02-821-5420

ทำเลที่ตั้ง

Highlights

  • อยู่บนถนนประดิพัทธ์ในฝั่งที่อิงถนนพระราม6 ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน
  • ใกล้แหล่งงาน เช่น โรงพยาบาลชื่อดัง, SCG, สถานที่ราชการต่างๆ

พิกัด Google Maps : 13.792463 , 100.535761
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์)

Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์) ตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ฝั่งวิ่งเข้าถนนพระราม 6 ติดแยกเทอดดำริ จุดเด่นของโครงการคือ ใกล้ทางด่วนในระยะเพียง 1 km. และวิ่งเชื่อมต่อกับถนนเส้นใหญ่ๆได้ง่าย ทำให้มีทางเลือกในการใช้เส้นทางต่างๆ เข้าเมืองทั้งถนนพระราม 5, พระราม 6, พหลโยธิน, วิภาวดีรังสิตและรัชดาภิเษก จึงเป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้สะดวกมาก

พูดถึงคอนโดในโซนประดิพัทธ์จะกระจุกตัวกันทางฝั่งถนนพหลโยธินเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นฝั่งที่ใกล้รถไฟฟ้าและโซนออฟฟิศที่เกาะบนถนนพหลโยธิน ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมือสองที่มีราคาต่อตารางเมตรอยู่ประมาณ 130k-150k ในส่วนของ Solace จะขยับออกมาอิงถนนพระราม 6 ใกล้ทางด่วนแต่จะห่างจากรถไฟฟ้าสะพานควายประมาณ 1.8 km. จึงมีราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 120k ทำให้หยิบจับง่ายกว่า

ทางด่วน : 

Image 1/4
หากต้องการเดินทางจาก Solace พหลฯ-ประดิพัทธ์ เข้าเมืองไปทางเพลินจิต, พระราม 9, พระราม 3 ก็สามารถมาขึ้นทางพิเศษศรีรัช (ฝั่งขาเข้าเมือง) ได้สะดวก ในระยะประมาณ 1.7 km.

หากต้องการเดินทางจาก Solace พหลฯ-ประดิพัทธ์ เข้าเมืองไปทางเพลินจิต, พระราม 9, พระราม 3 ก็สามารถมาขึ้นทางพิเศษศรีรัช (ฝั่งขาเข้าเมือง) ได้สะดวก ในระยะประมาณ 1.7 km.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ถือว่าสะดวกสบาย เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ประดิพัทธ์มีรถสาธารณะวิ่งอยู่เยอะเลย ทั้งรถเมล์, แท็กซี่, พี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือถ้าต้องการไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีสะพานควาย, สถานีบางซื่อ ทางโครงการก็มี Shuttle Service คอยรับ-ส่งค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆ Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์) เป็นพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัยเก่าแก่ที่มีความคึกคักมาก เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารในราคาเป็นมิตร มีอาหารขายตลอดทั้งวัน ร้านอาหารก็สลับกันเปิดหลากหลายแนว สะดวกสบายในการใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง อาคารโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นท์ โรงแรม และคอนโดมิเนียม

นอกจากนั้นโซนนี้ยังเต็มไปด้วยโรงพยาบาลชื่อดัง เช่น รพ.วิชัยยุทธ, รพ.พญาไท 2, รพ.รามาธิบดี, รพ.ราชวิถี และ รพ. พระมงกุฎเกล้า และอาคารสำนักงานหลายแห่ง เช่น SCG, The Rich Tower, AIS Tower 2, Pearl Bangkok, อาคารทิปโก้ และแหล่งงานราชการต่างๆ ในโซนนี้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์) เป็นอาคารพาณิชย์เดิมเป็นส่วนใหญ่สูง 4-5 ชั้น ไม่มีอาคารสูงบล็อควิวรอบข้าง ทำให้วิวจากภายในโครงการเมื่อมองออกไปด้านนอกค่อนข้างโล่ง ไม่มีอาคารสูงมาบดบังวิวและทิศทางลมเข้าค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคาร 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ตึกแถว 4-5 ชั้นและบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนประดิพัทธ์และบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนกำแพงเพชร 5 และถนนเทอดดำริ

Image 1/4
ที่ตั้งอยู่โครงการอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ เป็นแปลงหัวมุมก่อนถึงทางรถไฟ ซึ่งห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 12 เป็นต้นไป สูงจากพื้นประมาณ 30 เมตร ก็ช่วยลดเรื่องเสียงจากรางรถไฟลงไปได้ค่ะ

ที่ตั้งอยู่โครงการอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ เป็นแปลงหัวมุมก่อนถึงทางรถไฟ ซึ่งห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 12 เป็นต้นไป สูงจากพื้นประมาณ 30 เมตร ก็ช่วยลดเรื่องเสียงจากรางรถไฟลงไปได้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • La Villa Ari ~ 2.5 km.
  • Big C Super center สะพานควาย ~ 3 km.
  • สวนจตุจักร ~ 3.2 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลวิมุต ~ 1.5 km.
  • โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ~ 1.9 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ~ 4.6 km.
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 7.4 km.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 12 km.

การเดินทาง

  • ทางพิเศษศรีรัช ~ 1 km. ด่านคลองประปา 1 (ขาออกเมือง)
  • ทางพิเศษศรีรัช ~ 1.7 km. ด่านคลองประปา 2 (ขาเข้าเมือง)
  • BTS สะพานควาย ~ 1.8 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • เป็นโครงการ Mix-Used ระหว่างคอนโดมิเนียมและออฟฟิศ แต่มีการแยกโซนคอนโดฯ ออกจากออฟฟิศอย่างชัดเจนเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว
  • Facilities ส่วนกลางจัดเต็ม เยอะเป็นลำดับต้นๆ ในย่าน พื้นที่ส่วนกลางรวมทั้งโครงการเกือบ 2 ไร่ รวม 6 ชั้น
  • โถงทางเดินแบบ Single Corridor เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับการอยู่อาศัย

ก่อนเข้าไปชมรายละเอียดโครงการ หลายคนคงอยากทราบว่าปรีดา เรียลเอสเตส นั้นมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน เคยพัฒนาโครงการไหนมาบ้าง? ซึ่งเราบอกเลยว่ามีหลายโครงการที่ชื่อน่าจะคุ้นหูใครหลายๆ คนด้วยทีเดียว เช่น บ้านสามเสนคอนโดมิเนียม และแบรนด์กรีเน่ คอนโด อีกหลายโลเคชั่นทั้ง กรีเน่ คอนโด สุทธิสาร, กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ, กรีเน่ คอนโด ดอนเมือง-สรงประภา เฟส 1 (เดอะ มัลดีฟ), กรีเน่ คอนโด ดอนเมือง-สรงประภา เฟส 2 ( ไมอามี่ ), โครงการ  Grene Prime ดอนเมือง-สรงประภา (The Santorini) เป็นต้น

ซึ่งปรีดา เรียลเอสเตส เป็นบริษัทในเครือห้างหุ้นส่วนจำกัด ปรีดาก่อสร้าง ที่มีประสบการณ์ก่อสร้างมากมายครอบคลุมงานอาคารเกือบทุกประเภท ได้แก่ พระมหาธาตุเจดีย์พักดีประกาศ, พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์, พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จึงอยู่ในวงการก่อสร้าง และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 60 ปีแล้วค่ะ

Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์) เป็นโครงการ Mixed-Use เปิดใหม่ระหว่างคอนโดฯ และออฟฟิศ ออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายแต่ก็ยังความทันสมัยเข้ากับทำเลทั้งกลางใจเมืองบนถนนประดิพัทธ์ อิงฝั่งพระราม 6 สูง 50 ชั้นรวม Rooftop ซึ่งข้อดีของโครงการ Mixed-Use ก็คือความครบครันสะดวกสบาย เพราะหากออฟฟิศตั้งอยู่ในโครงการเดียวกัน แค่นั่งลิฟต์ลงมาก็ถึงออฟฟิศแล้ว ไม่ต้องนั่งรถไปทำงานเลย หรือหากออฟฟิศไม่ได้อยู่ในโครงการนี้ก็จะได้ประโยชน์จากโซนร้านค้าที่มีรองรับไว้ 5 ยูนิต ช่วยให้มีร้านค้าไว้ฝากท้องยามหิวในโครงการเลย

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้คือ Facilities ส่วนกลางจัดเต็ม เรียกได้ว่าเยอะเป็นลำดับต้นๆ ในย่าน พื้นที่ส่วนกลางรวมทั้งโครงการเกือบ 2 ไร่ กระจายอยู่ทั้ง 6 ชั้น ฟังก์ชันครบครันรองรับไลฟ์สไตล์ทั้ง กลุ่มที่ชอบออกกำลังกาย และปาร์ตี้ พักผ่อน ซึ่งเราจะพาไปชมทีละชั้นกันค่ะ

เริ่มจากชั้น 1 จะมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว รถยนต์จะผ่านเข้าออกด้วย Keycard ดังนั้นรถที่ผ่านเข้าออกได้แบบอัตโนมัติจะเป็นรถของลูกบ้าน สำหรับรถของ Visitors จะต้องแลกบัตรค่ะ เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอกับ Drop-Off 2 จุด แยกโซนออฟฟิศและโซนพักอาศัย เพื่อให้วนรับ-ส่งหน้าอาคารได้สะดวก ที่จอดรถจะมีทั้งรอบอาคารและบนอาคาร

Lobby โซนออฟฟิศออกแบบฟังก์ชันไว้เป็นพื้นที่สำหรับรอลิฟต์ และมีร้านค้า 3 ยูนิต (อีก 1 ยูนิตจะอยู่บนชั้น 2) จุดที่เราชอบคือโครงการแยก Lobby โซนพักอาศัยออกมาต่างหาก ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว จัดฟังก์ชันไว้เป็น Lobby Lounge และ Auto Parking Lounge เพื่อใช้ในการนัดพบ, พักคอย, และรอรถที่จอดบน Auto Parking เป็นหลัก และมีร้านค้าอีก 1 ยูนิตที่แยกมาอยู่ในโซนนี้ เราเดาว่าน่าจะเป็นร้านซัก-อบ-รีดในอนาคตค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็น Lift Lobby สำหรับขึ้นไปยังชั้นพักอาศัย มีลิฟต์ให้ใช้ 3 ตัว โดยต้องใช้ Key Card ในการขึ้นลิฟต์เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน อัตราส่วนลิฟต์โซนพักอาศัย 175 :  1 ถือว่าเยอะพอสมควร แต่ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อเทียบกับคอนโดในเมืองแบบนี้ และมี Service Lift แยกเอาไว้อีก 1 ตัวค่ะ

ภาพจำลองบริเวณหน้าโครงการติดถนนประดิพัทธ์ ซึ่งโซนที่ติดถนนใหญ่จะเป็นโซนออฟฟิศ ส่วนโซนพักอาศัยจะขยับเข้าไปอยู่ด้านในช่วยลดมลภาวะทางฝุ่นและเสียงจากพื้นที่ริมถนนได้ ตัว Facade ดูสะดุดตาด้วยกระจกบานใหญ่และ มี Aluminium Composite Panel ช่วยบังแดดและ UV ซึ่งวัสดุชนิดนี้มีคุณสมบัติที่สีจะไม่หมองลง ดูใหม่ตลอด

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby Office Zone ให้บรรยากาศที่หรูหราและอบอุ่น

ในส่วนของ Lobby Residential Zone เน้นฟังก์ชันเป็นพื้นที่  Lobby Lounge และ Auto Parking Lounge มีโซฟาหลายชุดไว้รองรับการใช้งาน บรรยากาศดูโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ให้สามารถมองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียวรอบๆ โครงการได้

ชั้น 10 จัดเป็นชั้น Facilities หลักของโครงการแบบเต็มชั้น ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume รวมกับพื้นที่ชั้น 11 ทำให้ได้ความโปร่งโล่งเป็นพิเศษ บรรยากาศจริงเมื่อสร้างเสร็จคงจะน่าใช้งานมากทีเดียว

สำหรับ Facilities บนชั้นนี้จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำ หรือที่โครงการมีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Panoramic Swimming Pool เป็นสระระบบเกลือขนาด ขนาด 10×33.35 เมตร ลึก 1.55 เมตร ซึ่งในสระจะมี Jacuzzi ที่หันรับวิวพระอาทิตย์ตกในยามเย็นด้วย นอกจากนี้ยังมีการแยกพื้นที่สระเด็กเป็นสัดส่วน เรียกว่า Aqua Kids Playground ซึ่งมีสไลด์เดอร์ด้วยนะคะ

ในส่วนของพื้นที่ Outdoor จะมีฟังก์ชันเอาใจคนที่ไม่ได้อยากว่ายน้ำแต่ชอบชมวิวริมสระ อย่าง Private Pool Bar และ Sun Lounge มุมนี้จะได้วิวสระและพระอาทิตย์ตกด้วยเช่นกัน แต่หลักๆ ก็จัดให้เป็นพื้นที่สวนเป็นหลัก แต่จะออกแบบไว้ให้มีจุดนั่งชมวิวทางทิศใต้, ตะวันออกและตะวันตก

ถ้าเป็นฟังก์ชัน Indoor ก็จะมี Fitness ขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมด้วยสวน และมีห้อง Private ต่างๆ ให้จองใช้งาน ทั้ง Private Onsen และ Private Spa & Beauty Salon

โครงการจัด Main Facilities ไว้บนชั้น 10-11 ทำให้สามารถชมวิวเมืองรอบๆ ไปได้ เพราะจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการในปัจจุบันยังไม่โดนบล็อควิวจากตึกสูงในระยะประชิดนะคะ

ภาพจำลอง Sky Fitness เป็นผนังกระจกรอบด้านเปิดรับวิวทุกทิศทาง ภายในจัดวางเครื่องออกกำลังกายให้รับวิวแม่น้ำได้ รองรับการออกกำลังกายทั้ง Cardio และ Weight Training และมีห้อง Yoga ให้ฝึกความยืดหยุ่นของร่างกายด้วยค่ะ ครบครันเลย

ภาพจำลอง Panoramic Swimming Pool ตำแหน่งของสระว่ายน้ำจะอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เรามองว่าได้วิวแม่น้ำสวยที่สุดของโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Recreational Pond ให้บรรยากาศร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติทั้งต้นไม้และผืนน้ำตกแต่ง

อีกห้องที่น่าสนใจคือ Private Onsen โดยผนังอาคารเป็นกระจกบานใหญ่ให้เปิดรับวิวเมืองโดยรอบ

ตั้งแต่ชั้น 12 เป็นต้นไปจะเริ่มเป็นห้องพักอาศัย โดยมีจุดเด่นของการวางผังให้ห้องพักส่วนใหญ่ มีทางเดินหน้าห้องแบบ Single Corridor ไม่มีห้องพักฝั่งตรงข้าม จึงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน

ในส่วนของชั้น  15-16 มีจำนวนห้องพักอาศัย 22 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 1 Bedroom แต่ก็มีห้อง 2 Bedroom ในตำแหน่งของห้องมุมให้หยิบจับอยู่นิดหน่อย ทิศห้องจะเน้นไปทางตะวันออก/ตะวันตกเป็นหลัก โดยห้องทิศตะวันออกจะได้วิวตัวเมือง มองไปทางถนนพหลโยธิน ส่วนห้องทิศตะวันตกจะได้วิวทางโซนทหาร วิวค่อนข้างโล่งมากๆ เลยค่ะ แม้ว่าห้องฝั่งนี้จะใกล้กับทางรถไฟมากกว่าห้องทางทิศตะวันออก แต่ทางโครงการก็เริ่มห้องพักที่ชั้น 12 เลยนะคะ มีระยะความสูงจากพื้นน่าจะเกือบ 30 เมตรน่าจะช่วยลดเสียงรบกวนจากรางรถไฟไปได้พอสมควรเลยค่ะ

ขยับมาที่ชั้น 17-18 มีจำนวนห้องพักอาศัย 22 ยูนิต ซึ่งเป็นห้อง Loft ทั้งชั้น มีให้เลือกทั้งห้อง Loft แบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ค่ะ เรื่องวิวของห้องพักก็จะเน้นห้องทิศตะวันออก-ตะวันตก คล้ายกับห้องพักบนชั้น 15-16 ค่ะ

ชั้น 19 จะเป็นโซนพักอาศัยรวมอยู่กับ Facilities ของโครงการ ซึ่งมีห้องพักอาศัยเพียง 7 ห้อง หากใครชอบใช้ Facilities ส่วนกลางก็เหมาะเลยค่ะ เดินมาใช้งานได้สะดวก แต่ก็อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างเพราะลูกบ้านคงมาใช้ส่วนกลางบนชั้นนี้เยอะ เบื้องต้นโครงการจะมีประตูแยกโซนพักอาศัยไว้จึงเข้าถึงห้องพักได้เฉพาะลูกบ้านที่พักบนชั้นนี้นะคะ

สำหรับ Facilities บนชั้นนี้จัดเป็นพื้นที่สำหรับหนุ่มสาวที่ชอบสังคม มี Social Club, Social Bar, Sky Private Kitchenและ Legacy Lounge ไว้รองรับ โซนนี้จะมีบันไดเชื่อมไปยัง Skyline Lounge บนชั้น 20 ให้นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตก ในห้องแอร์ได้ด้วยค่ะ

ส่วนของกลุ่มที่ต้อง Work From Home เป็นประจำก็มี Private Pod, Meeting Room และ Podcast Studio ให้เลือกใช้ได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันแบบ Outdoor รองรับการพักผ่อนในบรรยากาศสวน เช่น Outdoor Dining และ Party Deck

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Party Deck รับวิวเมืองททางฝั่งทิศใต้ Take View ไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Private Kitchen มีโซนครัวไว้รองรับการทำอาหาร และมีพื้นที่ให้จัดปาร์ตี้เล็กๆ ได้

Image 1/8
ภาพจำลองบรรยากาศในโซน Social Club, Social Bar, Sky Private Kitchenและ Legacy Lounge บนชั้น 19-20

ภาพจำลองบรรยากาศในโซน Social Club, Social Bar, Sky Private Kitchenและ Legacy Lounge บนชั้น 19-20

สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากขึ้นไปอีก และงบยังไหว เราของแนะนำให้เลือกชั้น 21 เป็นต้นไป เพราะจำนวนยูนิตจะน้อยลงเหลือ 13 ยูนิตต่อชั้น และได้ Single Corridor เกือบทุกยูนิตเลย

ชั้น 44-49 เป็นอีกโซนที่มีจำนวนห้องพัก 13 ยูนิต จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเช่นกัน และชั้นเหล่านี้ยังมีฝ้าเพดานสูง 3 เมตร สูงกว่าห้องพักชั้นอื่นๆ ของโครงการเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

1st Floor

  • Lobby Lounge
  • Automated Parking Lounge
  • Lift Gallery แยก Residential Zone กับ Office Zone
  • Smart Locker

10th Floor

  • Private Onsen แยกชายหญิง
  • Private Spa & Beauty Salon
  • Mail Room 
  • The Oasis Fitness
  • Private Pool Bar
  • Panoramic Swimming Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 10×33.35 เมตร ลึก 1.55 เมตร
  • Aqua Kids Playground
  • Sun Lounge
  • Therapeutic Plunge Pool
  • Sunset View jacuzzi
  • Kids Playground
  • Recreational Ponds
  • Sky Courtyard
  • Sky Viewing Deck
  • Urban Farming

11th Floor

  • Sport & Game Lounge 
  • Pilates & Yoga room 
  • Kids Club 
  • Dance Studio
  • Sunset View Terrace

19th Floor

  • Legacy Lounge
  • Social Bar
  • Legacy Wing
  • Podcast Studio
  • Private Pod
  • Meeting Room 
  • Social Club 
  • Sky Private Kitchen 
  • Party Deck 
  • Outdoor Dining
  • Sky Forest Walkway
  • Sky Line Lounge (Mezzanine)

20th Floor

  • Floating Daybed
  • Sky Garden Deck
  • Skywalk

Rooftop

  • Observation Deck
  • Star Deck 

 

  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 174 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถรวมทั้งโครงการคันคิดเป็น 60%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV
  • เข้าออกประตูรั้วโครงการด้วย Key Card
  • เข้าออกอาคาร – ขึ้นลิฟต์ ด้วย Key Card

แบบห้อง

Highlights : 

  • มีห้อง Loft และห้องฝ้าเพดานสูงพิเศษ 3 m. ให้เลือก : นอกจากรูปแบบห้องตามปกติ โครงการยังมีห้อง Loft ซึ่งเป็นของหายากในโซนนี้ และห้องฝ้าเพดานสูงพิเศษ 3 m. ให้เลือก ซึ่งปกติฝ้าเพดานสูงแบบนี้จะอยู่ในโครงการ Luxury เลยนะคะ
  • ให้กระจกบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติได้เยอะ ห้องดูโปร่ง
  • พื้นที่ห้องน้ำกว้างกว่าโครงการอื่นๆ ในระดับเดียวกัน มีพื้นที่ทางเดินกว้างกว่าปกติเล็กน้อย ใช้งานได้สะดวกขึ้น

Image 1/5
แบบห้องหลักๆ ของโครงการ

แบบห้องหลักๆ ของโครงการ

แบบห้องของโครงการ Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์) มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่แบบ Studio ไปจนถึงห้อง Loft เหมาะทั้งการอยู่อาศัยคนเดียว, อยู่เป็นคู่, เป็นบ้านหลัก, เป็นบ้านหลังที่ 2 ของครอบครัว และนักลงทุน ซึ่งโครงการออกแบบห้องมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน มีหลักๆ ทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้

  • Studio  พื้นที่ใช้สอย 29.9 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.49-35.90 ตร.ม.
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 45.82-54.78 ตร.ม.
  • Loft 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 28.49 ตร.ม.(+ชั้นลอย 10 ตร.ม.) – พื้นที่โฉนด 38.90 ตร.ม.(+ชั้นลอย 16 ตร.ม.)
  • Loft 2 Bedroom พื้นที่โฉนด 45.82 ตร.ม.(+ชั้นลอย 19 ตร.ม.) – พื้นที่โฉนด 54.49 ตร.ม.(+ชั้นลอย 15 ตร.ม.)

โครงการขายแบบ Fully Fitted โดยมีวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมาให้ตามนี้ค่ะ

  • พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยาง SPC
  • พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิค
  • พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค
  • ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
  • กรอบบานหน้าต่างอลูมิเนียม กระจกลามิเนต
  • Digital Door Lock
  • เคาน์เตอร์ครัว Built-in
  • Hob&Hood
  • Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์
  • ตู้เสื้อผ้า Built-in
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ COTTO เป็นหลัก
  • ฉากกั้นอาบน้ำ
  • แอร์ จำนวน 2-4 เครื่องขึ้นอยู่กับขนาดห้อง
  • บันไดโครงเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป (เฉพาะห้อง Loft)
  • ราวกันตกบนชั้นลอย ให้เป็นราวกระจก (เฉพาะห้อง Loft)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


ห้องตัวอย่าง แบบ LOFT 1 Bedroom

ห้องตัวอย่างห้องแรกเราพาเข้าไปชมห้อง Rare Item อย่าง 1 Bedroom Loft กันค่ะ

ชั้นล่าง – หลักๆ จะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ที่รวมไว้ทั้งพื้นที่นั่งเล่น, ดูทีวี, ทานอาหารเป็นหลัก ในส่วนของห้องครัวจะให้มาเป็นครัวปิด จึงมีประตูช่วยกันกลิ่นและควันเข้าสู่โซนพักผ่อนได้ดี สำหรับห้องน้ำมีตำแหน่งเดียวอยู่ข้างห้องนั่งเล่น

ชั้นลอย – เป็นห้องนอนเต็มชั้นพร้อมตู้เสื้อผ้า และมีพื้นที่เหลือสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานด้วยค่ะ จุดเด่นของห้องนี้นอกจากฟังก์ชันที่ครบถ้วนใช้งานได้สะดวกแล้ว ยังได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าห้องนั่งเล่น และสามารถมองลงมาเห็นพื้นที่นั่งเล่น-ทานข้าว บริเวณชั้นล่างได้ พื้นที่จึงดูโปร่งไม่อึดอัดค่ะ

ประตูหน้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป มาพร้อม Digital Door Lock ให้ใช้งานได้สะดวก

ฟังก์ชันแรกที่เข้ามาเจอก็คือโซนครัว ซึ่งโครงการออกแบบไว้ให้เป็นครัวปิด ..พื้นปูด้วยกระเบื้องยาง SPC คุณสมบัติกันน้ำและความชื้น ไม่บวมน้ำ ทนทานต่อแรงกระแทก ลดรอยขีดข่วน แต่ต้องระวังนิดหน่อยเวลาทำครัวหากของมีคมตกใส่พื้นก็เป็นรอยได้ค่ะ

ห้องมาตรฐานจะมีชุดครัว Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่าง ยกเว้นตู้เย็นและไมโครเวฟ

ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เก็บช้อนส้อมและตู้เก็บของต่างๆ พร้อมหน้าบานปิดไว้เรียบร้อย จุดที่เราชอบเป็นพิเศษคือ ลิ้นชั้นที่ดึงออกมาเพื่อวางของเพิ่มเติมได้ (รูปขวาล่าง) ช่วยเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารในครัว ให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น

ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวแบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันจาก Teka และมีพื้นที่รอบๆ ให้เตรียมอาหาร  โดย Top เคาน์เตอร์จะเป็นหินสังเคราะห์ที่ทนน้ำ ทนความร้อนได้ดี แนะนำให้ติด Backsplash ที่ผนังหลังเคาน์เตอร์เพิ่มอีกสักนิด จะช่วยกันเปื้อนและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

Hob&Hood ดูดควัน ของ Teka โดยเครื่องดูดควันจะเป็นระบบหมุนเวียน อาจระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าระบบที่ต่อท่อปล่อยควันออกไปด้านนอก ครัวลักษณะนี้จึงเหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นไม่ฉุนนักนะคะ

ซิงค์ล้างจานของ Teka หลุมลึกทีเดียว เราลองใส่หม้อและกระทะใบเล็กลงไปก็วางได้หมดนะคะ และที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ซิงค์ล้างจานของที่นี่จะมีฝาปิดมาให้ด้วย หากไม่ได้ล้างจานก็สามารถปิดฝาเพื่อใช้วางของเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้โครงการจะ Built-in ตู้ลอยมาให้ใช้เก็บของเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะมีพื้นที่ห้องเก็บของใต้บันไดซึ่งโครงการจะ Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยนะคะ โดยมีพื้นที่ใต้บันไดให้เก็บของได้ประมาณ 0.8×2 m.

ติดกับห้องเก็บของใต้บันไดจะมีตู้เก็บของ Built-in มาให้ ใช้เก็บรองเท้าหรือของใช้ที่ต้องหยิบบ่อยๆ ก่อนออกจากห้องก็สะดวกดีค่ะ

ส่วนประตูห้องครัวเป็นแบบบานพับ 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างถึง 1 m. เลย

เข้ามาในส่วนของ Common Area เป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง 4.6 m. เปิดรับวิว รับแสงธรรมชาติผ่านกระจกบานใหญ่ และมองเห็นพื้นที่บนชั้นลอยด้วยจึงได้อารมณ์คล้ายอยู่บ้าน 2 ชั้น

พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.1 เมตร สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ค่ะ อีกทั้งยังอยู่ติดหน้าต่างแบบนี้ ก็เลยทำให้สามารถดูทีวีไปด้วยและชมวิวภายนอกไปด้วยได้สบายๆ

มุมที่เราชอบที่สุดภายในห้อง ขอยกให้กับพื้นที่ริมหน้าต่าง เพราะสามารถวางม้านั่งยาวริมหน้าต่าง หรือตั้งโต๊ะทำงานยาวตลอดแนวได้เลย มุมนี้สามารถ Take View เมืองภายนอกได้

ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ติดกับมุมนั่งเล่นเช่นกัน

ห้องน้ำของโครงการนี้เรารู้สึกว่าเค้าให้พื้นที่มากว้างกว่าโครงการอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ทำให้มีพื้นที่ทางเดินกว้างกว่าปกติเล็กน้อย ใช้งานได้สะดวกขึ้น

ภายในแบ่งพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วน ผนังและพื้นโดยรอบปูกระเบื้องไว้ทั้งหมด และมี Low Wall ให้วางของใช้เพิ่มเติมได้

อ่างล้างหน้าของ COTTO มีขนาดมาตรฐาน ส่วนที่เราชอบเลยคือ มีพื้นที่รอบอ่างให้วางของใช้ได้ด้วย

โถสุขภัณฑ์ของ COTTO มาพร้อมสายฉีดชำระ

Shower Box จะมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เป็นแบบบานเปิดปิด พร้อมติดตั้งฝักบัวอาบน้ำและเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ในห้องน้ำจะมีการยกธรณีขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง จึงเป็นสัดส่วนดีทีเดียว โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1 x 1 m. หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก

พื้นที่หลังโซฟาเป็นตำแหน่งวางโต๊ะรับประทานอาหาร จึงสามารถดูทีวีและทานอาหารไปพร้อมกันได้ ขนาดพื้นที่วางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งกำลังดีค่ะ

ด้านหลังโต๊ะทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียง ซึ่งโครงการเตรียมงานระบบไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้า และจะเหลือพื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 x 1.6 m. ให้ใช้วางราวตากผ้าได้ ในส่วนของ Condensing Unit ไว้ด้านบนเรียบร้อยค่ะ

ในส่วนของบันไดจะ Built-in มาให้พร้อมราวจับตามแบบในห้องตัวอย่าง โครงสร้างบันไดเป็นโครงเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป

โครงการพยายามออกแบบให้ตัวบันไดใช้พื้นที่น้อยที่สุด จึงไม่ได้มีชานพักบันไดนะคะ และเนื่องจากฝ้าเพดานชั้น 1 สูงถึง 2.1 m. ทำให้ตัวขั้นบันไดจะชันนิดนึง ใช้เดินขึ้นลงได้ปกติแต่ต้องระมัดระวังสักนิดนึงค่ะ

ชั้นบนจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนแบบเต็มชั้นเลย มีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางเตียง 5-6 ฟุตได้ แต่ถ้าวางเตียง 5 ฟุตแบบในห้องตัวอย่างจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือได้

เราชอบที่โครงการออกแบบราวกันตกเป็นกระจกนะคะ ทำให้พื้นที่บนชั้นลอยดูโปร่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่และสามารถเห็นวิวด้านนอกผ่านหน้าต่างได้ด้วย

สำหรับห้อง Loft แบบนี้ สิ่งหนึ่งที่ควรติดตั้งเพิ่มก็คือม่านบนชั้นลอย เพื่อใช้กันแอร์ไม่ให้ไหลออกไปพื้นที่ส่วนอื่น ช่วยให้แอร์ชั้นบนเย็นเร็วขึ้น

จากชั้นบนมองลงมาก็จะเห็นบริเวณห้องนั่งเล่นพอดี ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น

พื้นที่ปลายเตียงเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า ซึ่งโครงการจะ Built-in มาให้ด้วยนะคะ

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้จะมีบานปิดให้เรียบร้อย พร้อมราวแขวนผ้าและลิ้นชักเก็บของ แต่ในส่วนของตู้โชว์ฝั่งซ้ายจะไม่ได้ให้มาด้วยนะคะ แต่เราก็เก็บไว้เป็นไอเดียสำหรับตกแต่งเพิ่มเติมเองได้


ห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom Type B

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Type B เป็นแบบห้องหลักของโครงการที่มีจำนวนยูนิตให้เลือกเยอะ โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.72 ตร.ม. เป็นแบบ Simplex ชั้นเดียว เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน เมื่อเข้ามาจะเจอกับครัวที่เป็นครัวปิดมีประตูแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน ถัดเข้ามาเป็น Common Area รวมพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยกัน

ในส่วนของห้องนอนจะได้พื้นขนาดใหญ่พร้อมพื้นที่แต่งตัวที่อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก แต่เนื่องจากตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนอีกที จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่ได้รับแขกบ่อยนัก หากเพื่อนฝูงเยอะมาหากันบ่อยอยากแนะนำเป็น 1 Bedroom Type C จะได้ห้องน้ำแยกออกจากห้องนอนค่ะ

เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นครัวปิดเช่นเดียวกับห้องตัวอย่างแบบแรก

ข้างประตูจะมีตู้เก็บรองเท้า Built-in มาให้เรียบร้อย พร้อมใช้งาน

ข้างตู้เก็บรองเท้าเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ซึ่งโครงการวางตู้ขนาด 5.9 คิว ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจริงๆ สามารถใช้ตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ได้นะคะ

สำหรับชุดครัวและตู้ Built-in ทางโครงการจะให้มาตามแบบในห้องตัวอย่างเช่นกัน และยังคงฟังก์ชันพิเศษอย่าง ลิ้นชั้นที่ดึงออกมาเพื่อวางของเพิ่มเติมได้

ประตูเชื่อมไปห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสูงจากพื้นจรดฝ้าเลย ช่วยให้ห้องดูโปร่ง บานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน ทำให้เปิดออกได้กว้าง

เข้ามาด้านในจะเป็น Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้หลากหลาย ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m. เท่ากันทั้งห้องครัวและห้องนั่งเล่น

โต๊ะทานอาหารที่เหมาะกับห้องไซส์นี้คือแบบ 2 ที่นั่ง มีระยะให้เดินใช้งานได้พอประมาณ และจากโต๊ะอาหารก็สามารถมองเห็นทีวีได้ ใครที่ชอบกินข้าวไปดูหนังไปพร้อมๆ กันก็สะดวกเลยค่ะ

พื้นที่ดูทีวีสามารถวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้พอดีๆ มีระยะดูทีวีประมาณ 1.9 m. ใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วกำลังดี

ด้านในสุดของห้องเป็นระเบียง ซึ่งโครงการเตรียมงานระบบไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้า และจะเหลือพื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 x 1.6 m. ให้ใช้วางราวตากผ้าได้

ในส่วนของ Condensing Unit ไว้ด้านบนเรียบร้อยค่ะ

ต่อไปเราจะพาไปชมห้องนอน ซึ่งมีประตูบานทึบกั้นโซนไว้ เรามองว่าประตูบานทึบแบบนี้ให้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการพักผ่อนมากกว่าประตูกระจกบานเลื่อนที่หลายๆ โครงการในยุคนี้ชอบออกแบบกันนะคะ

ภายในห้องนอนกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต ได้ และมีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี สามารถนอนรับวิวจากเตียงนอนได้เลย

หากใครชอบนอนดูทีวีก็ติดทีวีเพิ่มที่ปลายเตียงได้

อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอน เป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว ดูจากขนาดพื้นที่แล้วเราว่ามีพื้นที่กว้างเพียงพอสำหรับการแต่งหน้าแต่งตัวได้สบาย

โดยโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ให้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ไม่ได้ให้โต๊ะเครื่องแป้งมาด้วยนะคะ เราสามารถเก็บเป็นไอเดียในการตกแต่งเพิ่มเติมได้

ภายในตู้ก็จัดมาให้ทั้งราวแขวนผ้าและลิ้นชักเก็บของเลยค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องน้ำ ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันส่วนเปียก-แห้งไว้ชัดเจน มาพร้อมโถสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก COTTO และยังคงจุดเด่นของห้องน้ำที่นี่เลยก็คือ มีพื้นที่กว้างกว่าห้องน้ำโครงการส่วนใหญ่ในระดับเดียวกัน ทำให้มีพื้นที่ทางเดินกว้างกว่าปกติเล็กน้อย ใช้งานได้สะดวกขึ้น

พื้นที่อาบน้ำกั้น Shower Box มาให้ มีขนาด 1.2×0.9 m. ใช้งานได้พอดีๆ ค่ะ


ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom Type D

Image 1/9
ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom Type D

ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom Type D

 

ราคา

Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์) ราคา ณ วันที่ 3 มีนาคม 2567

  • Studio  พื้นที่ใช้สอย 29.9 ตร.ม. เริ่ม 2.99 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 2% ของราคาห้อง
  • ดาวน์ 13% ผ่อนดาวน์ 36 งวด
  • ค่ากองทุน 550 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลางห้องรูปแบบปกติ 55 บาท/ตร.ม./เดือน, ห้อง Loft 70 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล : โครงการ Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ประดิพัทธ์ในฝั่งที่อิงถนนพระราม6 ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัยเก่าแก่ที่มีความคึกคักมาก เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารในราคาเป็นมิตร รายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลชื่อดัง เช่น รพ.วิชัยยุทธ, รพ.พญาไท 2, รพ.รามาธิบดี, รพ.ราชวิถี และ รพ. พระมงกุฎเกล้า และอาคารสำนักงานหลายแห่ง เช่น SCG, The Rich Tower, AIS Tower 2, Pearl Bangkok, อาคารทิปโก้ รวมถึงแหล่งงานราชการต่างๆ ในโซนนี้

หลายคนอาจจะกังวลเรื่องตำแหน่งที่ตั้งใกล้รางรถไฟ โครงการจึงมีการออกแบบห้องพักให้เริ่มตั้งแต่ชั้น 12 เป็นต้นไป สูงจากพื้นประมาณ 30 เมตร ก็ช่วยลดเรื่องเสียงจากรางรถไฟลงไปได้ อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือที่นี่เป็นคอนโดสูงแต่ไม่โดนบล็อควิว เพราะอยู่ติดเขตทหารส่วนหนึ่ง และที่ดินละแวกนี้ก็เป็นที่ดินอยู่อาศัยย่อยๆ รวมแปลงยากค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ : เหมาะมากๆ กับการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะใกล้ทางด่วนในระยะเพียง 1 km. และถนนประดิพัทธ์ยังใช้เชื่อมต่อกับถนนเส้นใหญ่ๆได้ง่าย ทำให้มีทางเลือกในการเข้าเมืองทั้งถนนพระราม 5, พระราม 6, พหลโยธิน, วิภาวดีรังสิตและรัชดาภิเษก และให้อัตราส่วนที่จอดรถรวมทั้งโครงการ 60%

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ถือว่าสะดวกสบาย เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ประดิพัทธ์มีรถสาธารณะวิ่งอยู่เยอะเลย ทั้งรถเมล์, แท็กซี่, พี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือถ้าต้องการไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีสะพานควาย, สถานีบางซื่อ ทางโครงการก็มี Shuttle Service คอยรับ-ส่งค่ะ

วัสดุ : สมราคา ขายแบบ Fully Fitted ซึ่งเกรดวัสดุก็ให้มาเหมาะสมกับราคาดีค่ะ สิ่งที่เราชอบคือให้กระจกบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติได้เยอะ ห้องดูโปร่ง และอีกชิ้นหนึ่งที่ชอบมากก็คือ ตู้เก็บรองเท้าหน้าห้องที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงค่ะ

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการ Mix-Used ระหว่างคอนโดมิเนียมและออฟฟิศ ซึ่งข้อดีของโครงการลักษณะนี้ก็สะดวกมากสำหรับกลุ่มเจ้าของกิจการหรือพนักงานที่อยากพักอยู่ในอาคารเดียวกับออฟฟิศ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าจะไม่ได้มีแต่เจ้าของร่วมเท่านั้นที่เข้า-ออกโครงการนี้ จะมีพนักงานต่างๆ ด้วย ซึ่งโครงการก็มีการแยกโซนคอนโดฯ ออกจากออฟฟิศอย่างชัดเจน หรือหากออฟฟิศไม่ได้อยู่ในโครงการนี้ก็จะได้ประโยขน์จากโซนร้านค้าที่มีรองรับไว้ 5 ยูนิต ช่วยให้มีร้านค้าไว้ฝากท้องยามหิวในโครงการเลย

การออกแบบผังอาคาร : โซนที่ติดถนนใหญ่จะเป็นโซนออฟฟิศ ส่วนโซนพักอาศัยจะขยับเข้าไปอยู่ด้านในช่วยลดมลภาวะทางฝุ่นและเสียงจากพื้นที่ริมถนนได้ อีกประเด็นที่น่าสนใจคือโถงทางเดินบนชั้นพักอาศัยจะเป็นแบบ Single Corridor เกือบทั้งหมด ไม่มีห้องพักฝั่งตรงข้ามช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับการอยู่อาศัย

การออกแบบห้องพักอาศัย : แบบห้องที่แตกต่างจากโครงการโดยรอบเลยก็คือ ห้อง Loft ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น ซึ่งถือเป็น Rare Item ไม่ได้มีให้หยิบจับกันได้บ่อยๆ และห้องอีกรูปแบบหนึ่งคือห้องฝ้าเพดานสูงพิเศษ 3 m. ที่ปกติเราจะเห็นห้องฝ้าเพดานสูงแบบนี้ในคอนโดระดับ Luxury ที่ราคาต่อตารางเมตรสูงกว่านี้นะคะ นอกจากนี้เราชอบที่ห้องพักส่วนใหญ่ให้ออกแบบเป็นห้องครัวปิด ทำให้เป็นสัดเป็นส่วน และเราก็รู้สึกว่าพื้นที่ห้องน้ำนั้นกว้างกว่าโครงการอื่นๆ ในระดับเดียวกันอยู่เล็กน้อย ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น

สาธารณูปโภค : จุดเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่งของโครงการ Solace ก็คือ Facilities ส่วนกลางที่จัดเต็มมาเลยค่ะ เรียกได้ว่าเยอะเป็นลำดับต้นๆ ในย่าน พื้นที่ส่วนกลางรวมทั้งโครงการเกือบ 2 ไร่ รวม 6 ชั้น ฟังก์ชันครบครัน ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มที่ชอบออกกำลังกาย, Work From Home กลุ่มที่ชอบสังสรรค์จัด Private Party, กลุ่มที่ชอบ Onsen, ชอบชมวิว หรือแม้กระทั่ง Private Spa&Salon สำหรับเรียกช่างมาทำผมเสริมสวยก่อนไปงานเลี้ยงก็มีไว้ให้ครบ สมน้ำสมเนื้อกับค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน หรือ ห้อง Loft 70 บาท/ตร.ม./เดือนค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 120,000 บาท/ตร.ม., 3 มีนาคม 2567

  • ทำเล 7.75/10 – ติดถนนประดิพัทธ์ ความอุดมสมบูรณ์สูง รายล้อมด้วยโรงพยาบาลใหญ่และแหล่งงาน
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวกมาก เชื่อมต่อถนนหลักได้หลายสาย  ประมาณ 1 km. ถึงทางขึ้นลงด่วน ที่จอดรถรวมทั้งโครงการ 60%
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการ และมี Shuttle Service รับ-ส่งรถไฟฟ้า
  • วัสดุ 7.5/10 – สมราคา หลายอย่างให้มาดี
  • แบบ 8/10 – ออกแบบดีเน้นความเป็นส่วนตัว, มีห้อง Loft และห้องฝ้าเพดาน 3 เมตรให้หยิบจับได้
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – เยอะเป็นลำดับต้นๆ ของย่าน จัดเต็มฟังก์ชัน

  • MAIN-UPPER CLASS
  • 7.88 / 10.00

Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์) เหมาะกับใคร

เนื่องจาก Solace Phahol-Pradipat (โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์) เป็นโครงการ Mix-Used ส่วนหนึ่งจะเหมาะกับกลุ่มเจ้าของกิจการหรือพนักงานที่อยากพักอยู่ในอาคารเดียวกับออฟฟิศของตนเอง ไม่ต้องการเสียเวลาเดินทางในแต่ละวัน อีกส่วนหนึ่งก็เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนโดยรอบประดิพัทธ์ เช่น สะพานควาย-อารีย์-อนุสาวรีย์ชัยฯ-บางซื่อ หรือจะเข้าเมืองไปทางเพลินจิต-นานา ก็สะดวก เพราะมีทางด่วนใกล้โครงการ

ในแง่ของไลฟ์สไตล์เหมาะกับคนที่ชอบโครงการที่มี Facility ส่วนกลางเยอะๆ ฟังก์ชันหลากหลาย ชอบห้อง Loft ห้องเพดานสูง หรือห้องที่ออกแบบมาดูโปร่งโล่ง ได้กระจกบานใหญ่ ให้ความสำคัญกับขนาดของห้องน้ำที่จะต้องไม่เล็กเกินไป ในราคาเริ่มต้นห้อง Studio 2.99 ล้านบาท หรือ ผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นที่ 20,000 บาท


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่