จากแผนธุรกิจที่แข่งกัน All Time High ช่วงต้นปี 2566 กลับกลายเป็นหนังคนล่ะม้วน หลังตัวเลขผลประกอบการในปีที่แล้ว ไม่ได้เติบโตอย่างที่คาดหวัง เนื่องจากมีปัจจัยลบที่รุมเร้าหลายด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางเมือง การยกเลิก LTV ภาระหนี้ครัวเรือน และดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น และความสามารถในการผ่อนชำระลดลง กระทบต่อยอดขาย และยอดโอนกรรมสิทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อ้างอิงจากข้อมูลของ REIC (ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ฯ) ในช่วง Q4 ปี 2566 การโอนกรรมสิทธิ์บ้านคอนโดทั่วประเทศ ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์เพียง  96,163  หน่วย ลดลง 12.7%  เมื่อเทียบกับ Q4 ปี 2565 ที่มีจำนวน 110,210 หน่วย

การลดลงของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ได้ส่งผลให้มูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ลดลงเช่นกัน โดยพบว่า Q4 ปี 2566 มีจำนวน 177,473  ลบ. ลดลง 14.8%  เมื่อเทียบกับ Q4 ปี 2565 ที่มีจำนวน  208,339  ล้านบาท

————————-

ที่มา

รายได้ดังกล่าว เป็นตัวเลขที่ AP นับรวมรายได้ 100% จากโครงการร่วมลงทุน (JV) เรียบร้อยแล้ว