หลังจากที่ผมเพิ่งพาไปชม Metris ลาดพร้าวกันเมื่อวันก่อน วันนี้มาดู Metris พระราม 9 – รามคำแหง ที่สร้างเสร็จตามกันมาติดๆกันบ้าง.. เป็นคอนโด High Rise 33 ชั้น ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆแยกรามคำแหง ภายในยังคงมาในแนวคิด Pet Friendly เช่นเดิม พร้อมส่วนกลางอื่นๆที่น่าสนใจไม่น้อยเลย แถมยังมีห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ที่สำคัญคือมีห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในย่านนี้เป็นตัวเลือกให้ด้วย ในราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท ไปชมกันครับ

  • ทำเล – เข้าออกด้วย 2 ทาง ทั้งทางถนนพระราม 9 และ ถนนรามคำแหง ทำให้สามารถสัญจรได้สะดวกและอิงความอุดมสมบูรณ์ได้ถึง 2 ย่าน
  • การเดินทางสาธารณะ – ใกล้รถไฟฟ้า APL สถานีรามคำแหงในระยะ 850 เมตร และทางโครงการมี Shuttle Service รับส่ง แถมในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีสถานีรามคำแหง 12 เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุด อยู่ในระยะประมาณ 650 ม.
  • Facilities ส่วนกลาง – ดูดีน่าใช้งานและกระจายอยู่ในหลายๆส่วน ได้ความเป็นส่วนตัว และที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงสัตว์ภายในโครงการได้ ซึ่งในย่านนี้ไม่มีโครงการอื่นที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้
  • ห้องพักอาศัย – มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ และมีห้องแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ซึ่งเป็นแบบที่ไม่มีในย่านนี้

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 3 November 2020

  • METRIS Rama 9 – Ramkamhang (เมทริส พระราม 9 – รามคำแหง)
  • บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนพระราม 9 เขตบางกะปิ
  • คอนโด High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร 570 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 19 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 255 คันคิดเป็น 44.73% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 2-0-25 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : 2018
  • แล้วเสร็จ : Q1 2020
  • 1 Bedroom ขนาด 30 – 30.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 48.01 – 50.62 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.1 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 59.08 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร (ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่น)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 99,666 บาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 110,000 บาท/ตร.ม.
  • Website โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-116-1111

ทำเลที่ตั้ง

ประเด็นเกี่ยวกับทำเลที่น่าสนใจ

  • เข้าออกได้ทั้งถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง
  • โครงการนี้ตั้งอยู่ฝั่งออก ซึ่งจะสามารถเข้าถึงโครงการได้ง่าย เวลากลับจากในเมือง ส่วนเวลาจะเข้าเมืองสามารถกลับรถเข้าเมืองฝั่งพระราม 9 ได้ไม่ไกล ส่วนถ้าจะไปฝั่งรามคำแหงก็มีจุดกลับรถไม่ไกลเช่นกัน จึงทำให้เดินทางได้สะดวกทั้ง 2 ทาง เหมาะกับคนที่ทำงานในทั้งย่านพระราม 9 และรามคำแหง
  • ไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ APL รามคำแหง มีระยะประมาณ 850 เมตร มีรถ Shuttle Service รับส่ง
  • ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีสถานีรามคำแหง 12 เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุด อยู่ในระยะประมาณ 650 ม.
  • ความอุดมสมบูรณ์รอบๆในระยะเดิน ไม่มีร้านสะดวกซื้อและของกินให้เห็นนัก แต่ถ้าขับรถออกมาในระยะไม่เกิน 1-2 กิโลเมตร จะค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทั้งบนถนนพระราม 9 และ รามคำแหงเลยครับ

พิกัด Google Maps : 13.747365, 100.606649
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

สำหรับโครงการนี้จะตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ใกล้กับแยกรามคำแหง ปัจจุบันก็สร้างเสร็จและเป็นที่สังเกตได้ง่าย และในรีวิวก่อนหน้านี้เราก็ได้เขียนเกี่ยวกับทำเลโครงการนี้ไว้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว ใครสนใจอ่านเพิ่มคลิก > ทำเล Metris พระราม 9 – รามคำแหง

จากแผนที่สำหรับคู่แข่งที่ชนกับโครงการเราในย่านนี้นะครับ จะเห็นว่ามีหลายโครงการเหมือนกัน ทั้งในแง่ชนในเรื่องของราคา และชนในเรื่องของทำเล ซึ่งจะเห็นว่าส่วนใหญ่ถ้ายังอยากได้คอนโด “มือหนึ่ง” ในย่านนี้ก็เหลือตัวเลือกกันไม่เยอะแล้วนะครับ เพราะส่วนใหญ่ก็ขายหมดปิดโครงการกันไปแล้ว

โอเค… อย่างแรกเลยคือเรื่องของทำเลครับ โดยโครงการเราเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 แต่มีทางเข้าออก 2 ทาง ทำให้สามารถสัญจรไปมาได้สะดวกทั้งถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง ตรงนี้จะได้เปรียบเพื่อนๆในย่านนี้อยู่ไม่น้อย ส่วนต่อมาจะเป็นเรื่องของจำนวนยูนิต.. ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นตัวเลขที่ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย แต่ก็เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในย่านนี้ (หากนับเฉพาะโครงการ High Rise นะ) ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าโครงการอื่นๆหน่อย

เรื่องต่อมาจะเป็นเรื่องส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ที่โครงการนี้จะเน้นหลักๆไว้ที่ชั้น 1 มีขนาดพื้นที่ใหญ่ ใช้งานและเข้าถึงได้ง่าย ในแต่ละพื้นที่ แต่จะไม่ได้รับวิวสูง โดยถ้าดูรวมๆแล้วส่วนตัวผมว่าก็ยังไม่ได้ดูหวือหวากว่าเพื่อนเท่าไหร่ แต่ที่พิเศษคือเป็นโครงการเดียวในย่านนี้ที่สามารถให้เลี้ยงสัตว์ภายในโครงการได้ และมีการจัดการที่ค่อนข้างดีเลย แถมส่วนของพื้นที่จอดรถก็ให้มาเยอะที่สุดในย่านนี้ที่ 48% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ครับ

เรื่องสุดท้ายที่อยากจะเทียบกับเพื่อนๆในย่านนี้คือรูปแบบห้อง เขามีมาให้เลือกหลายแบบเลย แต่ที่พิเศษคือมีห้องแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom เป็นตัวเลือกให้ด้วย ถึงจะมีไม่เยอะนัก แต่โครงการอื่นๆในย่านนี้ไม่ได้มีรูปแบบห้องแบบนี้ให้เลือกนะครับ

รายละเอียดโครงการ

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • จำนวนยูนิตน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียงในย่านนี้
  • ส่วนกลางกระจายอยู่หลายชั้น และสามารถเลี้ยงสัตว์ภายในโครงการได้
  • ที่จอดรถ 48% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าเยอะ เมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียงในย่านนี้

Project Overview

ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์ “Mid Century Modern” เช่นเดิม (เหมือนกับที่ลาดพร้าว และพัฒนาการ) เพราะเป็นการออกแบบของแบรนด์ “Metris” ที่เกิดมาจากการรวมกันระหว่างคำสองคำ คือ Retro และ Modernist เป็นตัวแทนระหว่างคนยุคใหม่ รวมเข้ากับดีไซน์ของยุคเก่า ซึ่งเดิมทีแล้วนั้น Mid Century Modern จัดเป็นสไตล์การออกแบบในสมัยยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จะเน้นการใช้รูปทรงเลขาคณิตมาเล่นในส่วนต่างๆของอาคาร ทำให้จะเห็นความ Classic ในรายละเอียดต่างๆ เช่นการเลือกใช้วัสดุและโทนสี แต่ก็มีความ Modern ในภาพรวมด้วยรูปทรงอาคาร ความเรียบง่ายของ Space และ เฟอร์นิเจอร์ ทำให้ดูรวมๆแล้วรู้สึกถึงความ Timeless ทันสมัยและไม่ล้าหลัง หรือจะกลับมาดูตอนไหนก็ยังไม่ดูเก่าครับ

โดยโครงการ Metris พระราม 9 – รามคำแหง เป็นคอนโด High rise สูง 33 ชั้น อยู่บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ พื้นที่แต่ละชั้นประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้…

  • Basement 1, 2 : Parking
  • ชั้น 1 : Parking, Double Volume Lobby, Co-Working Space, Sound Dome, Private Meeting Room, Social Lounge, Multi Purpose Room, Dynamic Fitness Center, Boxing, Laundry Room
  • ชั้น 2 : Parking
  • ชั้น 3 : Parking
  • ชั้น 4 : พื้นที่พักอาศัย, สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 13 x 29 เมตร, Shallow Pool, Jacuzzi, Pavilion, Pool Deck
  • ชั้น 5-32 : พื้นที่พักอาศัย
  • ชั้น 33 : Pet Zone, Garden BBQ, Sky Garden, Sky Cabana, สวนและที่นั่งพักผ่อน

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูบริเวณโดยรอบพื้นที่โครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง กันก่อนเลย เริ่มที่ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศใต้ที่ติดกับถนนพระราม 9 เป็นทางเข้าออกหลักของโครงการ ส่วนฝั่งทิศเหนือจะมีอาคารสำนักงานของ Major Development ตั้งติดกับพื้นที่โครงการ ทำให้มีเพียงแค่ 2 ยูนิตเท่านั้นที่หันไปทางฝั่งนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ชิดซะทีเดียว (เดี๋ยวจะพาไปชมนะครับ) ส่วนฝั่งทิศตะวันตกจะหันเข้าสู่ถนนรามคำแหง มีอาคารตึกแถวทางฝั่งนี้เล็กน้อย และอาคารสูงทางฝั่งตรงข้าม และทิศตะวันออกเป็นฝั่งที่โล่งที่สุด มีอาคารสำนักงานอยู่ติดถนนพระราม 9 ครับ ลองไปเดินดูรอบๆกันก่อน ส่วนวิวแต่ละฝั่งของอาคารผมจะพาไปชมอีกทีครับ

Image 1/7
ผมยืนหันหน้าออกนอกโครงการบนถนนพระราม 9 มองไปทางฝั่งมุ่งหน้าไปศรีนครินทร์ ทางฝั่งนี้ค่อนข้างโล่งครับ ติดถนนพระราม 9 ช่วงนี้จะไม่ค่อยมีอะไรคึกคัก จะอยู่ภายในซอยซะเป็นส่วนใหญ่ ตรงนี้จะมีจุดกลับรถที่เลยตัวโครงการไปหน่อย ขับรถออกจากโครงการมาต้องระวังนิดนึงนะครับ

ผมยืนหันหน้าออกนอกโครงการบนถนนพระราม 9 มองไปทางฝั่งมุ่งหน้าไปศรีนครินทร์ ทางฝั่งนี้ค่อนข้างโล่งครับ ติดถนนพระราม 9 ช่วงนี้จะไม่ค่อยมีอะไรคึกคัก จะอยู่ภายในซอยซะเป็นส่วนใหญ่ ตรงนี้จะมีจุดกลับรถที่เลยตัวโครงการไปหน่อย ขับรถออกจากโครงการมาต้องระวังนิดนึงนะครับ

Facility

3

พื้นที่โครงการจะมีทางเข้าออกสองทาง โดยจะมีทางเข้าออกหลักจะอยู่ทางถนนพระราม 9 ด้านข้างมีทางเดินเข้าออกให้ด้วย ส่วนอีกทางฝั่งถนนรามคำแหงจะเป็นทางเข้าออกของอาคาร Office Building ของ Major Development ครับ ซึ่งจะมีรั้วกั้นไม้กระดกแยกให้อีกจุดภายในพื้นที่โครงการ สำหรับรถที่มาใช้งานอาคาร Office Building ก็ไม่สามารถเข้ามาภายในโครงการได้

ผังชั้น 1 ของโครงการ มีทางเข้าออกโครงการ 2 จุดก็จริง แต่ภายในจะมีจุด Drop off ให้จุดเดียวที่บริเวณด้านหน้าสำหรับรับ-ส่ง และเลยเข้าไปจอดรถด้านในโครงการ โดยจะมีให้เลือกระหว่างบนอาคาร 2 ชั้น หรือชั้นจอดรถใต้ดินลงไป 2 ชั้น สามารถจอดได้ 255 คันคิดเป็น 44.73 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน และบริเวณด้านหน้าข้างอาคารจะจัดพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถจักรยาน (Motorcycle Parking) , ที่จอดรถสำหรับ Visitor และมีพื้นที่สำหรับล้างรถ Car wash ไว้ให้ใช้งานด้วย

เมื่อเข้ามาด้านในตัวอาคารพื้นที่บริเวณชั้น 1 ชั้นนี้จัดเป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะจะมีตั้งแต่ Lobby, Co-working space ที่มี Sound Dome, Mail box, Smart Locker, Office, Private Meeting Room, Social Lounge, Multi Purpose Room เลยถัดเข้ามาด้านในจะเป็น Dynamic Fitness Center และ Boxing ส่วนอีกฝั่งของตัวอาคารจะเป็นห้องควบคุมงานระบบอาคารต่างๆ ภายในตัวอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว แบบล็อคชั้น อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 190 : 1 มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง รอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาให้ตามรูปร่างของที่ดินที่เหลือ ส่วนใหญ่พื้นที่สีเขียวจะเน้นไปที่บริเวณชั้น 4 และ 33 เป็นหลักครับ

ชั้น 1

Image 1/18
เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติซึ่งจะใช้เป็นระบบ Easy Pass ครับ ไม่ต้องลดกระจกเพื่อทาบบัตรให้เสียเวลา โดยด้านข้างจะมีป้อมรปภ.ขนาดใหญ่(มาก) ตั้งอยู่ด้วย พื้นเป็นคอนกรีตพิมพ์ลาย

เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติซึ่งจะใช้เป็นระบบ Easy Pass ครับ ไม่ต้องลดกระจกเพื่อทาบบัตรให้เสียเวลา โดยด้านข้างจะมีป้อมรปภ.ขนาดใหญ่(มาก) ตั้งอยู่ด้วย พื้นเป็นคอนกรีตพิมพ์ลาย

ต่อมาที่ ชั้น 4 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางอีกชั้น ซึ่งจะเป็นชั้นแรกของพื้นที่พักอาศัยด้วยเช่นกัน โดยจะมีทั้งหมด 19 ยูนิต/ชั้น แยกโซนกันไว้ค่อนข้างชัดเจน โดยพื้นที่ส่วนกลางจะเน้นไปที่ Outdoor ด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 29 x 13 เมตร มี Jacuzzi และสระเด็กด้วย พร้อมทั้งมีพื้นที่ริมสระรับวิวได้ แถมยังมีห้องน้ำแยกชายหญิงที่ภายในมี Sauna ให้ใช้งานด้วยครับ ลองไปชมบรรยากาศกัน

Image 1/5
ขึ้นมาที่ชั้น 4 หลักๆเลยคือพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor ของสระว่ายน้ำ ข้อดีคือได้ความโปร่งโล่งครับ รับวิวและลมภายนอก

ขึ้นมาที่ชั้น 4 หลักๆเลยคือพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor ของสระว่ายน้ำ ข้อดีคือได้ความโปร่งโล่งครับ รับวิวและลมภายนอก

ชั้น 33 เป็นชั้นสูงสุดของอาคาร ชั้นนี้ไม่มีห้องพักอาศัยนะครับ จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้นเลย โดยจะเน้นไปที่สวนภายนอกรับวิวและลมจากมุมสูง และมีพื้นที่ Pet Area ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวที่สามารถให้น้อง ๆ สัตว์เลี้ยงขึ้นมาเล่นได้นะครับ ข้อดีคือได้พื้นที่ที่เป็นสัดส่วน และไม่รบกวนคนที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงในพื้นที่อื่นๆด้วย นอกจากนั้นยังมีมุม BBQ Garden สำหรับจัดปาร์ตี้ในสวนกันได้ โดยให้ทำการจองกับนิติบุคคลก่อนและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยนะ ลองไปชมบรรยากาศกันครับ

Image 1/6
ขึ้นมาดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่ Outdoor และ Semi-Outdoor ทั้งหมดเลย เน้นรับลมและวิวจากมุมสูง แถมยังเป็นชั้นที่ให้น้องๆขึ้นมาเล่นได้ด้วย ส่วนแรกเป็นพื้นที่พักผ่อนครับ นั่งเล่นรับลมกันไป

ขึ้นมาดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่ Outdoor และ Semi-Outdoor ทั้งหมดเลย เน้นรับลมและวิวจากมุมสูง แถมยังเป็นชั้นที่ให้น้องๆขึ้นมาเล่นได้ด้วย ส่วนแรกเป็นพื้นที่พักผ่อนครับ นั่งเล่นรับลมกันไป


วิเคราะห์ห้องพักอาศัยและวิวรอบๆโครงการ

ส่วนพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 4 แต่ในชั้น 5-33 จัดแบบ Typical Floor Plan เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดจัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารและหันเข้าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ รับวิวหลักๆ 3 ฝั่ง ทางทิศตะวันตก (ได้วิวส่วนกลาง) ทิศใต้ (ฝั่งหน้าโครงการ) และทิศตะวันออก (วิวโล่ง) จัดวางห้องพักไว้สองฝั่งทางเดินแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัวทรงตัว L มีห้องพัก/ชั้น ทั้งหมด 19 ห้อง โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.90 ตารางเมตร จำนวน 9 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 48 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 49.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 50.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 59 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

วางส่วน Service และงานระบบของตัวอาคารใกล้โถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว สำหรับขนของต่างๆและให้สัตว์เลี้ยงใช้ มีบันไดหนีไฟในอาคาร 2 ตำแหน่ง บริเวณแนวทางเดินทั้ง 2 ฝั่งของตัวอาคาร

วิวแต่ละทิศรอบๆโครงการ

Image 1/5
วิวทางฝั่งทิศตะวันตกจากชั้น 26 ของโครงการ จะเห็นแนวอาคารสูง ฝั่งตรงข้าม 2 อาคาร แต่มีระยะห่างพอสมควร ฝั่งนี้จะเห็นแนวอาคารของเราเองด้วย จึงจะทำให้โดนบีบมุมมองให้แคบลงไปหน่อย

วิวทางฝั่งทิศตะวันตกจากชั้น 26 ของโครงการ จะเห็นแนวอาคารสูง ฝั่งตรงข้าม 2 อาคาร แต่มีระยะห่างพอสมควร ฝั่งนี้จะเห็นแนวอาคารของเราเองด้วย จึงจะทำให้โดนบีบมุมมองให้แคบลงไปหน่อย

มาลองดูวิวจากชั้น 26 ของโครงการกันบ้างครับ

แบบห้อง

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • มีแบบห้องให้เลือกเยอะหลายแบบหลายขนาด
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร จัดว่าสูงกว่าโครงการใกล้เคียงในย่านนี้
  • มีห้องแบบ 2 Bedrooms 2 Bathrooms

Product Overview

Metris พระราม 9 – รามอินทรา  มีรายละเอียดรูปแบบห้องขายทั้งหมดดังนี้

  • 1 Bedroom ขนาด 30 – 30.90 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 48.01 – 50.62 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 59.08 ตร.ม.

Image 1/6
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.01 ตร.ม.

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.01 ตร.ม.


ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.

เป็นห้องแรกของเราในวันนี้นะครับ เป็นห้อง 1 Bedroom 30.45 ตร.ม. ห้องทรง 4 เหลี่ยมที่ที่เมื่อเข้ามาจะเจอกับครัวก่อนเลย เป็นครัวเปิดที่ช่วยทำให้ห้องดูโล่ง แต่สำหรับใครที่ชอบทำอาหารอาจจะไม่สะดวกนัก เพราะควบคุมกลิ่นและควันได้ยากหน่อย เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นที่รวมส่วนรับประทานอาหารไว้กับห้องนั่งเล่นด้วย ด้านในจะเชื่อมต่อไปยังระเบียงห้องทำให้ตรงนี้เป็นช่องแสงหลักของห้อง ด้านข้างจะเป็นห้องน้ำที่มีทางเข้าออก 2 ทาง ใช้ร่วมกับห้องนอนด้านใน ข้อดีคือใช้งานได้สะดวกและได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาที่ห้อง ส่วนด้านในห้องนอน จะได้ห้องนอนขนาดค่อนข้างกว้าง ที่มีพื้นที่ทำ Walk-in Closet หน้าห้องน้ำอีกฝั่งให้ด้วย ลองเข้าไปชมกันครับ

Entrance + Kitchen

ส่วนแรกที่เข้ามาในห้องจะเป็นพื้นที่ของครัวเลยครับ เป็นครัวเปิดที่ใช้งานได้ง่ายและช่วยทำให้ห้องดูกว้าง แต่เวลาทำอาหารอาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะควบคุมกลิ่นและควันไม่ให้ไปรบกวนส่วนอื่นได้ยาก จะเหมาะกับการทำอาหารง่ายๆ เช่น ต้ม หรืออุ่นด้วยไมโครเวฟกันซะมากกว่า

ภายในห้องสูง 2.65 เมตร พื้นเป็นลามิเนต ผนังได้ Wallpaper สีขาว

Image 1/3
ด้านหน้าประตูจะเป็นพื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งรับประทานอาหารนะครับ สามารถจัดได้หลากหลาย

ด้านหน้าประตูจะเป็นพื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งรับประทานอาหารนะครับ สามารถจัดได้หลากหลาย

Living Room + Balcony

พื้นที่นั่งเล่นอยู่ด้านในครับ ติดกับระเบียงของห้องซึ่งจะเป็นช่องแสงหลัก ตรงนี้มีระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร เหมาะกับการใช้ทีวีขนาดประมาณ 50-52 นิ้ว

ระเบียงของห้องนี้จะมีกว้างประมาณ 1.6 x 0.8 เมตร สำหรับวางเครื่องซักผ้าแล้วสามารถใช้งานได้

Bedroom

ห้องนอนจะอยู่ด้านข้าง กั้นด้วยประตูบานทึบ ทำให้แยกความเป็นส่วนตัวออกไปได้ดีเลย ลองเปิดเข้าไปดูกัน

Image 1/4
เข้ามาเจอกับห้องนอนขนาดกำลังดี มีช่องแสงให้ใหญ่เลย

เข้ามาเจอกับห้องนอนขนาดกำลังดี มีช่องแสงให้ใหญ่เลย

Bathroom

ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน สำหรับใครที่ชอบใช้ชีวิตอยู่ในห้องนอนก็จัดว่าสะดวกเลย แต่เวลามีแขกมาที่ จะเข้าใช้งานห้องน้ำก็ต้องเดินเข้ามาภายในห้องนอนด้วย ซึ่งจะเสียความเป็นส่วนตัวไปในส่วนนี้ ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่โทนสีอ่อน สุขภัณฑ์และอุปกรณ์จะเป็นของ Hafele

 

Image 1/4
อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์มาพร้อมกระจกเงาครับ

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์มาพร้อมกระจกเงาครับ


ห้อง 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 50.62 ตร.ม.

เป็นห้องหน้ากว้างที่จัดพื้นที่ออกมาได้ค่อนข้างดี ข้อดีคือรับแสงได้เยอะ แยกส่วนความเป็นส่วนตัวได้ดี ด้วยแนวทางเดินภายใน ส่วนแรกจะเป็น Common Area ที่รวมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน จัดได้หลากหลาย ด้านในสุดเป็นระเบียงที่เป็นช่องแสงหลักให้กับห้อง เชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านในด้วยแนวทางเดินที่มีเคาน์เตอร์ครัวอยู่ส่วนนี้ด้วย ข้อดีคือเข้าใช้งานได้ง่าย ดูโล่ง และใช้พื้นที่ไม่เยอะ แต่ข้อเสียคือไม่สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ ทำให้เวลาทำอาหารจริงจังกลิ่นและควันจะไปรบกวนพื้นที่อื่นๆภายในห้องได้ง่าย ด้านในมีห้องนอน 2 ห้องขนาดไม่ต่างกันนัก แต่ห้องนอนใหญ่จะได้ช่องแสงที่กว้างกว่า ส่วนห้องน้ำจะอยู่สุดแนวทางเดินครับ เข้าใช้งานได้ง่ายจากทุกจุด

Living Room + Balcony

พื้นที่แรกเปิดประตูเข้ามาเจอกับ Living Room ขนาดใหญ่ ที่รวมพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นด้านในไว้ด้วยกัน สามารถจัดออกมาได้หลากหลายรูปแบบ หรือจะวางตามห้องตัวอย่างก็ได้

Image 1/4
ด้านหน้าห้องมีพื้นที่วางรองเท้าด้านข้างให้จัดเป็นมุมได้เลย

ด้านหน้าห้องมีพื้นที่วางรองเท้าด้านข้างให้จัดเป็นมุมได้เลย

Kitchen

ส่วนครัวจะอยู่บริเวณแนวทางเดิน ข้อดีคือใช้พื้นที่ได้คุ้มดีครับ เพราะส่วนยืนทำครัวก็ใช้งานร่วมกับพื้นที่ทางเดินที่ทำขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติหน่อย ให้สามารถมีคนยืนทำอาหารอยู่ก็สามารถเดินไปมาได้ ออกจากห้องนอนมาก็สามารถเปิดตู้เย็นดื่มน้ำกินขนมได้เลย แต่ถ้าทำอาหารจริงจัง กลิ่นก็อาจจะเข้าห้องนอนได้ง่ายเหมือนกัน จึงน่าจะเหมาะกับการทำอาหารเบาๆอย่างการต้ม และใช้ไมโครเวฟกันมากกว่า

Image 1/3
จากเคาน์เตอร์ครัวจนถึงผนังมีระยะประมาณ 1.2 เมตร ค่อนข้างกว้าง เดินได้ง่าย หรือจะใช้งานเครื่องซักผ้าก็ทำได้ง่ายด้วยเช่นกัน

จากเคาน์เตอร์ครัวจนถึงผนังมีระยะประมาณ 1.2 เมตร ค่อนข้างกว้าง เดินได้ง่าย หรือจะใช้งานเครื่องซักผ้าก็ทำได้ง่ายด้วยเช่นกัน

Bedroom

ห้องนอนรองก่อนเลยครับ เป็นห้องนอนที่มีขนาดเหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่ด้านในวางตู้เสื้อผ้าได้ แถมที่ริมหน้าต่างก็มีพื้นที่ประมาณ 1.6 เมตร สำหรับทำโต๊ะทำงานได้

ด้านในวางตู้เสื้อผ้าได้ พร้อมมีพื้นที่ใช้งานเหลือครับ

Master Bedroom

ขยับมาดูห้องนอนหลักกันต่อ เป็นห้องที่มีขนาดเยอะขึ้น สำหรับวางเตียง 5 ฟุตได้ ครับ พื้นที่ปลายเตียงก็วางชั้นวางทีวีได้ด้วย ด้านในมีช่องแสงให้ค่อนข้างกว้าง

ส่วนฝั่งทางเข้าห้องก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้เช่นกันครับ

Bathroom

ห้องน้ำของห้องนี้หลักๆก็จะเหมือนกับห้องที่ผ่านมาครับ ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่โทนสีอ่อน สุขภัณฑ์และอุปกรณ์จะเป็นของ Hafele

Image 1/4
อ่างล้างหน้าแบบเคาน์เตอร์จาก Hafele มาพร้อมกระจกเงาเช่นเดิม

อ่างล้างหน้าแบบเคาน์เตอร์จาก Hafele มาพร้อมกระจกเงาเช่นเดิม

 


สรุปวัสดุและของแถมภายในห้อง

  • รูปแบบการขาย : Fully Fitted
  • พื้น : ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นปูลามิเนต และส่วนห้องน้ำ กรุกระเบื้อง (สำหรับ TYPE ที่เป็นครัวปิด กรุกระเบื้อง)
  • ครัว : Built-in Top หินสังเคราะห์ Backsplash กระเบื้อง, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบดูดออกภายนอก + อ่างล้างจานจาก Hafele
  • ผนัง : ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่น ติด Wallpaper และ ส่วนห้องน้ำกรุกระเบื้อง
  • ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Hafele, ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย
  • ฝ้าเพดาน : สูง 2.65 เมตร ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่น ฉาบเรียบ ติดไฟดาวน์ไลท์
  • ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (ขนาดของ BTU เหมาะกับขนาดพื้นที่ภายในห้อง)
  • Digital Door Lock : Hafele

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

สำหรับเรื่องการเงินนั้น เรามองว่าคนที่อยากได้คอนโดนี้น่าจะมีงบประมาณ 3.5-7.5 ล้านบาทโดยประมาณ (เผื่อค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้แล้ว) หรือว่ามีกำลังผ่อนอยู่ที่ 25,000-52,000 บาทต่อเดือนครับ

ตัวอย่างราคาห้องพักอาศัยในโครงการ Metris พระราม 9 – รามคำแหง ณ วันที่ 3 พ.ย. 2563

  • 1 Bedroom ห้อง 26A2-3E ชั้น 26 ขนาด 30.01 ตร.ม.
    ราคา 3.97 ล้านบาท หรือ 129,216 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ห้อง 24A1-1 ชั้น 24 ขนาด 30.90 ตร.ม.
    ราคา 3.95 ล้านบาท หรือ 127,914 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ห้อง 26C3-1 ชั้น 26 ขนาด 50.62 ตร.ม.
    ราคา 6.86 ล้านบาท หรือ 135,537 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 2 Bathroom ห้อง 12B1-1 ชั้น 12 ขนาด 59.08 ตร.ม.
    ราคา 6.79 ล้านบาท หรือ 115,000 บาท/ตร.ม.

ค่าใช้จ่ายต่างๆ

  • จอง 20,000 – 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 – 70,000 บาท
  • ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

โครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง เป็นไม่กี่โครงการมือหนึ่งไม่กี่โครงการที่ยังมีขายอยู่ในย่านพระราม 9 – รามคำแหงนี้นะครับ และมีจุดเด่นเฉพาะตัวไม่น้อย เริ่มตั้งแต่ที่ตั้งโครงการเดินทางสะดวกเข้าเมืองง่าย มีให้เลือกเข้าออกได้ทั้งจากพระราม 9 และรามคำแหง สามารถใช้รถส่วนตัวหรือมีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้ แถมในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีส้มเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ส่วนกลางมี Facility หลากหลายน่าใช้งาน เน้นที่พื้นที่กว้างโล่งไม่อึดอัด และเป็นโครงการเดียวในย่านนี้ที่เลี้ยงสัตว์ได้นะครับ มีงบประมาณเริ่มต้นที่ประมาณ 3 ล้านบาทขึ้นไป แต่อย่าลืมเผื่องบตกแต่งห้องอีกหน่อยนะครับ ลองพิจารณากันดูนะครับ