รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 คอนโด Low Rise ในซอยเพชรเกษม 48 ใกล้รถไฟฟ้า MRT 200 เมตร จาก CMC Group [รีวิวฉบับที่ 2177]

8 ธันวาคม 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1602 … สวัสดีครับวันนี้จะพาไปรีวิวคอนโดในย่านเพชรเกษมของ CMC Group กับโครงการ Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร อยู่ในซอยเพชรเกษม 48 ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยายสถานีเพชรเกษม 48 เพียง 200 ม. จัดส่วนกลางสไตล์รีสอร์ทแบบ Lagoon Living ห้องเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาด 24.29 – 44.19 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

Fact @ 22 May 2018 

  • Bangkok Horizon Lite @ Phekasem 48 Station (แบงค์คอก ฮอไรซอน ไลท์ @ สถานีเพชรเกษม 48)
  • บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) / CMC Group
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยเพชรเกษม 48 ถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ
  • คอนโด Loe Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 741 ยูนิต อาคาร A 273 ยูนิต , อาคาร B 237 ยูนิต , อาคาร C 231 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 39 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 212 คันคิดเป็น 28% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 4-3-73.5 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  มิ.ย. 61
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ก.ย. 62
  • 1 Bedroom Compact 24.29 – 26.39 ตร.ม.
  • Grand 1 Bedroom 29.17 – 33.81 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 40.66 – 44.19 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 74,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เว็ปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-457-5959
  • Call Center : 1172

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.718212, 100.445630

แผนที่จากโครงการ Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 สามารถเข้าได้จากทางถนนเพชรเกษม โดยเข้ามาในซอยประมาน 650 ม.

Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บน “ถนนเพรชเกษม” ในซอยเพชรเกษม 48 เข้าซอยมาประมาณ 650 เมตร โดยตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ทั้งจากซอยเพชรเกษม 48 และซอยเพชรเกษม 46 แล้วยังสามารถใช้เป็นทางลัดไปถนนบางแวกได้อีกด้วย ถ้าพูดถึงทำเลในย่านนี้ หลายๆ คนคงจะนึกถึงทำเลของที่อยู่อาศัยแนวราบ อาคารพาณิชย์ และชุมชนดั้งเดิม จุดเปลี่ยนที่สำคัญของทำเลนี้คือการมาของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ส่งผลให้เริ่มมีการสร้างคอนโดเกาะตามแนวรถไฟฟ้าทั้ง Low Rise และ High Rise มีการพัฒนาโดยรอบพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีคนย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กันมากขึ้น เป็นกลุ่มคนที่ทำงานในละแวกใกล้เคียงหรือต้องการคอนโดไม่ไกลจากรถไฟฟ้าที่ออกนอกเมืองมาหน่อย ราคาไม่สูงเท่าคอนโดในเมืองแต่ยังได้ความสะดวกสบาย

จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ไม่ยาก ใช้เส้นทางได้ทั้งถนนเพชรเกษมไปออก ถนนราชพฤกษ์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ หรือออกไปวงเวียนใหญ่เชื่อมไปออกสาทรได้  หรือจะใช้เส้นพุทธมณฑลสาย 1, สาย 2 ก็สามารถไปออกถนนบรมราชชนนีได้ ส่วนถนนกาญจนาภิเษกก็สามารถใช้ไปฝั่งบางใหญ่ พระราม 2 หรือจะใช้ถนนบางแคมาออกเส้นกัลปพฤกษ์เพื่อไปออกสาทร สีลมก็สะดวกเช่นกันครับ

มาดูในเรื่องของการเดินทางกันบ้างนะครับ หากต้องการเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดที่เปิดให้บริการในปัจจุบันคือรถไฟฟ้า BTS สถานีบางหว้า ซึ่งมีระยะห่างจากตัวโครงการประมาณ 1.7 กม. สามารถใช้ทางออกทางซอยเพชรเกษม 46 จะใกล้ที่สุดครับ

ส่วนสถานีรถไฟฟ้า MRT  ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วง หัวลำโพง-บางแค ปัจจุบันโครงการมีการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 90%  ซึ่งหากการก่อสร้างเป็นไปตามแผนคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้จริงภายในเดือนกันยายน 2562 นี้ สถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีเพชรเกษม 48 ตั้งอยู่ระหว่างซอยเพชรเกษม 48 และซอยเพชรเกษม 46 โดยมีระยะทางจากโครงการประมาณ 650 ม. หรือจะใช้ทางลัดจากประตูทางด้านหลังโครงการตัดผ่านซอยเพชรเกษม 46/2 ได้โดยตรง ซึ่งจะมีระยะทางเดินเพียง 200 ม. เท่านั้น ถือว่าเป็นทำเลอนาคตที่สะดวกมากๆ ครับ

หรือหากต้องการเดินทางโดยรถยนต์ ก็สามารถใช้เส้นทางวงแหวนกาญจณาภิเษกที่สามารถใช้ไปฝั่งบางใหญ่ หรือพระราม 2 ได้ มีระยะห่างจากตัวโครงการประมาณ 7.4 กม. ครับ

สำหรับการเดินทางมาในวันนี้เริ่มต้นการเดินทางจากถนนราชพฤกษ์ เลี้ยวขวาตัดผ่านเข้ามายังถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าไปทางบางแค วิ่งตรงยาวมาประมาณ 1.9 กม. จะสังเกตเห็นสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรเกษม 48 ซึ่งซอยทางเข้าโครงการจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ให้เตรียมกลับรถทางด้านหน้า ชิดซ้ายแล้วขับตรงต่อมาอีกประมาณ 300 ม. จะเจอกับซอยเพชรเกษม 48 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาตามเส้นทางลึกประมาณ 400 ม. จะเจอกับทางแยก ให้เลี้ยวขวาแล้วขับตรงมาอีกประมาณ 65 ม. แล้วเลี้ยวขวาอีกครั้ง จากนั้นขับตรงมาอีก 30 ม. ให้เลี้ยวซ้าย แล้วขับตรงมาอีกนิดก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการทางขวามือครับ รวมเข้าซอยระยะทางประมาณ 650 ม.

จากภาพตอนนี้เราอยู่บนถนนกัลปพฤกษ์ ขับตรงไปตามป้ายถนน พุทธมลฑณสาย 1 ครับ

ขับมาอีกสักพักจะเห็นป้ายถนนเพชรเกษมซึ่งเป็นถนนเป้าหมายเส้นหลักของเรา ให้ขับตรงตามป้ายไปเลยครับ

เตรียมเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนเพชรเกษมครับ แต่อย่าพึ่งชิดขวานะ เพราะมันจะเป็นทางกลับรถครับ

เมื่อถึงสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายเข้สู่ถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าไปทางบางแคครับ

ตรงบริเวณสี่แยกนี้จะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า BTS บางหว้า ซึ่งเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ (Interchange)  ระหว่างรถไฟฟ้า BTS และ MRT ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินครับ จากตรงนี้ให้ขับตรงไปบนถนนเพชรเกษมตามแนวรถไฟฟ้าไปเรื่อยๆ เลยครับ

ขับตรงมาสักพักเราจะเจอกับสถานีรถไฟฟ้า เพชรเกษม 48 ซึ่งเป็นสถานีที่ตั้งอยู่ปากซอยโครงการครับ ด้านขวาตึกสูงๆ จะเป็น Bangkok Horizon P48 โครงการตัวเก่าที่เป็นอาคารสูงอยู่ติดริมถนนใหญ่ จากตรงนี้ให้วิ่งตรงไปอีกประมาณ 1.9 กม. จะมีจุดกลับรถ เพื่อมาเข้าซอยเพชรเกษม 48 ที่อยู่อีกฝั่ง

กลับรถเพื่อไปยังซอยเพชรเกษม 48 ฝั่งมุ่งหน้าจรัญสนิทวงศ์/วงเวียนใหญ่ครับ

จากจุดกลับรถให้ขับตรงมาอีกประมาณ 300 ม. แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยเพชรเกษม 48 ได้เลยครับ

ซึ่งบริเวณหน้าปากซอยจะมีวินมอร์เตอร์ไซค์อยู่ จากปากซอยถึงโครงการระยะทางประมาณ 650 ม. ถ้าเราขึ้นพี่วินก็จะช่วยลดเวลาในการเดินทางได้ ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย

เอาอัตราค่าบริการของพี่วินมาฝากด้วยครับ ถ้าเรานั่งจากหน้าปากซอยเข้าไปถึงโครงการจะราคาอยู่ที่ประมาณ 10-12 บาท เองครับ

บรรยากาศภายในซอยเพชรเกษม 48 จะเป็นชุมชนดั่งเดิม ส่วนมากจะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีร้านค้าร้านอาหารระหว่างทางมากมาย และมี Lotus Express บริการ 24 ชม. อีกด้วย จากหน้าปากซอยให้เราขับตรงเข้าไปจนสุดทางเลยครับ

เมื่อตรงมาจนสุดจนเจอทางแยกให้เลี้ยวขวาครับ (ถ้าไปทางซ้ายจะมาสามารถใช้เป็นทางลัดไปออกถนนบางแวกเพื่อเลี่ยงรถติดได้ด้วย)

เมื่อเลี้ยวมาแล้วให้ขับตรงมาตามเส้นทางอีกประมาณ 65 ม. จนเจอทางแยกให้เลี้ยวขวาครับ

ขับตรงมาตามเส้นทางอีก 30 ม. แล้วเลี้ยวซ้ายครับ

ขับตรงมาอีกนิดก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการบริเวณทางด้านขวามือ ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีเซเว่นตั้งอยู่ด้วยครับ

แม้ว่าโครงการจะตั้งอยู่ในซอยลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ แต่ซอยเพชรเกษม 48 นี้ก็มีความสำคัญตรงที่สามารถใช้เป็นทางลัดออกไปสู่ถนนบางแวกได้ และยังสามารถเข้า-ออกได้มากกว่าหนึ่งทาง โดยเราสามารถใช้รถยนต์เข้ามาได้ทั้งจากซอยเพชรเกษม 48 หรือซอยเพชรเกษม 46 ก็ได้ หรือจะเดินโดยการใช้ทางประตูทางด้านหลังเป็นทางลัดเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า(ในอนาคต)สถานีเพชรเกษม 48 จากทางซอยเพชรเกษม 46/2 ระยะทางประมาณ 200 ม. ก็สะดวกเช่นกัน

คราวนี้ผมจะพาขับรถไปออกซอยเพชรเกษม 46 ให้ดูนะครับ โดยจากหน้าโครงการที่อยู่ทางด้านขวามือเมื่อสักครู่ให้ขับรถตรงไปอีกประมาณ 250 ม. ครับ

เมื่อขับตรงมาจนสุดแล้วเลี้ยวขวา ก็จะเป็นถนนซอยเพชรเกษม 46 แล้วครับ

บรรยากาศในซอยนี้จะเป็นชุมชนดั้งเดิมเช่นกัน มีร้านค้า ร้านอาหารใต้ตึก และมีตลาดสดเช้าเล็กๆ ด้วย แต่โดยรวมจะมีความคึกคักและความเจริญน้อยกว่าซอยเพชรเกษม 48 อย่างเห็นได้ชัด

เมื่อขับมาจนสุดถึงปากซอยจะเป็นถนนเพชรเกษม จากโครงการถึงถนนใหญ่ระยะทางรวมประมาณ 550 ม. ครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูรอบๆ ที่ดินของโครงการ Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 กันต่อ ทางเข้า-ออกหลักของโครงการสามารถเข้าจากซอยเพชรเกษม 48 และมีทางเข้า-ออกรองจากประตูด้านหลัง ที่เข้าออกทางซอยเพชรเกษม 46/2 บริบทโดยรอบของโครงการไม่มีอาคารสูงในระยะประชิดเลย ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่สูงไม่เกิน 2 ชั้น ซึ่งจะไม่บังวิวระยะใกล้ สามารถสรุปได้ ดังนี้

  • ด้านทิศเหนือ ติดกับ เป็นถนนซอยเพชรเกษม 48 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกโครงการ มีอาคารสูง 1-2 ชั้น และมีเซเว่นอยู่ฝั่งตรงข้าม
  • ด้านทิศใต้ ติดกับ อู่ซ่อมรถยนต์ สูง 1-2 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันออก บริเวณทางเข้าติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1 ชั้น ด้านข้างติดกับลำรางสาธารณะ ถัดออกไปเป็นอาคารพักอาศัยสูง 3-4 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับ อาคารสูง 1-2 ชั้น

เราลองมาเดินดูรอบๆโครงการกันครับ ทางด้านขวามือคือที่ตั้งโครงการ โดยที่ขอบเขตที่ดินของโครงการจะสุดที่ขอบรั้วเมทัลชีท ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการฝั่งตรงข้ามมีเซเว่นและร้านบะหมี่อยู่ด้วย

ขอบเขตของโครงการคือตามแนวรั้วเมทัลชีทสีขาว ซึ่งที่เห็นเป็นแค่เฉพาะทางเข้าเท่านั้น ตัวอาคารจริงจะสร้างอยู่ในพื้นที่ด้านใน

เซเว่นฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นเซเว่นขนาดใหญ่เลยทีเดียว มีตู้ ATM ของกสิกรให้บริการทางด้านหน้าครับ

ต่อมาเราจะไปดูทางด้านขวาของโครงการกันก่อน ซึ่งจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น บริเวณรั้วริมทางเท้าจะมีตู้น้ำหยอดเหรียญด้วย

ถัดมาจะมีร้านเสริมสวย ร้านชาไข่มุก และร้านอาหารตามสั่ง อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ

มีร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งเล็กๆ อีกแล้วครับ และถัดไปเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

สุดทางเลี้ยวจะเป็นอาคารพานิชย์สูง 4 ชั้น มีร้านรับติดตั้ง ซ่อม และล้างแอร์บ้านตั้งอยู่ครับ

เดินย้อนกลับมาทางซ้ายของโครงการ จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 ชั้น ซึ่งที่เห็นในภาพจะเป็นหลังคาโรงจอดรถครับ

ถัดมาจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 3 ชั้น ซึ่งจะอยู่ห่างจากพื้นที่โครงการมาพอสมควร ไม่มีผลเรื่องการบังวิวในระยะใกล้

เดินมาอีกนิดจะเจอลำรางสาธารณะ มีสะพานข้ามเล็กๆ น้ำสีเขียวเข้มแต่ไม่มีขยะในน้ำเลยครับ

บริเวณสองข้างทางจะมีทางเท้าเล็กๆ สามารถใช้เดินไปออกถนนเพชรเกษมได้ครับ

เดินต่อมาอีกหน่อยจะเป็นอาคารพานิชย์สูง 4 ชั้น ซึ่งจะมีร้านอาหารเล็กๆ ร้านขายของชำ และร้านถ่ายรูป

คราวนี้เราจะมาดูทางลัดตรงประตูทางด้านหลังโครงการที่ได้เกริ่นไว้แล้วกันบ้างนะครับ โดยซอยนี้จะเป็นซอยเพรชเกษม 46/2 ถนนบริเวณท้ายซอยจะสิ้นสุดที่เขตที่ดินของโครงการพอดีเลยครับ มีระยะทางเดินจากท้ายซอยถึงปากซอยประมาณ 200 ม. ซึ่งหน้าปากซอยเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า MRT เพชรเกษม 48 ครับ

ตรงม่านพลาสติกสีขาวนั่นคือขอบเขตที่ตั้งโครงการครับ ซึ่งในอนาคตจะเป็นประตูรั้วสำหรับใช้เป็นทางเข้า-ออกทางด้านหลังของโครงการได้ครับ ส่วนทางเดินริมลำรางสาธารณะที่ลัดเลาะไปตามแนวรั้วด้านข้างของโครงการก็สามารถใช้เป็นทางเดินไปทะลุถนนซอยเพชรเกษม 48 บริเวณด้านหน้าโครงการได้เช่นกัน

ติดกับเขตที่ดินทางด้านหลังของโครงการจะเป็นอู่ซ่อมรถครับ (วันที่ไปเดินสำรวจ อู่กำลังเปิดทำการแต่ก็ไม่มีเสียงดังรบกวนอะไรจากอู่มากนะครับ)

ถัดออกมาจะเป็นร้านขาหมูชื่อดังชื่อว่าร้าน “บางหว้าขาหมู” สามารถเดินมาทานกันได้ทุกวัน ระยะทางไม่ถึง 100 ม. แบบนี้ระวังอ้วนกันด้วยนะ

ในวันที่ไปสำรวจมีโอกาสได้ไปทานอาหารร้านนี้ด้วย ทีมงานการันตีความอร่อยให้เลยครับ ราคาไม่แพง จานละประมาณ 50 บาทเท่านั้น

จากร้านข้าวขาหมู มองออกไปเห็นสถานีรถไฟฟ้าอยู่บริเวณหน้าปากซอยด้วย ส่วนกำแพงสีส้มทางด้านขวาเป็นอู่ซ่อมรถครับ

ภาพบริเวณหน้าปากซอยเพชรเกษม 46/2 จะมีรถเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา ส่วนมากเป็นรถของลูกค้าที่มาทานข้าวขาหมูและลูกค้าของอู่ซ่อมรถครับ

ทางด้านขวาของซอยจะมีบันไดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าครับ ทางเท้าโดยรอบเคลียสะอาดเรียบร้อยหมดแล้ว

ส่วนตัวสถานีก็สร้างเสร็จแล้วนะครับ พื้นถนนก็ทำใหม่เรียบร้อยดี

จุดสังเกตอีกจุดหนึ่งของบริเวณหน้าปากซอยจะมีตึกสีเขียวสูงๆ อยู่ตึกหนึ่งคือ Bangkok Horizon P48 เป็นคอนโดมิเนียม High rise ตัวเก่าซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกันครับ

สำหรับสำนักงานขายของโครงการ Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 จะอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการนะครับ ซึ่งจะแยกออกมาอยู่ตรงบริเวณหน้าปากซอยเพชรเกษม 50 ไม่ไกลจากตัวโครงการมากนัก มีจุดสังเกตคือปั้มน้ำมัน ปตท. ที่อยู่ก่อนถึงซอยเพชรเกษม 50 โดยที่เราสามารถเลี้ยวรถเข้าไปจอดในปั้มแล้วเดินเข้าสำนักงานขายได้เลยครับ

สำนักงานขายตั้งอยู่หน้าปากซอยเพชรเกษม 50 ริมถนนใหญ่ สังเกตจากป้ายโฆษณาสีม่วงขนาดใหญ่ซึ่งมีรูปภาพตามแบบในโบว์ชัวร์ติดอยู่บริเวณด้านบน

ติดกับสำนักงานขายทางซ้ายมือจะเป็นปั้ม ปตท. ซึ่งเราสามารถเลี้ยวรถเข้าปั้มเพื่อจอดรถได้ โดยที่ด้านข้างสำนักงานขายจะมีพื้นที่จอดรถสำหรับผู้มาเยี่ยมชมโครงการ และสามารถเดินเข้าสำนักงานขายจากทางด้านนี้ได้เลยครับ

บรรยากาศในสำนักงานขายตกแต่งสไตล์รีสอร์ทริมทะเล ภายในจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการ มีโมเดลภาพรวมของโครงการและมีห้องตัวอย่างให้ดูครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ร้าน 7-11 : 10 ม.
  • MRT สถานีเพชรเกษม 48 (สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) : 200 ม.
  • ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ : 400 ม.
  • Lotus Express : 450 ม.
  • ท่าเรือเพชรเกษม 31 : 500 ม.
  • ม.สยาม : 1.2 กม.
  • BTS สถานีบางหว้า : 1.7 ม.
  • ซีคอน บางแค : 2 กม.
  • รพ.เพชรเกษม 2 : 2.5 กม.
  • รพ.พญาไท 3 : 2.6 กม.
  • รร.ไชยฉิมพลี : 2.7 กม.
  • สนง.เขตภาษีเจริญ : 2.8 กม.
  • สถานีตำรวจ ภาษีเจริญ : 2.9 กม.
  • ตลาดชัยฉิมพลี : 3 กม.
  • ตลาดสดบางแค : 3.3 กม.
  • รพ.อินเตอร์เมด : 4.2 กม.
  • Tesco Lotus บางแค : 4.6 กม.
  • Tesco Lotus จรัญฯ 15 : 5.2 กม.
  • วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม : 5.6 กม.
  • วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี : 5.6 กม.
  • The Mall บางแค : 6 กม.
  • รพ.เกษมราษฎร์ บางแค : 6.7 กม.
  • Food Land จรัญฯ : 7.2 กม.
  • รพ.ศรีวิชัย : 7.2 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณทางเข้าโครงการ ซึ่งอยู่ติดกับซอยเพชรเกษม 48 ออกแบบซุ้มประตูทางเข้าเป็นซุ้มไม้ขนาดใหญ่สไตล์โมเดิลเข้ากันกับตัวอาคารที่อยู่บริเวณด้านหลัง มีน้ำพุประดับอยู่ตรงบริเวณด้านซ้ายและปลูกต้นไม้เป็นแนวตลอดทางเดินไว้ทางด้านขวา ช่วยให้ร่มเงาเวลาคนเดินเข้า-ออกโครงการได้ครับ

ไฮไลท์ที่สำคัญของโครงการคือ Facility ที่อยู่บริเวณส่วนกลางของโครงการ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยอาคารทั้ง 3 ทำให้ยูนิตที่หันหน้าเข้าด้านในโครงการสามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดไว้ให้ได้ มีการทำสวนหย่อมและปลูกต้นไม้บริเวณโดยรอบเพื่อความร่มรื่น เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยแนวกำแพงหินและแนวต้นไม้บริเวณด้านหน้าที่ช่วยบดบังสายตาจากบุคคลภายนอกโครงการได้

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแบบ Freeform ฟิตเนสแบบ 360 องศา และสวนหย่อมบริเวณโดยรอบ ออกแบบด้วยแนวคิด Crystal Lagoon ทำให้ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมือนได้ไปพักผ่อนที่รีสอร์ทริมทะเล

มาดูแปลนอาคารกันบ้างครับ ชั้น Ground ของโครงการมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 4-3-73.5 ไร่ ประกอบไปด้วยที่จอดรถใต้อาคาร A และอาคาร C ซึ่งสามารถจอดได้ 212 คัน แบบไม่รวมซ้อนคัน และอาคาร B ที่จะเริ่มต้นด้วยชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้นแรก จากทางเข้าโครงการเมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาเราจะเจอกับสำนักงานนิติบุคคลกับอาคาร A อยู่ทางด้านซ้าย อาคาร B อยู่ทางด้านขวา และมีอาคาร C อยู่ทางด้านหลัง ซึ่งทั้ง 3 อาคารจะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำแบบ Freeform ขนาด 14.10 x 36.85 เมตร ห้องฟิตเนสพร้อมซาวน่าแยกชาย-หญิง และมีสวนหย่อมอยู่บริเวณโดยรอบ ส่วนภายในอาคารจะมี Lobby แยกออกจากกันในแต่ละอาคาร และมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์โดยสารรวมทั้งโครงการ 124 :  1 ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นอยู่พอสมควร มีบันไดหนีไฟอาคารละ 2 ตำแหน่ง ที่บริเวณโถงลิฟต์และอีกฝั่งของตัวอาคาร

แปลนอาคารชั้น 2-8 ของอาคาร A B และ C จะเหมือนกันหมดทุกชั้น มีทางเดินตรงกลางแบบ Double Corridor จัดวางส่วน service ไว้บริเวณใกล้โถงลิฟต์ และมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว มีบันไดหลักอาคารละ 1 ตำแหน่ง และบันไดหนีไฟอีกอาคารละ 1 ตำแหน่ง โดยที่อาคาร A มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 273 ยูนิต เป็นตึกรูปทรงตัว I ส่วนอาคาร B มีจำนวนทั้งหมด 237 ยูนิต และอาคาร C มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 231 ยูนิต ซึ่งทั้งสองอาคารจัดวางในลักษณะตัวตึกเป็นรูปทรงตัว L รวมแล้วมีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 741 ยูนิต โดยห้องที่หันหน้าออกไปนอกโครงการทางทิศเหนือ ใต้ และตะวันตกจะได้วิวอาคารที่พักอาศัยสูง 1-2 ชั้น ส่วนห้องที่หันหน้าออกไปนอกโครงการทางด้านทิศตะวันออกจะได้วิวลำรางสาธารณะและอาคารสูง 3-4 ชั้น ที่ห่างออกไป ส่วนห้องที่หันหน้าเข้ามาภายในโครงการจะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางที่ทางโครงการได้จัดเอาไว้เป็นแบบ Lagoon Living และจะมีห้องอยู่ 2-3 ยูนิต ต่อ 1 ชั้น ที่อยู่ติดกับโถงลิฟต์ของอาคาร A และอาคาร C ซึ่งจะถูกบังวิวโดยตึกฝั่งตรงข้าม

แปลนอาคารชั้นดาดฟ้า อาคาร A B และ C จะมีสวนหย่อมอยู่บริเวณด้านบนแยกกันต่างหาก ใครอยู่ตึกไหนก็สามารถขึ้นมารับลมชมวิวกันที่ตึกนั้นได้เลยครับ โดยที่อาคาร A สามารถขึ้นมาได้จากทางบันไดหลักของอาคาร ส่วนอาคาร B และอาคาร C สามารถขึ้นมาได้จากทางบันไดหนีไฟครับ

ภาพรวมตัวโมเดลโครงการ Bangkok Horizon @สถานีเพรชเกษม 48 เป็นอาคาร Low rise 8 ชั้น 3 อาคาร ตั้งอยู่ในซอยเพรชเกษม 48 เข้าซอยมาประมาณ 650 ม. โดยจะมีถนนโครงการและซุ้มประตูทางเข้าเชื่อมต่อกับถนนซอยเพชรเกษม 48 อาคารทางด้านหน้าจะประกอบไปด้วยอาคาร A กับอาคาร B และมีอาคาร C อยู่ทางบริเวณด้านในสุด ซึ่งทั้ง 3 อาคาร จะใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน และจะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนบนดาดฟ้าแยกอาคารอีกด้วย โดยโครงการนี้มีจำนวนรวมทั้งหมด 741 ยูนิต และจอดรถใต้อาคารที่ชั้น 1 ได้ประมาณ 212 คัน คิดเป็น 28% ไม่รวมซ้อนคัน

ทางเข้าออกหลักของตัวโครงการจะมีซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ ตัวอาคารจะถูกสร้างอยู่ในพื้นที่ด้านในทำให้ไม่มีอาคารใดสร้างอยู่ติดริมถนน จึงมีความเป็นส่วนตัวและช่วยลดความวุ่นวายจากภายนอกได้ครับ โดยที่พื้นที่ติดถนนบริเวณด้านหน้าโครงการจะมีอาคารพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น ซึ่งจะไม่ค่อยส่งผลต่อเรื่องมุมมองและการบดบังวิวในระยะประชิดมากนัก

อาคารทั้ง 3 จะใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ประกอบไปด้วยฟิตเนสแบบ 360 องศา ซาวน่าแยกชาย-หญิง และสระว่ายน้ำขนาด 14.10 x 36.85 เมตร โดยที่แต่ละอาคารจะมี Lobby และสวนบนดาดฟ้าแยกออกจากกันอีกทีครับ

โครงการได้ออกแบบส่วนกลางด้วยแนวคิด Lagoon Living ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ทริมทะเล พร้อมฟิตเนสแบบ 360 องศา และสระว่ายน้ำแบบ Freeform Swimming Pool ซึ่งนับเป็นจุดขายที่ดีของอาคารแบบ Low Rise ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศและทิวทัศน์ที่ดีให้แก่ลูกบ้านที่ไม่สามารถ Take view ที่กว้างไกลๆแบบอาคารสูง ด้วยการรับวิวสวนสีเขียวและสระว่ายน้ำสไลต์รีสอร์ทได้จากหน้าต่างและระเบียงห้องโดยเฉพาะห้องที่หันหน้าเข้าสู่ด้านในโครงการและเป็นชั้นที่ไม่สูงมากจะได้วิวที่สวยมากเลยทีเดียว

มาดูหน้าตาทางด้านข้างของโมเดลกันบ้างครับ โครงการถูกออกแบบให้มีความทันสมัย ใช้โทนสีเข้มและลวดลายสีส้มเพื่อเพิ่มความโดดเด่น เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จอดรถใต้อาคาร แต่เฉพาะอาคาร B เท่านั้นที่จะมีชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้นที่ 1

ปิดท้ายด้วยภาพโมเดลทางด้านหลังโครงการจะมีประตูหลังที่สามารถเดินไปออกซอยเพชรเกษม 46/2 เพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพชรเกษม 48 ได้โดยมีระยะทางเดินประมาณ 200 ม. ภายในซอยจะประกอบไปด้วยอู่ซ่อมรถและร้านข้าวขาหมูครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby แยกอาคาร
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 14.10 x 36.85 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 5.8 x 15.10 เมตร
  • ซาวน่า แยกชาย-หญิง
  • สวนบนดาดฟ้าแยก 3 อาคาร
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Wireless Internet บริเวณ Lobby และส่วนกลาง
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 124 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 212 คันคิดเป็น 28% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

สำหรับแบบห้องของโครงการนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ขายแบบ Fully Fitted คือมีให้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะบางส่วน เช่น ชุดเคาน์เตอร์ครัว เครื่องปรับอากาศ สุขภัณฑ์ และฉากกั้นอาบน้ำ ให้วัสดุมาค่อนข้างดี ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร โดยห้องพักจะมีให้เลือกดังนี้

  • 1 Bedroom Compact : 24.29 – 26.39 ตร.ม.
  • Grand 1 Bedroom : 29.17 – 33.81 ตร.ม.
  • 2 Bedroom : 40.66 – 44.19 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างของโครงการมีให้ดู 1 แบบ โดยจะเป็นห้อง  1 Bedroom Compact ขนาด 24.29 – 26.39 ตร.ม. มีลักษณะเป็นห้องแนวลึก แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นสัดส่วน เมื่อเปิดประตูเข้ามาส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ครัวซึ่งปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเวลาประกอบอาหาร และมีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ส่วนต่อมาจะเป็นพื้นที่พักอาศัยซึ่งจะเป็นการ Combine ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ทำให้ได้พื้นที่พักอาศัยที่มีความกว้างและโปร่งโล่งมากขึ้น โดยกั้นพื้นที่ครัวกับพื้นที่พักอาศัยด้วยประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งจะทำให้ได้พื้นที่ครัวปิด ป้องกันกลิ่นและความชื้นเข้าไปรบกวนภายในห้องนอนได้  บริเวณปลายเตียงเป็นพื้นที่ที่สามารถวางตู้เก็บของและชั้นวางทีวีได้ และยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ริมหน้าต่างที่สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือโต๊ะทำงานติดกับหน้าต่างเพื่อมองวิวภายนอกหรือสวนบริเวณส่วนกลางของทางโครงได้ และมีพื้นที่ระเบียงสามารถตากผ้าหรือใช้เป็นส่วนซักล้างเล็กๆ ได้

ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom Compact ขนาด 24.29 – 26.39 ตร.ม. ขายแบบ ​Fully Fitted ซึ่งทางโครงการไม่ได้ติดประตูให้ดูนะครับ โดยประตูของจริงจะได้เป็นบานไม้อัดปิดผิวลามิเนต 2 ด้าน สี Dark oak ครับ

โครงการจะมีตัวอย่างของ ​Digital Door Lock มาให้ดูเป็นของยี่ห้อ Sifeti ซึ่งอันนี้ทางโครงการจะติดตั้งให้ด้วยครับ

เข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ครัว โดยมีระยะเหลือประมาณ 90 ซม.เดินผ่านได้สะดวก พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ ทางด้านซ้ายจะเป็นพื้นที่โต๊ะอเนกประสงค์และทางด้านขวาจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวครับ

เรามาเริ่มจากทางด้านขวากันก่อน โดยชุดเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้เป็นแบบ 2 ชิ้นแบบนี้เลยครับ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับที่ทางโครงการจะไม่ได้มีให้

ด้านบนจะเป็นตู้แขวนผนัง หน้าบานเป็นลามิเนตสีขาวล้วน ภายในมีช่องสามารถเก็บของได้พอสมควร

ที่ตู้ด้านบนจะมีปลั๊กสำหรับเสียบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆให้ด้วย และบานตู้ทั้งหมดจะติด Soft close ที่ตัวบานพับเพื่อเวลาเปิด-ปิดใช้งานไม่เกิดเสียงดังลดการกระแทก

บน Top เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นแกรนิตโต้สีดำแบบในห้องตัวอย่างเลย และกรุผนังกระเบื้องโมเสคสีนี้ลายนี้มาให้ ความสวยงามและง่ายต่อการทำความสะอาดดีครับ

ด้านขวาจะเป็นชุดเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Schon ซึ่งทางโครงการจะให้มาด้วยครับ

และทางด้านซ้ายจะเป็นอ่างล้างจานขนาดกลาง และมีพื้นที่เหลือทางด้านข้างใช้จัดเตรียมอาหารสามารถใช้งานได้สะดวก

ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บของพอสมควร และมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าซึ่งทางโครงการได้ต่อระบบท่อน้ำดีและน้ำเสียเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะหยดหรือรั่วซึมจากเครื่องซักผ้ามาทำให้พื้นห้องเสียหายเลย

ถัดมาทางซ้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดกลาง มีพื้นที่ประมาณ 0.60 x 0.60 ม. ซึ่งห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง ทางโครงการไม่ได้แถมตู้เย็นมาให้นะครับ

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง แต่ทางโครงการได้จัดวางเป็นโต๊ะและตู้อเนกประสงค์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง สามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของหรือพื้นที่รับประทานอาหารได้ แนะนำให้ Built in เป็นชุดโต๊ะหรือตู้ให้พอดีกับพื้นที่จะทำให้สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ได้เต็มที่มากกว่าครับ เพราะการซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวมาวางโดยที่ขนาดพอดีกับพื้นที่จริงจะค่อนข้างหายาก

ส่วนถัดไปจะเป็นห้องน้ำซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่วางตู้เย็น ประตูห้องน้ำจะได้หน้าบานสีขาว HDF สำเร็จรูปกันน้ำ 

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งแยกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำและสีขาวตามห้องตัวอย่าง มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ อุปกรณ์อาบน้ำ และชุดสุขภัณฑ์ครบครับ

พื้นที่ห้องน้ำกว้างไม่อึดอัดครับ โดยห้องน้ำจริงจะมีพื้นต่างระดับลดลงมาจากพื้นห้องด้วยนะ (แต่ห้องตัวอย่างเขาไม่ได้ลดระดับไว้ให้ดูนะครับ) และมีขอบกันส่วนอาบน้ำที่เป็นส่วนเปียกออกจากพื้นที่ใช้งานส่วนแห้ง สูงขึ้นมาจากพื้น 5 ซม. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งได้

กระจกภายในห้องน้ำเราจะได้เป็นกระจกบานใหญ่เต็มผนังแบบนี้เลย ทำให้ห้องน้ำดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

อ่างล้างหน้าของ Mogen ขนาด 44 x 55 ซม. ขนาดกำลังดี มีขอบเคาน์เตอร์รอบๆ ขนาดประมาณ 35 x 75 ซม.  สามารถใช้วางของให้ได้พอสมควรครับ

ติดตั้งชุดโถสุขภัณฑ์ของ Mogen พร้อมด้วยอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชูติดอยู่ที่ผนังด้านหลัง โดยที่บริเวณรอบๆ จะมีระยะห่างประมาณ 10 ซม. สามารถใช้งานและหยิบจับได้สะดวก มีพื้นที่เหนือโถสุขภัณฑ์สามารถใช้วางของได้

ที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระติดมาให้ หน้าตาและขนาดเป็นแบบนี้ครับ

ส่วนต่อไปคือส่วนพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งชุดฉากกั้นอาบน้ำและบานประตูเปิด-ปิด ซึ่งทำมาจากกระจกนิรภัย (Tempered Glass) พร้อมด้วยชุดอุปกรณ์อาบน้ำสแตนเลสมาให้เรียบร้อย ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ครับ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 0.75 ม. สามารถอาบน้ำได้ไม่อึดอัด มีขอบกันน้ำยกสูงขึ้นมา 5 ซม. ป้องกันน้ำไหลซึมไปยังส่วนแห้ง และมีตัว stop กันประตูกระแทกกับผนังติดมาให้ด้วย

ชุดอาบน้ำเราจะได้เป็น Hand shower และ Rain shower สแตนเลสของ Cotto หน้าตาแบบนี้ สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำเพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานได้ด้วย สังเกตได้ว่าไม่มีที่วางสบู่และแชมพูอาจจะต้องไปซื้อหามาติดเพิ่มเติมหรือไปวางไว้ตรงขอบเหนือชุดโถสุขภัณฑ์แทน

Hand shower ขนาดพอดีมือ หัวยางขนาดกลางและมีที่เปิดแบบก้านโยกเป็นฝักบัวที่สามารถปรับระดับความแรงของสายน้ำได้

ด้านบนเป็นอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ  Rain shower ของ Cotto ติดตั้งให้พร้อมใช้งานเหมือนห้องตัวอย่าง

ผนังอีกฝั่งติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวสแตนเลสแบบ 2 ชั้นแบบนี้มาให้ด้วยครับ จะได้แขวนผ้าได้หลายๆ ชิ้นหน่อย

ส่วนเพดานห้องน้ำจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 2 ตำแหน่ง พร้อมติดพัดลมดูดอากาศให้

ถัดจากส่วนครัวจะมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำพร้อมกระจกซึ่งเป็นกระจกใสธรรมดา กั้นระหว่างส่วนพื้นที่ครัวกับพื้นที่ห้องนอน ทำให้กลิ่นและความชื้นจากห้องครัวเวลาประกอบอาหารจะไม่ไปรบกวนส่วนห้องนอน โดยที่ประตูบางเลื่อนนี้สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งครับ

ขอบประตูกระจกเป็นอลูมิเนียมสีดำ มีตัวล็อคเปิด-ปิดได้จากภายในห้อง และที่พื้นจะมีรางประตูที่กั้นอยู่ระหว่างพื้นที่ครัวที่ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้กับพื้นที่ห้องนอนที่ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ระวังสะดุดกันด้วยนะครับ

เข้ามาส่วนพื้นที่ห้องนอนเริ่มต้นด้วยพื้นที่ปลายเตียงจะมีพื้นที่เหลือประมาน 1.3 เมตร สามารถวางโต๊ะหรือตู้วางทีวีปลายเตียงได้ ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่เหลืออีกประมาณ 1 เมตร สามารถเดินผ่านได้อย่างสะดวกครับ

ต่อไปมาดูในส่วนของเตียงกันบ้าง ซึ่งทางโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุต มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียงใช้งานได้สะดวก สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆ ได้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ห้องจริงจะไม่มีเตียงให้นะครับ เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างการจัดพื้นที่ภายในได้

ด้านซ้ายของเตียง ทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบนี้ บานตู้เป็นแบบบานสไลด์ติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ทั้งสองด้าน สามารถใช้เป็นพื้นที่แต่งตัวและยังทำให้ห้องดูมีพื้นที่กว้างมากขึ้นด้วย

โดยพื้นที่ข้างเตียงกับพื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าจะมีขนาดความกว้างเหลือประมาณ 60 ซม. สามารถใช้เป็นพื้นที่ยืนแต่งตัวได้สบายครับ ดังนั้นขนาดเตียงที่สามารถวางได้ไม่ควรใหญ่กว่า 5 ฟุต เพราะจะทำให้พื้นที่ข้างเตียงเหลือน้อยลง จะทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวก และบริเวณหัวเตียงฝั่งนี้ก็จะมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้ที่ด้านหลังโต๊ะข้างเตียงด้วยครับ

มองย้อนกลับมาอีกฝั่งของห้อง จะเห็นได้ว่าตู้เสื้อผ้าที่มีพื้นที่แต่งตัวจะอยู่ใกล้กับทางไปห้องน้ำซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกและต่อเนื่องกันดี อาบน้ำเสร็จก็เดินเลี้ยวมาแต่งตัวได้ทันที ไม่ต้องเดินผ่านส่วนอื่นๆ

ส่วนทางด้านขวาของเตียงจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ติดกับพื้นที่หน้าต่าง ซึ่งทางโครงการจัดวางโซฟาไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นไว้พักผ่อนหรืออ่านหนังสือได้ครับ

หน้าต่างเป็นแบบกระจกบานเลื่อน เป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ และตรงส่วนนี้จะพิเศษหน่อยคือ ทางโครงการจะติดผ้าสักหลาดที่ขอบหน้าต่างเอาไว้ให้ด้วยครับ ช่วยกันเสียง กันฝุ่นและแมลงได้

ทางด้านขวามีพื้นที่ข้างเตียงเหลืออยู่ประมาณ 1.5 ม. สามารถวางโซฟาไว้นั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเขียนหนังสือก็เหมาะดี เพราะได้แสงสว่างธรรมชาติจากภายนอก แถมยังได้มองวิวเพลินๆอีกด้วย ซึ่งเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์แล้วก็ยังคงมีพื้นที่เหลือประมาณ 75 ซม. สามารถใช้งานเดินผ่าน และขึ้น-ลงเตียงได้อย่างสะดวก และบริเวณหัวเตียงฝั่งนี้ก็จะมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้เช่นเดียวกับทางด้านซ้ายเลยครับ

บริเวณปลายเตียง ทางโครงการได้ Built-in เป็นชุดชั้นวางทีวีและโต๊ะอเนกประสงค์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งทางโครงการจะไม่ได้แถมมาให้นะครับ เราจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ แต่จะมีเครื่องปรับอากาศแบบ Wall type ขนาด 12,000 BTU (ไม่ระบุยี่ห้อ) ติดมาให้ตามตำแหน่งที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยครับ

ส่วนต่อไปจะเป็นส่วนของระเบียง ซึ่งใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียมสีดำ  กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสงครับ

ตัวล็อคหน้าตาแบบเดียวกับในห้องเลยครับ แต่ไม่มีผ้าสักหลาดเหมือนตรงหน้าต่างนะ ธรณีประตูยกขอบขึ้นมาสูง 8 ซม. โดยการยกขอบสูงขึ้นมาแบบนี้จะช่วยป้องกันน้ำฝนไหลซึมเข้ามาด้านในตัวห้องได้ครับ

ขนาดพื้นที่ระเบียง 1.6 x 0.9 ม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา โดยที่ด้านนอกระเบียงจะมีก๊อกน้ำไว้สำหรับเปิดน้ำทำความสะอาดบริเวณระเบียงได้ แต่ในห้องตัวอย่างทางโครงการไม่ได้ติดมาให้ดูครับ

ราวกันตกจะได้เป็นราวกระจกซึ่งเป็นกระจกนิรภัย (Tempered Glass) ด้วยนะครับ ซึ่งเวลากระจกเทมเปอร์แตก จะแตกกระจายออกเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายเม็ดข้าวโพด มีความคมน้อย มีความปลอดภัยและแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา

ไฟบริเวณระเบียงเราจะได้เป็นโคมซาลาเปา 1 ดวงครับ

ส่วนเพดานห้องนอนจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ไฟในห้องพักจะเป็นไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า สำหรับสวิทช์และปลั๊กไฟภายในห้องทั้งหมดจะเป็นของยี่ห้อ Bticino

ภายในห้องตัวอย่างจะมี  Material board ของจริงให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยครับ

สำหรับแบบห้องอื่นๆ ที่ไม่มีห้องตัวอย่างให้ดู ได้แก่ Grand 1-Bedroom ขนาด 29.17 – 33.81 ตร.ม. เป็นห้องที่มีหน้ากว้างกว่าแบบแรก และสามารถจัดสรรพื้นที่ภายในได้อย่างลงตัวและเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยพื้นที่แรกที่เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งมีระยะดูทีวีที่กว้างมากขึ้น และมีพื้นที่วางโต๊ะกลางได้ ติดกันกับทีวีจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ซึ่งทางโครงการจัดไว้ให้เป็นพื้นที่ทานอาหาร แต่เราสามารถจัดเป็นพื้นที่อื่นๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น อาจ Built เป็นตู้และชั้นวางของสำหรับคนที่มีของเยอะ เป็นต้น แล้วใช้โต๊ะกลางหน้าทีวีเป็นพื้นที่ทานอาหารแทนก็ยังได้ หลังโซฟาเป็นห้องน้ำมีประตูเข้ามาจากทางส่วนของห้องนั่งเล่น ฟังก์ชั่นภายในมีแยกการใช้งานส่วนเปียกกับส่วนแห้ง มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ชุดโถสุขภัณฑ์ ชุดฉากกั้นอาบน้ำและอุปกรณ์อาบน้ำเช่นเดียวกันห้องตัวอย่าง

ถัดมาด้านใน ตัวห้องจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด และช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาบริเวณพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้ด้วย เริ่มต้นที่ทางด้านซ้ายเป็นพื้นที่ห้องนอน ปลายเตียงมีพื้นที่พอที่จะวางชั้นวางทีวีหรือ Built ตู้เก็บของได้ หรือจะทำเป็นพื้นที่นั่งทำงานอ่านหนังสือก็ได้เช่นกัน  ด้านซ้ายของเตียง Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนห้องตัวอย่าง และมีพื้นที่รอบเตียงสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้งสองฝั่ง ภายในห้องนอนมีกระจกบานเลื่อนช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องและเปิดระบายอากาศได้ ส่วนสุดท้ายคือพื้นที่ครัวทางด้านขวาจะได้เป็นครัวปิดที่ติดกับระเบียง จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังเพราะสามารถเปิดประตูระเบียงระบายอากาศได้เต็มที่ โดยชุดครัวจะ Built-in มาให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมดเลยครับ

แบบห้องสุดท้ายคือ 2-Bedroom เหมาะสำหรับคนที่มีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยและต้องการพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคนในบ้านให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น เมื่อเข้ามาภายในห้องจะพบกับพื้นที่ครัวเช่นเดียวกับห้องตัวอย่าง จัดเป็นครัวเปิดไม่มีประตูกระจกบานเลื่อนปิดกั้นเป็นสัดส่วนเหมือนแบบแรก แต่ถ้าอยากทำอาหารจริงจัง สามารถทำได้ด้วยการกั้นประตูกระจกเพิ่มเติมได้ เพราะทางโครงการได้จัดพื้นที่ฟังก์ชั่นนี้ให้ง่ายต่อการต่อเติมภายหลังไว้แล้ว พื้นที่ครัวจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหารและพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีหน้าต่างเป็นกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดระบายอากาศได้ ทางด้านซ้ายจะเป็นทางเดินไปยังส่วนต่างๆ ของตัวห้อง เริ่มที่ห้องน้ำซึ่งต้องใช้งานร่วมกันระหว่าง 2 ห้องนอน มีฟังก์ชั่นแยกการใช้งานส่วนเปียกกับส่วนแห้ง มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ชุดโถสุขภัณฑ์ ชุดฉากกั้นอาบน้ำและอุปกรณ์อาบน้ำเช่นเดียวกันห้องตัวอย่าง ติดกับห้องน้ำจะเป็นห้องนอนเล็ก มีขนาดพื้นที่พอแค่วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าข้างๆอีก 1 ใบ ปลายเตียงยังพอมีพื้นที่วางทีวีหรือจะทำเป็นโต๊ะทำการบ้านอ่านหนังสือสำหรับเด็กๆ ก็ได้ ผนังด้านข้างเตียงจะเป็นชุดหน้าต่างกระจกบานเลื่อนช่วยดึงแสงสว่างเข้ามาภายในห้องและสามารถเปิดระบายอากาศได้ ส่วนสุดท้ายจะเป็นห้อง Master bed room สามารถวางเตียงบริเวณกลางห้องและมีพื้นที่เหลือบริเวณรอบเตียงสามารถขึ้น-ลงเตียงได้สะดวกและวางโต๊ะข้างเตียงทั้งสองฝั่งได้ มีพื้นที่ทางด้านขวาสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งถ้าตู้เดียวยังเก็บเสื้อผ้าได้ไม่หมด จะ Built ผนังฝั่งขวาของห้องทั้งแถบให้กลายเป็นตู้เสื้อผ้าทั้งหมดเลยก็ทำได้ และระเบียงของห้องนี้จะอยู่ในห้อง Master bed room สามารถเปิดระบายอากาศและออกไปใช้งานได้

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22 May 2018

  • 1 Bedroom Compact : 24.29 – 26.39 ตร.ม. ราคา 1.69 ล้านบาท
  • Grand 1 Bedroom : 29.17 – 33.81 ตร.ม. ราคา n/a ล้านบาท
  • 2 Bedroom : 40.66 – 44.19 ตร.ม. ราคา n/a ล้านบาท

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 35,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่ากองทุน 250 บาท/ตร.ม.
  • จอง+สัญญา+ผ่อนดาวน์ รับทันทีทอง 2 บาท ทุกยูนิต (โปรโมชั่น 16/5/2561 – 30/6/2561)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ Bangkok Horizon Lite@สถานีเพชรเกษม 48 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 เข้ามาประมาณ 650 ม. เดินทางสะดวก มีทางเข้า-ออกโครงการได้หลากหลายเส้นทางซึ่งสามารถใช้เป็นทางลัดเลี่ยงรถติดไปออกถนนบางแวกได้ และยังสามารถไปออกซอยเพชรเกษม 46 ได้อีกซอยหนึ่งด้วย นอกจากนี้โครงการยังมีทางเข้า-ออกที่ประตูหลังของโครงการ สามารถใช้เป็นทางลัดเดินไปยังรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรเกษม 48 ซึ่งเป็นสถานีส่วนต่อขยายที่กำลังจะเปิดให้บริการในปี 62 นี้อีกด้วย ที่ตั้งของโครงการแม้จะอยู่ในย่านเพชรเกษมแต่เป็นทำเลที่อยู่เข้ามาในซอยจึงทำให้ไม่พลุกพล่านมากนัก เป็นทำเลอยู่ชุมชนอยู่อาศัยจึงมีความเป็นส่วนตัว  ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่จะเป็นชุมชนดั่งเดิม มีร้านค้าร้านอาหารอยู่ตามตึกแถวตลอดทั้งซอย มีทั้ง Lotus Express และเซเว่นอยู่ตรงข้ามกับหน้าโครงการพอดี แต่หากต้องการจับจ่ายซื้อของสดตามตลาดหรือเดินห้างใหญ่ๆ ก็สามารถไปเดินช้อปปิ้งกันได้แถวโซนบางแค ไม่ว่าจะเป็นตลาดบางแค, ซีคอน บางแค, เทสโก้โลตัส บางแค และเดอะมอล์ บางแค ก็อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการครับ

การเดินทางโดยใช้รถ – ค่อนข้างสะดวกเนื่องจากถนนเพชรเกษมเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสาย สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ทั้งถนนพุทธมณฑลสาย 1 ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนบรมราชชนนี ถนนราชพฤกษ์ที่สามารถไปสาทร หรือถนนจรัญสนิทวงศ์ไปสะพานพระราม 7  นอกจากนี้ยังมีถนนกาญจนาภิเษกที่สามารถใช้เดินทางไปรัตนาธิเบศร์หรือพระราม 2 ได้อีกด้วย แต่ซอยเพชรเกษม 48 เป็นซอยถนนสองเลนวิ่งสวนทางกัน ไม่มีทางเท้า และซอยค่อนข้างเล็กต้องใช้ความระมัดระวังหน่อยครับ สำหรับที่จอดรถทางโครงการจัดมาให้ 212 คัน หรือคิดเป็นประมาณ 28% ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อยถ้าเทียบกับคอนโดในระดับเดียวกัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ทำเลถนนเพชรเกษมเป็นทำเลอนาคตที่จะมีรถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วง หัวลำโพง-บางแค เปิดใช้บริการในปี 62 ซึ่งจากตัวโครงการก็สามารถเดินทางมายังสถานีรถไฟฟ้าได้สะดวกมาก เนื่องจากโครงการจะทำประตูออกทางด้านหลัง เพื่อเชื่อมต่อกับซอยเพชรเกษม 46/2 ทำให้สามารถเดินทางจากตัวโครงการมาที่สถานีรถไฟฟ้าได้ในระยะทางเพียง 200 ม. หรือจะเดินออกมาที่ถนนใหญ่เพื่อมาขึ้นรถเมล์หรือรถแท็กซี่ก็ทำได้ง่ายเช่นกัน ส่วนพี่วินมอไซด์นั้นจะอยู่บริเวณปากซอยเพชรเกษม 48 และ 46 จึงอาจทำให้การเดินทางด้วยพี่วินมอไซด์จากตัวโครงการเพื่อออกมาข้างนอกนั้นจะไม่สะดวกนัก

การออกแบบโครงการ – Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพรชเกษม 48 เป็นอาคาร Low rise 8 ชั้น 3 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-3-73.5 ไร่ มีจำนวนยูนิตรวมทั้งหมด 741 ยูนิต ซึ่งถือเป็นคอนโดยูนิตเยอะพอสมควร พื้นที่ Facility จะอยู่บริเวณชั้น 1 ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยอาคารที่พักอาศัยทั้ง 3  ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของการนำ Facility มาไว้ตรงกลางเพราะจะทำให้ห้องพักที่หันหน้าเข้าสู่ด้านในโครงการสามารถ Take view สวนและพื้นที่ส่วนกลางสวยๆ ที่ทางโครงการได้จัดไว้ให้ได้ ส่วนบริเวณโดยรอบโครงการจะไม่มีอาคารหรือตึกสูงมาบดบังวิวในระยะประชิด ทำให้ได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งในรอบด้านของตัวโครงการ แต่ถ้าต้องการได้รับวิวชั้นสูงๆ ก็สามารถขึ้นมาชมวิวและนั่งพักผ่อนที่บริเวณสวนบนชั้นดาดฟ้าที่ทางโครงการได้ทำเอาไว้ที่ชั้นบนของแต่ละอาคารได้

การออกแบบห้องพักอาศัย – แปลนห้องจัดออกมาได้ลงตัวและเป็นสัดส่วนดี มีห้องให้เลือกทั้ง 1 Bedroom – 2 Bedroom สามารถเลือกขนาดและฟังก์ชั่นให้เหมาะสมต่อการใช้งานได้ เริ่มที่ห้องตัวอย่างห้องแรก 1 Bedroom Compact พื้นที่ใช้สอย 24.29 – 26.39 ตร.ม. มีการ combine พื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกัน จึงเหมาะกับคนที่ชอบห้องที่มีพื้นที่ใช้การงานที่กว้างขวางและเปิดโล่ง หรือชอบฟังก์ชั่นการใช้งานง่ายๆ เช่น การนอนดูทีวีบนเตียงแทนการนั่งดูบนโซฟาได้ เป็นต้น และยังคงได้พื้นที่ครัวที่เป็นครัวปิดเป็นสัดส่วนดี ห้องแบบที่สอง Grand 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29.17 – 33.81 ตร.ม. ภายในห้องออกแบบพื้นที่การใช้งานต่างๆเป็นสัดส่วนมากขึ้น ได้พื้นที่ครัวปิดแบบติดระเบียง เหมาะกับคนที่ชอบการทำอาหารเพราะสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ดี ส่วนห้องแบบสุดท้ายคือ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 40.66 – 44.19 ตร.ม. เป็นห้องที่เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย เหมาะกับอยู่ด้วยกันหลายคนแต่ทุกคนยังสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ภายในห้องร่วมกันได้ดี โดยที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนทั้งสองจะมีประตูและหน้าต่างกระจกบานเลื่อน สามารถเปิดระบายและเพิ่มการหมุนเวียนอากาศได้ทั่วห้องได้ แต่จะมีห้องน้ำเพียง 1 ห้องเท่านั้นซึ่งต้องใช้ร่วมกันระหว่าง 2 ห้องนอน

วัสดุ – คุณภาพและเกรดวัสดุถือว่าให้มาในสเป็คค่อนข้างดี แต่โครงการจะขายแบบ Fully Fitted คือให้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน พื้นห้องนอนเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 mm. ส่วนพื้นครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีชุดครัว Built-in ให้ Top เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นหินแกรนิต ติดตั้งชุดเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Schon มาให้ หน้าบานตู้ปิดผิวลามิเนตสีขาว ผนังเคาน์เตอร์ครัวกรุกระเบื้องโมเสค ภายในห้องน้ำผนังและพื้นก็เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ติดกระจกเงาห้องน้ำบานใหญ่เต็มผนัง มีฉากกั้นอาบน้ำ ให้ชุดสุขภัณฑ์ของ Mogen และชุดอุปกรณ์อาบน้ำของ Cotto  และ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนติดกระจกเงาบานใหญ่ทั้งสองบาน ส่วนพื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ติดราวกันตกกระจกนิรภัย (Tempered Glass) และติด Digital Door Lock ของยี่ห้อ Sifeti ให้ที่ประตูหน้า

สาธารณูปโภค – พื้นที่ Facility จะอยู่บริเวณชั้น 1 ทำให้ง่ายต่อการใช้งานของแต่ละตึก ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยอาคารที่พักอาศัยทั้ง 3  ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำแบบ Freeform ขนาด 14.10 x 36.85 เมตร ห้องฟิตเนส ซาวน่าแยกชาย-หญิง และมีสวนหย่อมอยู่บริเวณโดยรอบ ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Lagoon Living ให้บรรยากาศสไตล์รีสอร์ทริมทะเล และมีสวนบนดาดฟ้าแยกกันแต่ละอาคาร มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 124 :  1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาแน่นไปหน่อย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 69,600 บาท/ตร.ม., 22 May 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ต้องเข้าซอย ทำเลอยู่อาศัย ไม่พลุกพล่าน หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวก เข้า-ออกได้หลายทาง มีซอยลัดไปบางแวก
  • ไม่ใช้รถ ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า 7.5/10 – ไม่ติดถนนใหญ่ แต่มีทางออกหลังโครงการเดินมาถนนเพชรเกษมได้
  • ไม่ใช้รถ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ 8/10 – มีทางออกหลังโครงการ ห่างสถานีรถไฟฟ้า 200 ม.
  • วัสดุ 8/10 – ได้แบบ Fully Fitted ให้ของดีเหมาะกับการใช้งาน
  • แบบ 8/10 – พื้นที่ใช้สอยลงตัว เป็นสัดส่วน มีห้องให้เลือก 3 ขนาด
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ออกแบบน่าสนใจให้มาครบ สระว่ายน้ำ , Fitness , สวนส่วนกลาง

  • MAIN CLASS
  • 7.625 / 10.00 คะแนน ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า
  • 7.70 / 10.00 คะแนน เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ

BOTTOM LINE

Bangkok Horizon Lite @ สถานีเพชรเกษม 48 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านเพชรเกษม-บางแค ทำเลเดินทางสะดวก อนาคตมีรถไฟฟ้าใช้ ทำเลไม่พลุกพล่านได้ความเป็นส่วนตัว หาของกินง่าย แบบห้องลงตัวเป็นสัดส่วน วัสดุดี  ส่วนกลางครบมีดีไซน์น่าใช้งาน มีงบประมาณระดับ 1.69 – 3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 21,000 บาท/เดือน